ระวัง! 5 เครื่องดื่มที่ไม่ควรกินคู่กับยา ดื่มผิดอาจเป็นอันตราย!

ระวัง! 5 เครื่องดื่มที่ไม่ควรกินคู่กับยา ดื่มผิดอาจเป็นอันตราย!

ระวัง! 5 เครื่องดื่มที่ไม่ควรกินคู่กับยา ดื่มผิดอาจเป็นอันตราย!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

5 เครื่องดื่มที่ “ห้าม” กินพร้อมยา ป้องกันผลข้างเคียง

การรับประทานยาร่วมกับเครื่องดื่มบางชนิดอาจทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ผิดปกติ หรืออาจเกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายโดยไม่รู้ตัว แม้จะดูเหมือนไม่มีอันตรายใด ๆ แต่เครื่องดื่มบางประเภทสามารถยับยั้งหรือเร่งการดูดซึมของยาได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มร่วมกับยาเป็นอย่างยิ่ง ส่อง 5 เครื่องดื่มที่ไม่ควรกินคู่กับยาที่เราพึงระวัง ดังนี้: 

1. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่งเมื่อต้องรับประทานยาหลายชนิด โดยเฉพาะยาแก้ปวดกลุ่มพาราเซตามอล ยาแก้แพ้ ยาคลายเครียด หรือยานอนหลับ เพราะอาจส่งผลให้ตับทำงานหนักเกินไป เสี่ยงต่อการเกิดตับอักเสบ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดอาการง่วงซึมหรือเวียนศีรษะมากกว่าปกติ

2. กาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

คาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท หากดื่มร่วมกับยาบางชนิด เช่น ยาลดความดัน หรือยานอนหลับ อาจทำให้ยาสูญเสียประสิทธิภาพ หรือทำให้หัวใจเต้นเร็วและความดันโลหิตสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้ยาขับปัสสาวะออกฤทธิ์แรงเกินไปจนเกิดภาวะขาดน้ำ

3. นมและเครื่องดื่มที่มีแคลเซียมสูง

แคลเซียมที่อยู่ในนมหรือผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต อาจจับตัวกับตัวยาบางประเภท เช่น ยาปฏิชีวนะกลุ่มเตตราไซคลิน หรือยาลดกรดที่มีส่วนผสมของเหล็ก ซึ่งทำให้ร่างกายดูดซึมยาได้น้อยลงอย่างมาก ดังนั้นจึงควรเว้นระยะห่างระหว่างการดื่มนมและการกินยาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

4. น้ำผลไม้บางชนิด

น้ำเกรปฟรุตมีสารบางชนิดที่สามารถยับยั้งเอนไซม์ในตับ ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้ในการสลายยาในร่างกาย การยับยั้งนี้จะทำให้ยาบางชนิด เช่น ยาลดไขมันในเลือด หรือยาความดันโลหิต ออกฤทธิ์แรงและนานเกินไปจนอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรืออาการเวียนศีรษะได้

5. น้ำอัดลมและเครื่องดื่มชูกำลัง

เครื่องดื่มกลุ่มนี้มักมีปริมาณคาเฟอีนและน้ำตาลสูง ซึ่งอาจรบกวนการดูดซึมยาได้ โดยเฉพาะยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท เช่น ยารักษาโรคสมาธิสั้น หรือยาลดน้ำหนัก การดื่มร่วมกับยาอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือความดันโลหิตสูงผิดปกติ

การรับประทานยาควรใช้ “น้ำเปล่า” เป็นของเหลวหลัก เพราะเป็นของเหลวที่ปลอดภัยที่สุดและไม่รบกวนการดูดซึมหรือการออกฤทธิ์ของยา สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มอื่นร่วมกับการกินยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ เพื่อป้องกันอันตรายหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด

อ่านเพิ่มเติม:

แหล่งอ้างอิง

  1. โรงพยาบาลบางปะกอก
  2. โรงพยาบาลบางมด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล