7 วิธี ลดอันตรายต่อสุขภาพจากการ "บ้างาน"

7 วิธี ลดอันตรายต่อสุขภาพจากการ "บ้างาน"

7 วิธี ลดอันตรายต่อสุขภาพจากการ "บ้างาน"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนปัจจุบัน ล้วนแล้วแต่มีเป้าหมายเพื่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน รายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย เพราะนี่เหมือนเป็นดัชนีชี้วัดความประสบความสำเร็จในชีวิต

ด้วยภาวะการแข่งขันสูง และเป็นระบบแบบ “อ่อนแอก็แพ้ไป” หลายคนจึงต้องดิ้นรนทำงานให้ตัวเองอยู่รอด ทำงานหนักจนกลายเป็นคนบ้างานโดยไม่รู้ตัว และส่งผลให้หลงลืมดูแลสุขภาพ ลืมคิดไปว่าอาจตายก่อนได้ใช้เงินก็เป็นได้ Tonkit360 จึงรวบรวม 7 วิธีดูแลสุขภาพฉบับคนบ้างานมาฝากกัน

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับเป็นยาที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีที่สุด อย่าถึงกับต้องทำงานแบบโต้รุ่งจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะการพักผ่อนน้อยนอกจากจะทำให้เสียสุขภาพแล้ว ยังทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง และอาจกลายเป็นโรคนอนไม่หลับ ควรกำหนดเวลานอนให้เป็นเวลา และพักผ่อนให้ได้อย่างน้อยสัก 5 ชั่วโมงก็ยังดี ที่สำคัญ เมื่อถึงเวลานอนก็ต้องหยุดคิดเรื่องงานด้วย เพื่อจะได้นอนหลับอย่างมีคุณภาพ

  1. ขยับร่างกายบ่อยๆ

อย่างที่รู้กันว่าการนั่งทำงานหน้าจอคอมนานๆ ทำให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรมได้ และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เพราะบางคนถึงกับไม่ลุกไปไหนเลย นั่งอยู่กับที่ยาวตลอดเวลางาน ควรพักงานแล้วลุกมาขยับเขยื้อนร่างกายบ้างในทุกๆ ชั่วโมง เพื่อให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ไม่ปวดเมื่อย ไม่ควรนั่งติดที่นานๆ แค่เดินไปห้องน้ำ ออกไปหาข้าวกินช่วงพัก ลุกขึ้นมาสะบัดแขนสะบัดขาง่ายๆ หน้าคอม ก็ช่วยได้เยอะแล้ว

  1. กินอาหารให้ตรงเวลา

อาหารมื้อเช้าสำคัญแต่หลายคนกลับปฏิเสธอาหารเช้า อีกทั้งบางคนยังทำงานแบบลากยาว ถึงเวลากินก็ไม่กิน ส่งผลให้ร่างกายทำงานรวน ระบบย่อยอาหารพัง ท้องไส้ปั่นป่วนจนเกิดอาการคลื่นเหียนอาเจียน เป็นโรคกระเพาะ บางรายอาจหนักถึงขั้นหน้ามืดเป็นลมไปเลยก็มี เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอตลอดวัน จึงต้องกินอาหารให้ตรงเวลา ถ้าไม่ค่อยหิวก็ใช้วิธีแบ่งย่อยเป็นมื้อเล็กๆ แทน ที่สำคัญ อย่าเอาของกินมาวางหน้าคอม เพื่อที่จะได้ลุกเดินบ้างนั่นเอง

  1. ออกกำลังกายบ้าง

ใครๆ ก็รู้ว่าการออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เพราะการออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนดีขึ้นและส่งไปเลี้ยงร่างกายได้มากขึ้น ช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกาย หัวใจสูบฉีดเลือดดี และเพิ่มพลังงาน นอกจากสุขภาพกายแล้ว ยังมีผลดีต่อสุขภาพจิตด้วย เมื่อร่างกายกระปรี้กระเปร่า เราก็ร่าเริงแจ่มใส และมีสมาธิในการทำงานดีขึ้น

  1. ผ่อนคลายความเครียด

อย่าปล่อยให้ตัวเองเครียดสะสม เนื่องจากปกติคนเราจะมีบางช่วงที่เครียดโดยไม่รู้ตัวอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้ารู้ตัวว่ากำลังเครียดอยู่ ก็ควรรีบหาวิธีปลดปล่อยความเครียดไปบ้าง หาหนังสนุกๆ ดู หาเพลงที่ชอบฟัง อ่านหนังสือตลกๆ ที่ไม่ต้องมีสาระบ้างก็ได้ เพราะในช่วงที่เราหัวเราะ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ให้ความสุข ช่วยให้ผ่อนคลายความเครียด และการหัวเราะก็ยังได้บริหารกล้ามเนื้อบนใบหน้า ให้หน้าดูเด็กลงได้อีกด้วย

  1. ดื่มน้ำมากๆ

น้ำเปล่านี่แหละดีที่สุดแล้ว ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว จะช่วยเสริมการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ ปรับสมดุลของอุณหภูมิในร่างกาย บำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น ร่างกายสดชื่น และป้องกันภาวะอ่อนเพลีย อีกทั้งยังทำให้อยากเข้าห้องน้ำบ่อยๆ จะได้ลุกเดินไปไหนมาไหนบ้าง แต่ควรใช้วิธีจิบบ่อยๆ ตลอดวัน แทนการดื่มรวดเดียว เพื่อที่ร่างกายจะได้ได้รับน้ำอยู่ตลอดไม่ขาดช่วง

  1. กินของที่มีประโยชน์

พวกอาหารจั้งก์ฟู้ดเป็นตัวเลือกหลักๆ ที่มนุษย์เงินเดือนมักเลือกรองท้องเวลารีบๆ หรือเอามาวางข้างคอม เพราะกินง่าย กินเสร็จไว ทำงานต่อได้เลย อย่าลืมว่าอาหารประเภทนี้ให้พลังงานสูง แต่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายเลย ยิ่งถ้านั่งทำงานอยู่กับที่ทั้งวัน ก็ยิ่งเสี่ยงจะทำให้อ้วนลงพุง ระบบย่อยอาหารก็แย่อีก ท้องผูก ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวแน่นอน ดังนั้น ควรเลือกกินเป็นผักผลไม้แทน และต้องไม่ลืมกินอาหารมื้อหลักด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook