ถั่วแระญี่ปุ่น ดียังไง? รู้จักประโยชน์จุกๆ 13 ข้อ คนรักสุขภาพห้ามเลื่อนผ่าน

ถั่วแระญี่ปุ่น ดียังไง? รู้จักประโยชน์จุกๆ 13 ข้อ คนรักสุขภาพห้ามเลื่อนผ่าน

ถั่วแระญี่ปุ่น ดียังไง? รู้จักประโยชน์จุกๆ 13 ข้อ คนรักสุขภาพห้ามเลื่อนผ่าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถั่วแระญี่ปุ่น (Edamame) เป็นพืชตระกูลถั่วที่มีรสชาติอร่อย แคลอรีต่ำ และอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย จึงเป็นของว่างที่เหมาะกับคนรักสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือเลือกรับประทานโปรตีนจากพืช

คุณค่าทางโภชนาการ

ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ระบุว่า ถั่วแระปรุงสุก 1 ถ้วยตวง หรือประมาณ 160 กรัม ให้พลังงานและสารอาหาร ดังนี้

  • พลังงาน 224 กิโลแคลอรี

  • โปรตีน 18.4 กรัม

  • คาร์โบไฮเดรต 13.8 กรัม โดยเป็นปริมาณน้ำตาล 3.38 กรัม

  • ไฟเบอร์ 8 กรัม

  • ธาตุเหล็ก 3.52 มิลลิกรัม

  • แคลเซียม 97.6 มิลลิกรัม

  • แมกนีเซียม 99.2 มิลลิกรัม

  • ฟอสฟอรัส 262 มิลลิกรัม

  • โพแทสเซียม 674 มิลลิกรัม

  • สังกะสี 2.13 มิลลิกรัม

  • ซีลีเนียม 1.28 ไมโครกรัม

  • วิตามินซี 8.48 มิลลิกรัม

  • โฟเลต 458 ไมโครกรัม

  • โคลีน 87.5 มิลลิกรัม

  • วิตามินเอ 40 ไมโครกรัม

  • เบต้าแคโรทีน 278 ไมโครกรัม

  • ลูทีน และซีแซนทีน 2,510 ไมโครกรัม

ประโยชน์ของถั่วแระญี่ปุ่น

  1. อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ: โดยเฉพาะโฟเลตและวิตามินเคที่สูงมาก ช่วยเสริมสร้างระบบเลือดและการแข็งตัวของเลือด อีกทั้งสนับสนุนการทำงานของระบบประสาท

  2. โปรตีนจากพืชคุณภาพสูง: มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนเทียบเท่าโปรตีนจากสัตว์ เหมาะกับผู้ทานมังสวิรัติหรือวีแกน

  3. ช่วยลดคอเลสเตอรอล: ไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดระดับ LDL (ไขมันเลว) และส่งเสริม HDL (ไขมันดี) ทำให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง

  4. ควบคุมน้ำตาลในเลือด: มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low GI) จึงไม่ทำให้ระดับน้ำตาลพุ่งสูง เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาล 

    มีการศึกษาในปี 2012 พบว่า ผู้ที่รับประทานถั่วไม่หวาน เช่น ถั่วแระญี่ปุ่น มีความเสี่ยงต่อเบาหวานชนิดที่ 2 น้อยลง และยังลดความเสี่ยงของโรคอื่น ๆ ได้ด้วย

  5. บรรเทาอาการวัยทอง: ไอโซฟลาโวนในถั่วเหลืองมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ อารมณ์แปรปรวน และปัญหาการนอนหลับในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

  6. ลดความเสี่ยงกระดูกพรุน: ไอโซฟลาโวนและแคลเซียมช่วยชะลอการสูญเสียมวลกระดูกในผู้หญิงวัยทองและหลังวัยหมดประจำเดือน

  7. ชะลอภาวะสมองเสื่อม: การบริโภคถั่วแระญี่ปุ่นสม่ำเสมออาจช่วยลดการสะสมของเบต้าอะไมลอยด์ ซึ่งเป็นโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์

  8. ลดความเสี่ยงโรคซึมเศร้า: โฟเลตช่วยส่งเสริมสารเคมีในสมองที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ เช่น เซโรโทนิน

  9. เสริมภาวะเจริญพันธุ์: โฟเลตและธาตุเหล็กในถั่วแระช่วยส่งเสริมสุขภาพของระบบสืบพันธุ์ โดยเฉพาะในหญิงวัยเจริญพันธุ์

  10. อาจลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมและต่อมลูกหมาก: งานวิจัยในเอเชียพบว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคดังกล่าว โดยเฉพาะในผู้ที่มีกลไกการเผาผลาญไอโซฟลาโวนที่ดี

  11. ช่วยควบคุมน้ำหนัก: ด้วยปริมาณโปรตีนและไฟเบอร์ที่สูง ถั่วแระญี่ปุ่นช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดหรือควบคุมน้ำหนัก

  12. ต้านการอักเสบ: สารต้านอนุมูลอิสระในถั่วแระญี่ปุ่น เช่น ไอโซฟลาโวน ลูทีน ซีแซนทีน มีฤทธิ์ต้านการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง

  13. สนับสนุนสุขภาพผิวและสายตา: ลูทีนและซีแซนทีนเป็นสารที่ช่วยป้องกันจอประสาทตาเสื่อม และยังปกป้องผิวจากความเสียหายของรังสี UV

วิธีรับประทาน

ควรปรุงสุกโดยการต้ม นึ่ง หรืออบร้อน และกินเฉพาะเมล็ดด้านใน เปลือกไม่ควรรับประทานเพราะเหนียวและย่อยยาก

ข้อควรระวัง

  • ผู้ที่แพ้ถั่วหรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยควรหลีกเลี่ยง

  • ผู้ที่มีปัญหาไทรอยด์ควรระวัง แม้งานวิจัยจะยังไม่พบผลกระทบที่ชัดเจน

ถั่วแระญี่ปุ่นเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพในหลายด้าน ทั้งช่วยคุมระดับน้ำตาล คอเลสเตอรอล ส่งเสริมสมอง กระดูก ฮอร์โมน ผิวพรรณ และสายตา เหมาะเป็นของว่างในทุกเพศทุกวัย แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล