อะโวคาโดดีจริงหรือ? 6 กลุ่มคนที่ควรเลี่ยงหรือกินให้น้อยลง

อะโวคาโด ขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน โพแทสเซียม ใยอาหาร วิตามิน B, C, E และ K ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน ทั้งช่วยบำรุงสายตา เสริมสุขภาพหัวใจ ระบบย่อยอาหาร ป้องกันโรคกระดูกพรุน และอาจช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งได้
แต่ถึงแม้จะมีประโยชน์มากแค่ไหน ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่ามีกลุ่มคนบางประเภทที่ ควรจำกัดการกินอะโวคาโด เพราะอาจส่งผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้
ใครบ้างที่ควรกินอะโวคาโดให้น้อยลง?
1.คุณแม่ที่ให้นมลูก
การกินอะโวคาโดในปริมาณมากอาจทำให้ปริมาณน้ำนมลดลง ดังนั้นคุณแม่ที่กำลังให้นมควรกินในปริมาณพอดี ไม่มากเกินไป
2.คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้
อะโวคาโดอาจทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ท้องอืด หรือท้องเสียในคนที่มีระบบย่อยอาหารบอบบาง แนะนำให้กินไม่เกินครึ่งลูกต่อวัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้
3.ผู้ที่แพ้สารบางอย่างในอะโวคาโด
บางคนอาจมีอาการแพ้ เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว หรือหายใจไม่สะดวกหลังจากกินอะโวคาโด หากคุณเป็นหนึ่งในนั้น ควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด
4.ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ
อะโวคาโดมีคอลลาเจนสูง ซึ่งหากร่างกายย่อยไม่หมด อาจไปสะสมและทำร้ายเซลล์ตับได้ ใครที่มีโรคตับควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินเป็นประจำ
5.ผู้ที่กำลังใช้ยารักษาโรค
อะโวคาโดอาจมีปฏิกิริยากับยาบางประเภท เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยาลดไขมัน อาจทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง หรือเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียง ดังนั้นถ้าคุณกินยาอยู่ ควรสอบถามแพทย์ก่อน
6.คนที่อ้วน หรือกำลังลดน้ำหนัก
แม้อะโวคาโดจะดีต่อสุขภาพ แต่ก็เป็นผลไม้ที่มีไขมันสูง กินมากอาจทำให้น้ำหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัว ถ้าอยากลดน้ำหนัก ควรควบคุมปริมาณให้เหมาะสม
สรุป
อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพก็จริง แต่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน การรู้ว่าใครควรกินเท่าไหร่ ช่วยให้เราได้ประโยชน์โดยไม่เสี่ยงสุขภาพ ใครที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ลองปรับพฤติกรรมการกินให้เหมาะสม แล้วจะปลอดภัยและได้ผลดีในระยะยาว
อ่านเพิ่มเติม