5 อาหารที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่า ช่วยให้ "ความจำ" ดีขึ้น

5 อาหารที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่า ช่วยให้ "ความจำ" ดีขึ้น

5 อาหารที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่า ช่วยให้ "ความจำ" ดีขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่ออายุมากขึ้นคนจำนวนมากอาจเจอกับปัญหาลืมง่าย เรียนรู้และจำบางอย่างช้าลง ตลอดจนขาดสมาธิในการทำงาน มารู้จักอาหาร 5 ชนิด ที่คนญี่ปุ่นแนะนำว่าหากรับประทานเป็นประจำจะช่วยคงความจำให้ดีขึ้นและทำให้มีสมาธิในการเรียนและการทำงานดีขึ้นกัน

5 อาหารที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่า ช่วยให้ "ความจำ" ดีขึ้น

  1. ปลาสีน้ำเงิน

ปลาสีน้ำเงินได้แก่ ปลาแมคเคอเรล ปลาซันมะ ปลาทูน่า ปลาทู ปลาซาบะและปลาซาร์ดีน เป็นต้น อุดมไปด้วยกรดไขมันได้แก่ DHA (Docosahexaenoic acid) และ EPA (Eicosapentaenoic acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่เป็นส่วนประกอบในสมองถึงสองในสามส่วน จากการศึกษาในหนูพบว่าหนูที่เลี้ยงด้วยอาหารที่มี DHA จะมีความสามารถในการเรียนรู้มากกว่าหนูที่ไม่เลี้ยงด้วยอาหารที่มี DHA นอกจากปลาเนื้อสีน้ำเงินแล้วน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์และน้ำมันเมล็ดงาม้อน ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับการรับ DHA และ EPA เข้าสู่ร่างกาย

  1. ช็อคโกแลต

จากงานวิจัยร่วมกันระหว่างบริษัทผู้ผลิตช็อคโกแลตเมจิ (Meji) และมหาวิทยาลัย Aichi Gakuin เปิดเผยว่าการรับประทานช็อคโกแลตที่มีปริมาณคาเคาสูงเป็นประจำจะช่วยเพิ่ม BDNF (Brain-derived neurotrophic factor) ซึ่งเป็นโปรตีนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของสมอง ช่วยกระตุ้นเซลล์ประสาทในสมองให้แตกแขนงกิ่งก้านสาขา และก่อให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทอย่างมากมาย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อกระบวนการเรียนรู้และความจำของคนเรา นอกจากช่วยคงความจำของสมองแล้ว จากศึกษาพบว่าหลังจากรับประทานช็อคโกแลตที่มีปริมาณคาเคา (Cacao) 70 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณ 48  กรัม เป็นเวลา 30 นาที ปริมาณคลื่นแกมม่า ซึ่งเป็นคลื่นที่เกี่ยวกับการมีสมาธิจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

  1. สาหร่ายทะเล

สาหร่ายทะเล เช่น โนริ วาคาเมะ และฮิจิคิ  (Hijiki) อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ เส้นใยชนิดนี้เป็นอาหารของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้และช่วยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมในลำไส้ให้ดี เพราะสมองและลำไส้มีความเชื่อมโยงกัน หากสภาพแวดล้อมในลำไส้ดีก็จะเสริมให้ความจำดีด้วย นอกจากสาหร่ายทะเลแล้วผักประเภทราก (มันฝรั่ง แครอท มันเทศ เป็นต้น)  กีวี อะโวคาโด ข้าวบาร์เลย์ และลูกพรุน ก็อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำได้

  1. กล้วย

กลูโคสเป็นน้ำตาลที่สมองต้องการเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานสำหรับสมอง หากร่างกายขาดกลูโคส สมองส่วนฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) จะอ่อนแอลงและส่งผลให้ระบบความจำถูกทำลาย กล้วยอุดมไปด้วยน้ำตาลสามชนิด ได้แก่ กลูโคส ฟรุกโตส และซูโครส ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานโดยใช้เวลาที่แตกต่างกันตามชนิดของน้ำตาล จึงทำให้มีพลังงานสะสมไว้ได้เป็นเวลานาน อีกทั้งกล้วยยังเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับของหวานประเภทแป้งอื่นๆ ดังนั้นกล้วยจึงเป็นทางเลือกของอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพและสมอง

  1. น้ำ

ร่างกายประกอบไปด้วยน้ำ 60-70 เปอร์เซ็นต์ จากงานวิจัยพบว่าหากร่างกายสูญเสียน้ำแค่เพียงน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวก็อาจทำให้ความสามารถในการจำและการเรียนรู้ลดลง ดังนั้นหากรู้สึกว่าสมองเหนื่อยล้าก็ควรสร้างความสดชื่นโดยการดื่มน้ำ 1-2 แก้ว นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าการดื่มน้ำในระหว่างการเรียนหรืออ่านหนังสือจะช่วยลดความเครียดและทำให้จำสิ่งที่เรียนได้ดีขึ้นด้วย

นอกจากอาหารแล้วการที่จะคงความจำของเราไปนานๆ คือ การใช้ชีวิตอย่างสมดุล มีอารมณ์ขัน มองโลกในแง่ดีและการออกกำลังกายที่พอเหมาะอย่างสม่ำเสมอ สมองคนเราทำงานช้าลงหลังจากอายุย่างเข้า 40 ปี ดังนั้นเพื่อให้มีความจำดีไปนานๆ มาดูแลตัวเราและคนที่รักตั้งแต่วันนี้กัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook