องุ่นไชน์มัสแคทคืออะไร เพราะอะไรจึงนิยมทานกัน

องุ่นไชน์มัสแคทคืออะไร เพราะอะไรจึงนิยมทานกัน

องุ่นไชน์มัสแคทคืออะไร เพราะอะไรจึงนิยมทานกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Muscat (มัสแคท) หรือที่เราเรียกกันว่า องุ่นไชน์มัสแคท เป็นตระกูลองุ่นที่มีหลากหลายสายพันธุ์ สายพันธุ์หนึ่งที่เป็นที่นิยมคือ Shine Muscat ซึ่งสามารถรับประทานสดได้ดีเช่นกัน องุ่น Shine Muscat พัฒนาขึ้นโดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การเกษตรแห่งชาติ ประเทศญี่ปุ่น มีต้นกำเนิดในเมืองอากิซึ จังหวัดฮิโรชิม่า เป็นองุ่นที่สุกเร็วในช่วงกลางเดือนสิงหาคม องุ่นพันธุ์นี้ได้รับการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างองุ่นมัสแคทอเล็กซานเดรีย (Muscat of Alexandria) ซึ่งเป็นองุ่นที่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสดี แต่ไม่เหมาะกับสภาพอากาศของญี่ปุ่น เนื่องจากทนต่อโรคและแมลงได้ไม่ดี กับองุ่นพันธุ์สเตอเบน (Steuben) ซึ่งเป็นองุ่นอเมริกันที่มีปริมาณน้ำตาลสูงที่สุด แต่เนื้อเหนียวและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์

สำหรับผลของ องุ่นไชน์มัสแคท หรือ บางคนเรียก "องุ่นไซมัสแคท" จะมีขนาดใหญ่กว่าองุ่นทั่วไป ให้ช่อผลที่แน่น ผิวองุ่นตึงเรียบเนียน สีเขียวอ่อนสดใส เกือบจะไม่มีเมล็ด เนื้อแน่นมีลักษณะโปร่งแสงคล้ายเจลลี นุ่ม กรอบฉ่ำน้ำ รสชาติหวานหอมละมุน เปรี้ยวน้อย ผิวเปลือกบางแต่ไม่ปริแตกง่าย สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือกและเก็บได้นาน

คุณค่าทางโภชนาการ พลังงาน 69 กิโลแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 18.1 กรัม น้ำตาล 15.48 กรัม ใยอาหาร 0.9 กรัม ไขมัน 0.16 กรัม

ประโยชน์ 

  1. สารแอนโทไซยานินเป็นจำนวนมาก มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและฟื้นฟูการมองเห็น และเป็นสารต้านการก่อมะเร็งในร่างกายได้ดี
  2. สารเทอร์ซอทิลบีนที่จะช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคอัลไซเมอร์
  3. สารแอนตี้ออกซิแดนท์หลายชนิด ซึ่งได้แก่ สารคาเตชิน ที่เป็นเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

องุ่นไชน์มัสแคท สีเขียวอ่อนน่ารับประทาน

องุ่นไชน์มัสแคทได้รับการพัฒนาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องขององุ่นทั้งสองพันธุ์ โดยได้รับข้อดีจากองุ่นมัสแคทอเล็กซานเดรียในเรื่องของรสชาติและเนื้อสัมผัส และได้รับข้อดีจากองุ่นพันธุ์สเตอเบนในเรื่องของความต้านทานต่อโรคและแมลง และความเหมาะสมกับสภาพอากาศของญี่ปุ่น

องุ่นไชน์มัสแคทได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพันธุ์ใหม่ในปี 2003 และได้กลายเป็นองุ่นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และทั่วโลกในเวลาต่อมา เนื่องจากมีรสชาติหวาน อร่อย เนื้อกรอบ และกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์

องุ่นพันธุ์นี้เป็นองุ่นทรงกระบอกที่มีน้ำหนักประมาณ 400-500 กรัม เมื่อสุกเต็มที่จะมีสีเหลืองอมเขียว ผลมีขนาดเล็กและยาวซึ่งใกล้เคียงกับองุ่นพันธุ์เคียวโฮ ใบองุ่นมีสีเขียวและเป็นคลื่นเมื่อสุก ด้านล่างของใบปกคลุมด้วยขนนุ่มๆ อย่างหนาแน่น องุ่นพันธุ์นี้ทนทานต่อสภาพอากาศหนาวเย็นได้ดี และสีไม่ซีดจางแม้ในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัด องุ่นพันธุ์นี้มีรสชาติ เนื้อสัมผัส และกลิ่นหอมที่เทียบได้กับองุ่นยุโรป และยังเก็บรักษาได้ดีเยี่ยม องุ่นพันธุ์นี้เป็นไม้ผลที่แข็งแรงและสามารถให้ผลผลิตครั้งแรกภายใน 3 ปีหลังปลูก

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook