4 เทคนิคดูแลผู้สูงอายุ ไม่ล้ม-ไม่ลืม-ไม่เศร้า-กินข้าวอร่อย

4 เทคนิคดูแลผู้สูงอายุ ไม่ล้ม-ไม่ลืม-ไม่เศร้า-กินข้าวอร่อย

4 เทคนิคดูแลผู้สูงอายุ ไม่ล้ม-ไม่ลืม-ไม่เศร้า-กินข้าวอร่อย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรมอนามัย เผย ผู้สูงอายุ 95% เจ็บป่วย แนวโน้มมีภาวะพึ่งพิงสูงขึ้น มีภาวะสมองเสื่อม 8% แนะวิธีดูแลผู้สูงอายุ 4 ด้าน เน้นออกกำลังกายป้องกันการล้ม ฝึกสมองป้องกันการลืม นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ ป้องกันโรคซึมเศร้า กินอาหารครบ 5 หมู่ ดูแลช่องปาก ช่วยกินข้าวอร่อย

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวภายหลังเปิดประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุระดับชาติ ประจำปี 2560 ว่า สังคมไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งมีผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และ สุขภาพ โดยพบว่า ผู้สูงอายุร้อยละ 95 มีความเจ็บป่วยด้วยโรค และปัญหาสุขภาพ มีเพียงร้อยละ 5 ที่มีสุขภาพแข็งแรง โดยมีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์เพียงร้อยละ 46 นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้สูงอายุอยู่คนเดียว จำนวน 6 แสนคน หรือร้อยละ 7.7 อยู่ลำพังกับคู่สมรส จำนวน 1.3 ล้านคน หรือ ร้อยละ 16

ทั้งนี้ ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยในปี 2553 พบร้อยละ 19.7 และจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 58.3 ในปี 2583 และจากรายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 ปี 2557 โดยสำนักงานสำรวจสุขภาพประชาชนไทย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข พบว่า มีผู้สูงอายุอายุ 60 ปีขึ้นไป มีภาวะสมองเสื่อม ร้อยละ 8.1 โดยพบในผู้สูงอายุชายร้อยละ 6.8 ผู้สูงอายุหญิงร้อยละ 9.2 หรือเท่ากับผู้สูงอายุวัยเกิน 60 ปี ทุกๆ 12 คน จะพบเป็นโรคสมองเสื่อม 1 คน
  

กรมอนามัยตั้งเป้าหมายให้คนไทยมีอายุขัยเฉลี่ยเมื่อแรกเกิดในอีก 20 ปีข้างหน้า อยู่ที่ 85 ปี และต้องอยู่อย่างมีสุขภาพดี ไม่น้อยกว่า 75 ปี ที่ผ่านมา มีการดำเนินการส่งเสริมสุขภาพเเก้ไขปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุด้วย แนวคิด ไม่ล้ม ไม่ลืม ไม่ซึมเศร้า กินข้าวอร่อย หรือ 4 Smart ได้แก่ 

1. Smart Walk หรือ ไม่ล้ม โดยออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อร่างกายที่แข็งแรง ไม่หกล้ม โดยให้ผู้สูงอายุออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที 

2. Smart Brain & Emotional หรือไม่ลืม ดูแลฝึกทักษะทางสมอง ส่งเสริมสุขภาพจิตและอารมณ์ โดยการเข้าร่วมกิจกรรมในชมรมผู้สูงอายุ โรงเรียนผู้สูงอายุ รณรงค์และส่งเสริมพฤติกรรมการไม่สูบบุหรี่

3. Smart Sleep หรือไม่ซึมเศร้า คือ นอนหลับอย่างเพียงพออย่างน้อยวันละ 7 - 8 ชั่วโมง 

4. Smart Eat หรือกินข้าวอร่อย คือ กินอาหารตามหลักโภชนาการ ครบ 5 หมู่ ลดหวาน มัน เค็ม เน้นผัก ผลไม้ เลือกอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพสูง เช่น ปลาทะเล ซึ่งมีกรดโอเมก้า 3 สูง ช่วยบำรุงประสาท สายตา และสมอง ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพช่องปากที่ดี เพื่อความสามารถในการบดเคี้ยวอาหาร มีฟันใช้งานได้อย่างน้อย 20 ซี่ 4 คู่สบ ตลอดจนการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ ความรอบรู้สำหรับประชาชน ผ่านแอปพลิเคชัน สูงวัย สมองดี และคู่มือส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุและป้องกันภาวะสมองเสื่อม ไม่ล้ม ไม่ลืม ไม่ซึมเศร้า กินข้าวอร่อย 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook