เคี้ยวหมากฝรั่งไม่มีน้ำตาล อาจเสี่ยง “ท้องเสีย” ได้

เคี้ยวหมากฝรั่งไม่มีน้ำตาล อาจเสี่ยง “ท้องเสีย” ได้

เคี้ยวหมากฝรั่งไม่มีน้ำตาล อาจเสี่ยง “ท้องเสีย” ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ข่าวล่ามาแรงที่ประเทศอเมริกาที่กำลังแพร่สะพัดไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ตอยู่ในขณะนี้ คือ ข่าวที่ Sean Spicer โฆษกประจำทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์กับ Washington Post ว่าเขาติดหมากฝรั่งแบบ sugar-free หรือหมากฝรั่งแบบไม่มีน้ำตาลมาก โดยกินวันละ 35 แผ่นเลยทีเดียว ชาวอเมริกันหลายคนที่อ่านข่าวนี้ จึงสงสัยว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งมากขนาดนั้นในวันเดียว ส่งผลกระทบอะไรต่อร่างกายหรือไม่

Roshini Rajapaksa นายแพทย์โรคทางเดินอาหาร ประจำศูนย์ Langone Medical Center ของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ค และบรรณาธิการเว็บไซต์ Health.com กล่าวว่า การเคี้ยวหมากฝรั่งจำนวนมากในวันเดียว ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อร่างกาย หากแต่การเลือกเคี้ยวหมากฝรั่งแบบ sugar-free หรือสูตรไม่มีน้ำตาล ที่ใส่สารทดแทนความหวาน (ซอร์บิทอล) ในปริมาณมาก สารทดแทนความหวานนั้นอาจทำปฏิกิริยากับร่างกายคล้ายกับยาระบาย ที่อาจทำให้ท้องอืด รวมไปถึงท้องเสียได้

มีรายงานในปี 2008 จากทั้ง 2 กรณีศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ BMJ ว่า การบริโภคสารให้ความหวานแทนน้ำตาลแบบซอร์บิทอล (sorbitol ที่พบมากในหมากฝรั่ง) ในปริมาณมาก อาจก่อให้เกิดอาการท้องเสียเรื้อรัง เสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร และน้ำหนักลดลงอย่างรุนแรง (ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย)

นอกจากนี้ยังพบรายงานจากกรณีศึกษาชิ้นหนึ่งในวารสาร Gastroenterology ในปี 1983 พบว่าผู้ที่บริโภคสารให้ความหวานแทนน้ำตาลชนิดซอร์บิทอลไปราว 10 กรัม ประสบปัญหาท้องอึด มีแก๊สในกระเพาะอาหารมากเกินไป และเมื่อเพิ่มปริมาณเป็น 20 กรัม ก็จะเริ่มมีอาการตะคริว และท้องเสีย (หมากฝรั่ง 1 แผ่น มีซอร์บิทอล 2 กรัมโดยประมาณ)

อย่างไรก็ตาม การบริโภคหมากฝรั่งที่มีซอร์บิทอล หรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาลในปริมาณมาก จนอาจมีอาการท้องเสีย หรืออาการข้างเคียงอื่นๆ นั้น ไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว กล่าวคือ หากหยุดทาน สุขภาพก็จะกลับมาเป็นปกติได้

ถึงอย่างไร ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบกับปัญหานี้ เพราะซอร์บิทอลอาจส่งผลต่อร่างกายของคนทุกคนไม่เหมือนกัน หากคุณทานอาหาร ขนม หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีสารให้ความหวานชนิดซอร์บิทอลเป็นจำนวนมาก แต่ไม่เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเลย ก็ถือว่าโชคดีไป และไม่มีอะไรที่ต้องกังวล แต่หากคุณมีอาการอย่าง ตะคริว ท้องเสีย หรือท้องอืด อย่างไม่ทราบสาเหตุ ลองสังเกตตัวเองดูว่าทานอาหารเหล่านี้มากเกินไปหรือไม่ เช่น หมากฝรั่ง น้ำอัดลม ผลไม้ตากแห้ง ลูกอม แบบ sugar-free หรือสูตรไม่มีน้ำตาล (แล้วใส่สารเพิ่มความหวานแทน)

 

ความรู้เพิ่มเติม

หากกลืนหมากฝรั่งลงไปในท้อง จะเกิดอะไรขึ้น?

หากเผลอกลืนหมากฝรั่งลงไปในท้องจำนวนเล็กน้อย และบังเอิญโชคดีที่หมากฝรั่งไปไม่ได้เข้าไปอุดตันที่ส่วนไหนในร่างกาย ก็คงไม่มีปัญหาอะไรมาก อาจจะลูกลำเลียงลงลำไส้ใหญ่ไปภายใน 1-3 วันโดยประมาณ แต่หากกลืนหมากฝรั่งเข้าไปในท้องจำนวนมาก หมากฝรั่งอาจรวมตัว และถูกบีบอัดจนกลายเป็นก้อน หรือสิ่งแปลกปลอมที่อาจอุดตันทางเดินอาหารได้ ซึ่งอาจเข้าไปขัดขวางการทำงานของระบบย่อยอาหาร และทำให้ระบบย่อยอาหารมีปัญหาได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook