วิธีซักผ้านวมให้นุ่มหอม เหมือนใหม่ ทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน

ผ้านวมผืนโปรดที่ใช้นอนทุกคืน หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี ก็อาจจะแข็งกระด้าง มีกลิ่นอับ และเป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่นและเชื้อโรคได้ การซักผ้านวมให้สะอาด นุ่มฟู และมีกลิ่นหอมน่ากอด ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด คุณก็สามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน ด้วยขั้นตอนเหล่านี้
เตรียมความพร้อมก่อนซักผ้านวม
- ตรวจสอบป้ายแคร์: สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการตรวจสอบป้ายแคร์ (Care Label) บนผ้านวม เพื่อดูคำแนะนำในการซักจากผู้ผลิต ผ้านวมบางชนิดอาจระบุว่าควรซักแห้งเท่านั้น (Dry Clean Only) หากนำไปซักเครื่องอาจทำให้เสียหายได้
- ตรวจสอบความเสียหาย: ตรวจสอบผ้านวมว่ามีรอยขาด รอยเปื้อน หรือตะเข็บหลุดหรือไม่ หากมี ควรซ่อมแซมก่อนซัก เพื่อป้องกันไม่ให้เสียหายมากขึ้นขณะซัก
- นำสิ่งสกปรกออก: สะบัดผ้านวมแรงๆ เพื่อกำจัดฝุ่น เส้นผม หรือสิ่งสกปปรกที่เกาะอยู่
- แยกซัก: ไม่ควรซักผ้านวมรวมกับเสื้อผ้าอื่นๆ เพราะอาจทำให้ผ้านวมดูดซับสิ่งสกปรกหรือสีตกใส่กันได้
ขั้นตอนการซักผ้านวมด้วยเครื่องซักผ้า
- เลือกเครื่องซักผ้าที่เหมาะสม: ผ้านวมมีขนาดใหญ่และหนักเมื่ออุ้มน้ำ ควรใช้เครื่องซักผ้าที่มีขนาดใหญ่พอสมควร (อย่างน้อย 10 กิโลกรัมขึ้นไป) หรือถ้าเครื่องซักผ้าที่บ้านเล็กเกินไป ลองพิจารณาใช้บริการร้านซักผ้าหยอดเหรียญที่มีเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่
- ใส่ผ้านวมลงไป: พับผ้านวมให้เป็นระเบียบแล้วใส่ลงในเครื่องซักผ้าอย่างเบามือ ไม่ควรอัดแน่นจนเกินไป
- เติมน้ำยาซักผ้า: ใช้น้ำยาซักผ้าชนิดอ่อนโยน หรือชนิดสำหรับผ้าบอบบาง (Gentle Detergent) ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรใช้ผงซักฟอกมากเกินไป เพราะอาจตกค้างและทำให้ผ้านวมแข็งกระด้างได้ หากต้องการเพิ่มความหอมเป็นพิเศษ สามารถเติมน้ำยาปรับผ้านุ่มลงไปในช่องสำหรับน้ำยาปรับผ้านุ่ม
- ตั้งโปรแกรมซัก:
- เลือกโหมดถนอมผ้า (Delicate/Gentle Cycle): โหมดนี้จะช่วยลดแรงเหวี่ยงและแรงปั่น ทำให้ผ้านวมไม่เสียหาย
- เลือกน้ำเย็นหรือน้ำอุ่น (Cold/Warm Water): การใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นจะช่วยถนอมเนื้อผ้าและป้องกันการหดตัว
- ปั่นหมาดซ้ำ (Extra Rinse/Spin Cycle): แนะนำให้ตั้งค่าปั่นหมาดซ้ำ 1-2 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำยาซักผ้าถูกล้างออกจนหมดจด ป้องกันการตกค้างที่จะทำให้ผ้านวมแข็ง
การทำให้ผ้านวมแห้งและนุ่มหอม
การทำให้ผ้านวมแห้งอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อป้องกันเชื้อราและกลิ่นอับ
- ตากในที่อากาศถ่ายเทสะดวก:
- แสงแดดอ่อนๆ: หากเป็นไปได้ ควรนำผ้านวมไปตากในที่ที่มีแดดอ่อนๆ และลมโกรก เพื่อให้แห้งสนิทและช่วยฆ่าเชื้อโรค
- กลับด้านเป็นระยะ: กลับด้านผ้านวมบ่อยๆ เพื่อให้แห้งทั่วถึง
- ใช้เครื่องอบผ้า (ถ้ามี):
- ตั้งอุณหภูมิต่ำ (Low Heat): อบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อป้องกันความเสียหายต่อใยผ้า
- ใส่ลูกบอลสำหรับอบผ้า (Dryer Balls) หรือลูกเทนนิส 2-3 ลูก: ลูกบอลเหล่านี้จะช่วยตีผ้านวมให้ฟู และช่วยกระจายความร้อน ทำให้ผ้านวมแห้งเร็วขึ้นและนุ่มฟูขึ้น
- อบเป็นรอบๆ: อบประมาณ 20-30 นาที แล้วนำออกมาสะบัดหรือพลิกด้าน จากนั้นอบต่อ ทำซ้ำจนกว่าผ้านวมจะแห้งสนิท
- ตรวจสอบความชื้น: ก่อนนำผ้านวมไปเก็บ ควรแน่ใจว่าแห้งสนิท 100% เพราะหากยังมีความชื้นหลงเหลืออยู่ อาจทำให้เกิดเชื้อราและกลิ่นอับได้
เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อผ้านวมที่นุ่มหอมน่าใช้
- ใช้เบกกิ้งโซดา: โรยเบกกิ้งโซดาเล็กน้อยลงในเครื่องซักผ้าพร้อมกับน้ำยาซักผ้า ช่วยดูดซับกลิ่นอับและทำให้ผ้านวมสดชื่น
- น้ำส้มสายชู: เติมน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยลงในช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม ช่วยให้น้ำยาซักผ้าถูกชะล้างออกได้ดีขึ้น และทำให้ผ้านวมนุ่มขึ้น
- สเปรย์หอม: เมื่อผ้านวมแห้งสนิทแล้ว สามารถฉีดสเปรย์สำหรับผ้าหอมๆ หรือสเปรย์ปรับอากาศที่ชอบ เพื่อเพิ่มความหอมสดชื่น
การซักผ้านวมด้วยตัวเองอาจใช้เวลาสักหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือผ้านวมที่สะอาด นุ่มฟู หอมสดชื่น เหมือนได้ผ้านวมใหม่ ที่จะทำให้คุณนอนหลับสบายตลอดคืน ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ดูนะคะ
อ่านเพิ่ม
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี

