รู้ไว้ห่างไกลเชื้อรา! วิธีดูแลเท้าหลังจากเปียกน้ำ

หลังจากเดินลุยฝนลุยน้ำ เท้าของเรามักเจอกับความอับชื้นที่อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพผิวหนัง เช่น เชื้อรา หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ การดูแลเท้าอย่างถูกวิธีจึงสำคัญมาก เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าพังเพราะความชื้นสะสมบทความนี้จะพาคุณมารู้จักขั้นตอนง่าย ๆ ในการดูแลเท้าหลังเปียกน้ำ เพื่อสุขภาพเท้าที่ดีทั้งในระยะสั้นและยาว
ทำไมต้องดูแลเท้าหลังเปียกน้ำ
เมื่อเท้าเปียกน้ำ ความชื้นจะสะสมในรองเท้าและถุงเท้า ซึ่งกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา หากไม่ดูแลเท้าอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดโรคน้ำกัดเท้า ผิวหนังอักเสบ หรือเล็บขบได้
ขั้นตอนดูแลเท้าเบื้องต้นหลังเปียกฝน
- ถอดรองเท้าและถุงเท้าออกทันทีเมื่อถึงที่พัก อย่าปล่อยให้เท้าเปียกอยู่นาน เพราะความอับชื้นจะกระตุ้นการเจริญเติบโตของเชื้อรา ควรรีบถอดและผึ่งให้แห้ง
- ล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อน น้ำฝนอาจปนเปื้อนสารเคมีหรือเชื้อโรค การล้างเท้าด้วยสบู่อ่อนช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกและป้องกันการติดเชื้อ
- ขัดเบา ๆ บริเวณส้นเท้าหรือจุดที่มีคราบดำ ใช้แปรงขัดเท้าหรือหินขัดเบา ๆ เพื่อช่วยให้ผิวสะอาดและลดการสะสมของเชื้อโรคจากฝุ่นและน้ำสกปรก
- เช็ดเท้าให้แห้ง โดยเฉพาะซอกนิ้วเท้า ใช้ผ้าสะอาดซับให้แห้งสนิทในทุกซอก เพื่อป้องกันความชื้นตกค้างซึ่งเป็นต้นเหตุของเชื้อรา
- แช่เท้าด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือหรือสมุนไพร (ถ้ามีเวลา) ช่วยฆ่าเชื้อและผ่อนคลายกล้ามเนื้อจากการเดินลุยน้ำ ลดอาการปวดเมื่อย และทำให้ผิวเท้านุ่มขึ้น
- ทาครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวเท้า หลังเช็ดเท้าให้แห้งแล้ว ควรบำรุงผิวเท้าด้วยครีมเนื้อบางเบา เพื่อคืนความชุ่มชื้นและลดการแตกแห้ง
- เปลี่ยนเป็นรองเท้าเปิดโล่งหรือรองเท้าแห้งสะอาด อย่าใส่รองเท้าคู่เดิมที่ยังเปียก ควรเปลี่ยนเป็นรองเท้าที่ระบายอากาศได้ดีเพื่อให้เท้าได้หายใจ
- หมั่นสังเกตอาการผิดปกติของผิวเท้า เช่น คัน ผิวลอก หรือมีตุ่มน้ำ ควรเริ่มดูแลทันที และหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ควรพบแพทย์ผิวหนัง
การดูแลเท้าหลังลุยฝนไม่ใช่เรื่องยาก แค่มีวินัย ล้างเท้าให้สะอาด เช็ดให้แห้ง และหลีกเลี่ยงความชื้นสะสม เพียงเท่านี้ก็ช่วยป้องกันปัญหาผิวหนังและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้แล้ว