“โบว์ แวนด้า” กับบทบาท “คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว” ในวันที่ยังไม่รู้จุดจบของโควิด-19

“โบว์ แวนด้า” กับบทบาท “คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว” ในวันที่ยังไม่รู้จุดจบของโควิด-19

“โบว์ แวนด้า” กับบทบาท “คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว” ในวันที่ยังไม่รู้จุดจบของโควิด-19
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในระหว่างที่เราขอสัมภาษณ์ “คุณโบว์-แวนด้า สหวงษ์” คุณแม่ของน้องมะลิ และน้องออโต้ สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ในบ้านเราแม้จะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่สำหรับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่ต้องดูแลลูกตลอดช่วงเวลาปิดเทอมอันยาวนานกว่าปกติ ไปพร้อมๆ กับการดูแลทีมงานที่บริษัท สำหรับเธอถือเป็นเรื่องเหนื่อยยาก และทำให้รู้สึกท้อในบางครั้ง

เมื่อทุกการตัดสินใจ ทุกความรู้สึกของลูกสองคน สีหน้าแววตา เงินในกระเป๋าของทีมงาน ฯลฯ คือสิ่งที่เธอต้องรับผิดชอบ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนเก่งคนนี้ปรับตัว และรับมืออย่างไร ในเมื่อต่างไม่มีใครรู้ว่าโรคระบาดนี้จะสิ้นสุดลงวันไหน

ช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้องปรับตัวอย่างไรบ้างคะ

ถ้าเป็นงานที่เราทำอยู่ เราต้องปรับวิธีการทำงานใหม่ใช้ออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งต้องบริหารงานใหม่เพื่อจะได้ดูแลทีมงานที่ยังทำงานอยู่กับเรา

ส่วนเรื่องลูกๆ น้องออโต้ลูกชายคนโตเขาโตแล้ว เขาอยู่กับคุณตาคุณยาย เราก็ฝากให้เขาช่วยทำหน้าที่ดูแลคุณพ่อ คุณแม่ของเราด้วย แต่เราวิดีโอคอลคุยกันทุกวัน

สำหรับน้องมะลิถือว่าเราได้ใช้เวลาอยู่กับเขามากขึ้น ได้คุย เรียนรู้เขามากขึ้น ที่โรงเรียนเขามีสอนออนไลน์อยู่แล้ววันละ 3 ชั่วโมง ส่วนตอนเย็นมีครูภาษาอังกฤษสอนอีกประมาณ 1 ชั่วโมง มีบ้างที่เราต้องทำหน้าที่ครูแต่จะเน้นเรื่องกิจกรรม งานประดิดประดอย งานบ้าน หรือถ้าเราทำอะไรอยู่ก็ให้เขาเข้ามามีส่วนร่วมกับเรา

การอธิบายให้ลูกๆ เข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในฐานะคุณแม่ใช้วิธีไหน และผลเป็นอย่างไรบ้าง

เราอธิบายตามความจริงเลยว่าตอนนี้มีโรคระบาด ที่สามารถติดต่อกันได้ง่าย บอกว่าเราออกจากบ้านไม่ได้เป็นเพราะอะไร รวมถึงวิธีป้องกันคือการอยู่บ้าน การอยู่บ้านจะช่วยชาติด้วยนะลูก เรากำลังทำดีอยู่ เขาจะรู้เรื่องหรือเปล่าไม่รู้ แต่อธิบายให้เขาฟังว่าเหตุผลมันเป็นเพราะอะไร ไม่ใช่แค่มะลิต้องทำแบบนี้คนเดียว คนทั้งประเทศก็ต้องทำเหมือนกัน พยายามให้เขารู้สึกว่าเขาทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม โชคดีที่เขาไม่งอแง และเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

เมื่อเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องดูแลลูก และคนในครอบครัวไปพร้อมกับทำงานด้วย รู้สึกท้าทายกว่าช่วงเวลาปกติไหม

มันเหนื่อยนะคะ แต่ในความเหนื่อยมันมีความสุขมากกว่า ส่วนเรื่องความท้าทายนั้นมันเป็นเรื่องของการที่เราจะทำอย่างไรให้เราสามารถพยุงตัวเองไปได้เรื่อยๆ ในช่วงที่สถานการณ์มันแย่แบบนี้ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เราจะดูแลลูกน้องเราได้ดีแค่ไหน ดูแลลูกได้ดีแค่ไหน รวมถึงรอบๆ ตัวเราดูแลคนเยอะ มันเป็นความท้าทาย แต่วันนี้เราก็ไปได้เรื่อยๆ พยายามเรียนรู้ ทำสิ่งใหม่ๆ ช่วยเหลือกันและกัน

เมื่อต้องอยู่กับลูกตลอด 24 ชั่วโมง ทำอย่างไรให้ชีวิตของทุกฝ่ายลงตัว

ทุกครั้งที่เราว่างและเขาอยากให้เราทำกิจกรรมกับเขา เราก็ทำ หรือว่าเราทำอะไรอยู่แล้วเรียกเขามาทำด้วยกัน เขาก็จะมาด้วยความรู้สึกดีใจที่แม่เรียกเขามาทำอะไรด้วยกัน หนูอยากให้เล่นหรือทำอะไร แล้วเราทำ เขาก็แฮปปี้ ให้เขาได้เล่นแบบของเขาและมีส่วนร่วมในชีวิตของเรา กลายเป็นว่าการอยู่บ้านมันทำให้เรามีความสุขที่สุด

เด็กๆ ไม่เข้าใจ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า

อย่างออโต้จะบ่นคิดถึงแม่ เราก็อธิบายให้เขาฟัง เพราะเขาโตแล้ว และเราก็อยากให้เรารู้ว่าเขาเป็นความหวังสำหรับเราเหมือนกัน เพราะเราฝากให้เขาช่วยดูแลคุณพ่อ คุณแม่ของเรา และเขาก็ทำหน้าที่ได้ดี พอคิดถึงก็จะโทรหา วิดีโอคอลคุยกันทุกวัน

ส่วนมะลิช่วงแรกจะบ่นว่าทำไมเราออกจากบ้านไม่ได้ ทำไมไปเล่นบ้านเพื่อนไม่ได้ ทำไมเดินเล่นไม่ได้ มีคำถามเยอะ เราก็จะค่อยๆ ป้อนข้อมูลทีละนิด ไม่ใช่เฉพาะหนูเท่านั้นที่เป็น เพื่อนก็เป็นเหมือนกัน แล้วเราก็ให้เขาวิดีโอคอลคุยกับเพื่อนๆ

ในสถานการณ์แบบนี้มีการวางแผนในอนาคตสำหรับตัวเอง และลูกๆ อย่างไร

สิ่งที่กังวลตอนนี้คือเรื่องเรียน เพราะการเรียนต้องมาอันดับแรก เราพยายามปรึกษาผู้ปกครองและโรงเรียนว่าหากเป็นแบบนี้ไปอีกสักพักหนึ่งจะทำอย่างไร สำหรับเรื่องอื่นไมได้รู้สึกกังวล ห่วงแค่เรื่องเรียนของทั้งคู่ แต่ทางโรงเรียนก็มีมาตรการแก้ไข ส่วนงานของเราก็พอประคับประคองไปได้

สำหรับคุณคิดว่าช่วงเวลานี้ตัวเองรับบทบาทความเป็นแม่หนักขึ้นกว่าปกติไหม

หนักค่ะ เพราะโบว์เป็นหัวหน้าครอบครัว และเราไม่มีที่พึ่งแล้ว ปัญหาทุกอย่างต้องแก้ไขเอง บางทีมันเครียดเราต้องมาตั้งสติ แล้วถามตัวเองว่าจะแก้ไขอย่างไร เราไม่มีที่ปรึกษาจะปรึกษาคุณพ่อคุณแม่เราก็ไม่อยากทำให้เขาเครียด มันหนักเวลามีอะไรเข้ามา เราต้องแก้ปัญหาเอง และเราก็จะพยายามไม่ให้ใครรู้ว่าเราเครียด แต่จะทำได้ดีหรือเปล่าเราก็ถือว่าเราได้ลองแล้ว แต่เท่าที่ผ่านมาก็ถือว่าโอเค ไปได้เรื่อยๆ ยังไม่สาหัสมาก

แต่ทุกครั้งที่เรารู้สึกว่ามันหนักเราก็พยายามมองคนอื่นที่เขาหนักกว่าเรา เขาไม่มีบ้าน ตกงาน จะเป็นกำลังใจให้กับตัวเองได้ด้วย ถ้ามีอะไรก็จะแบ่งปัน แล้วเราจะสอนมะลิ ตอนทำถุงแบ่งปันน้ำใจไปแจก 300 ถุง จะบอกมะลิว่าเดือนนี้เราพอมีพอกิน เราได้เงินตรงนี้มา มะลิอยากจะช่วยพี่ไหม เขาก็บอกว่าเขาอยาก งั้นเราก็เอาเงินที่เราได้ไปซื้อของแจกพี่ๆ เราเปิดบ้านเด็กที่ไม่มีข้าวกินให้เขาดู ให้เขาเห็นคนที่เขาขาดโอกาส เราก็จะเอาเงินที่ได้จากการทำงานในเดือนนั้นไปซื้อของ แล้วบอกว่าแม่กับมะลิพี่ออโต้มาแชร์กัน เชื่อว่าในทุกวิกฤตจะเกิดอะไรดีๆ ขึ้นมา ถ้าเราเรียนรู้ที่จะปรับตัวไปกับมัน

สำหรับชีวิตวิถีใหม่ New Normal คุณเตรียมตัวรับมืออย่างไรบ้าง

เราจะสอนให้เขารู้จักปรับตัวให้ได้มากที่สุด เพื่อใช้ชีวิตในโลกใบนี้ต่อไปให้ได้ อย่างยุคตัวเองมันไม่น่ากลัวเท่าไร แต่ยุคโซเชียลเข้ามามันน่ากลัวมาก หลายคนจิตตกไปกับโซเชียลเพราะว่าคนเราจะด่าใครก็ได้ ไม่มีกฎหมายว่ารองรับแน่นหนา ดังนั้นเวลาเล่นโซเชียลต้องเลือกที่จะเล่น เลือกเสพ อย่างตอนนี้เวลาเขาเปิดไอแพดดูเราก็จะอยู่กับเขา คอยดูว่าเขาดูอะไร

อย่างออโต้เราไม่สามารถควบคุมเขาได้ เพราะเขาโตแล้ว แต่เราก็ต้องเชื่อใจเขาว่าเขามีสติพอที่จะเลือกเสพอะไรให้กับตัวเอง พยายามบอกว่าเขาเป็นคนที่หลายคนรู้จักแล้ว ดังนั้นเวลาทำอะไรต้องระวัง เวลามีข้อความบั่นทอนจิตใจ ต้องเข้มแข็ง อย่าคล้อยตาม แล้วทำให้ตัวเองจิตตก แค่วันนี้มีสื่อโซเชียลมันก็อยู่ยากแล้ว พยายามสอนให้ลูกเข้มแข็ง ปรับตัว รู้จักเลือกเสพ แยกแยะให้ออกว่าอะไรดีหรือไม่ดี

คำแนะนำสำหรับคุณแม่ หรือคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่ต้องรับมือกับอะไรหลายๆ อย่างในช่วงเวลานี้

ไม่อยากใช้คำว่าอดทน แต่มันต้องอดทนจริงๆ พยายามเข้มแข็ง เดินหน้าต่อ บางครอบครัวอาจไม่มีทางออก แต่ให้สร้างกำลังใจให้กันและกัน ไม่ต้องคิดมากว่าจะเข้มแข็งเพื่อใคร แต่ให้คิดไว้ว่าจะต้องเข้มแข็งเพื่อลูกของเรา ถ้าวันนี้เราอ่อนแอแล้วลูกจะรู้สึกอย่างไร มันยากก็จริงสำหรับบางครอบครัว หรือซิงเกิ้ลมัมบางคน แต่ขอให้เชื่อว่ามันต้องผ่านไปได้ ขอให้สู้ สิ่งที่สำคัญคือยอมรับความจริง เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิต ถ้าเรายอมรับความจริง แล้วพยายามฝ่าฟันกับปัญหาเหล่านั้น ท้ายที่สุดมันจะผ่านไปได้ อาจจะสะดุดล้มบ้าง เราต้องเข้มแข็ง แล้วบอกตัวเองว่าฉันจะทำเพื่อลูกและคนที่รัก อุปสรรคที่ผ่านมาเข้ามาให้ท่องไว้ว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป แล้วเริ่มและตั้งหลักใหม่

 

 

 

 

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ “โบว์ แวนด้า” กับบทบาท “คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว” ในวันที่ยังไม่รู้จุดจบของโควิด-19

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook