เรื่องที่แม่ผ่าคลอดต้องรู้! เมื่อการผ่าคลอดทำให้ภูมิต้านทานตั้งต้นของเด็กพัฒนาช้ากว่าเด็กคลอดธรรมชาติ

เรื่องที่แม่ผ่าคลอดต้องรู้! เมื่อการผ่าคลอดทำให้ภูมิต้านทานตั้งต้นของเด็กพัฒนาช้ากว่าเด็กคลอดธรรมชาติ

เรื่องที่แม่ผ่าคลอดต้องรู้! เมื่อการผ่าคลอดทำให้ภูมิต้านทานตั้งต้นของเด็กพัฒนาช้ากว่าเด็กคลอดธรรมชาติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เด็กผ่าคลอดจะมีภูมิต้านทานตั้งต้นน้อยกว่าเด็กคลอดธรรมชาติ เพราะไม่ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพโพรไบโอติกผ่านช่องคลอดของแม่ จากการวิจัยในเด็ก 1.9 ล้านคน พบว่า “เด็กผ่าคลอด” เสี่ยงต่อการมีภูมิต้านทานอ่อนแอเพิ่มขึ้นถึง 46% เสี่ยงต่ออาการหอบหืดเพิ่มขึ้นถึง 23% และเสี่ยงต่อโรคลำไส้อักเสบเพิ่มขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับเด็กคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ เนื่องจากขาด “จุลินทรีย์สุขภาพ” ซึ่งเป็นภูมิต้านทานตั้งต้นที่ได้รับผ่านทางช่องคลอด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของลูกทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

เด็กผ่าคลอดควรได้รับจุลินทรีย์สุขภาพโพรไบโอติกในปริมาณมาก

แม้ว่าเด็กผ่าคลอดจะไม่ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพโพรไบโอติกในช่องคลอดของแม่เหมือนกับเด็กที่คลอดด้วยวิธีธรรมชาติ แต่ธรรมชาติก็ได้สร้างสรรค์โภชนาการที่ดีที่สุดสำหรับเด็กทารก ที่อุดมด้วยสารอาหารมากมายและเปรียบได้ดังวัคซีนหยดแรกของลูกน้อย นั่นคือ “นมแม่”  เพราะ นมแม่มีองค์ประกอบที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ลูก ด้วยการทำงานแบบ ซินไบโอติก ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างจุลินทรีย์สุขภาพโพรไบโอติกและใยอาหารพรีไบโอติก ซึ่งส่งผลให้จุลินทรีย์สุขภาพเติบโตได้ดี ลดจำนวนจุลินทรีย์ก่อโรค ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่ดี เด็กผ่าคลอดที่ไม่ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพขณะคลอดจึงควรได้รับจุลินทรีย์สุขภาพโพรไบโอติกในปริมาณมาก เพื่อช่วยเร่งคืนระบบภูมิต้านทานตั้งต้น

ไขรหัส “ซินไบโอติก” ในนมแม่ มีดีอย่างไร

ซินไบโอติกประกอบด้วย จุลินทรีย์สุขภาพโพรไบโอติก และใยอาหารพรีไบโอติก  ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์สุขภาพ โดยสององค์ประกอบนี้จะทำงานร่วมกันเพื่อช่วยส่งเสริมปริมาณจุลินทรีย์สุขภาพในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งในบริเวณนี้จะมีเซลล์ภูมิต้านทานอยู่มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้เด็กที่รับซินไบโอติกอย่างสม่ำเสมอมีภูมิต้านทานที่ดี ลดโอกาสเจ็บป่วย ช่วยให้ระบบขับถ่ายดี และยังช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคที่เกิดจากภูมิต้านทาน เช่น ภูมิแพ้ เป็นต้น มี เพื่อเตรียมลูกน้อยให้พร้อมเผชิญโลกกว้างและรับมือกับสิ่งใหม่ๆ ในอนาคต

โภชนาการใน 1,000 วันแรก

1,000 วันแรกของลูกน้อยคือช่วงโอกาสทองที่จะมอบโภชนาการและการเลี้ยงดูที่เหมาะสมเพื่อสร้างภูมิต้านทานและพัฒนาระบบการทำงานของร่างกายทุกด้านของลูกให้มีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อส่งผลต่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว ดังนั้นคุณแม่จึงควรให้ความสำคัญอย่างมากกับช่วงเวลานี้ ด้วยการให้ลูกได้รับนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด หลังจากนั้นจึงให้อาหารตามวัยที่เหมาะสมควบคู่กับให้นมแม่ต่อเนื่องจนถึงอายุ 2 ปี หรือมากกว่า เนื่องจากนมแม่อุดมด้วยสารอาหารสำคัญมากมาย รวมถึง จุลินทรีย์สุขภาพโพรไบโอติก และใยอาหารพรีไบโอติก ซึ่งทำงานร่วมกันแบบ “ซินไบโอติก” ช่วยสร้างสมดุลในลำไส้ เสริมสร้างระบบภูมิต้านทานให้แข็งแกร่ง

เมื่อรู้ชัดว่าการผ่าคลอดจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมมากเป็นพิเศษ เริ่มตั้งแต่การดูแลตัวเองก่อนคลอดไปจนถึงเรื่องโภชนาการสำหรับลูกน้อยและตัวคุณแม่เอง ดังนั้นแนะนำให้ปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลอื่นๆเช่น ผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆ  เพื่อเสริมความมั่นใจให้มากขึ้นและจะได้รู้วิธีปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง แต่ก่อนที่จะไปหาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ แนะนำให้ทำเช็คลิสต์สิ่งที่อยากรู้เตรียมไว้เลยจะได้สามารถเก็บทุกรายละเอียดที่สำคัญสำหรับลูกน้อยกลับมาได้อย่างครบถ้วนเพื่อเตรียมความพร้อมให้สมบูรณ์แบบที่สุด

พบ 12 คำถาม- คำตอบเพิ่มเติมเพื่อแม่ยิ่งรู้ ลูกผ่าคลอดยิ่งพร้อม คลิก ที่นี่ https://www.hifamilyclub.com/c-section/c-question 
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ซินไบโอติก” คลิก ที่นี่ https://www.hifamilyclub.com/c-section.html

#นมแม่ดีที่สุด #ผ่าคลอดก็พร้อมได้

(Advertorial)

 

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook