8 วิธีบรรเทาอาการปวดท้อง ปวดบ่อยๆ บอกเลยต้องลอง

8 วิธีบรรเทาอาการปวดท้อง ปวดบ่อยๆ บอกเลยต้องลอง

8 วิธีบรรเทาอาการปวดท้อง ปวดบ่อยๆ บอกเลยต้องลอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอเป็นสิ่งที่เราควรใส่ใจ เนื่องจากเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าระบบและอวัยวะภายในของร่างกายขณะนี้มีสภาพเป็นอย่างไร ซึ่งหลายโรคเลยทีเดียวที่มีการแสดงออกให้เราได้สังเกตง่ายๆ ขั้นพื้นฐานคือ อาการปวด โดยสามารถมีโอกาสเป็นได้ทั้งโรคลำไส้อักเสบ กระเพาะอาหารอักเสบ กรดไหลย้อน ระบบฮอร์โมนไม่สมดุลหรือแม้แต่มะเร็งบางประเภท และวันนี้เราได้นำเสนอ 8 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องได้ด้วยตนเองมาฝากกัน ทำได้อย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันค่ะ 

1.รับประทานทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น

โดยควรทานเป็นประจำ เนื่องจากอาการปวดท้องที่เกี่ยวเนื่องกับระบบการย่อยอาหาร และการขับถ่ายจะลดลง เมื่อคุณกินผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่มีประโยชน์อยู่เสมอ ซึ่งเส้นใยอาหารจะช่วยดูดซับเชื้อโรค ตลอดจนกวาดล้างสารพิษบางประการออกจากร่างกาย ทั้งยังป้องกันอาการท้องผูกและโรคป้องกันมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย

2.ดื่มชาอุ่นๆ เป็นประจำ

ควรหันมาดื่มชาคาโมมายล์ ชาเขียว ชาใบหม่อน ชาตะไคร้และขิงผง เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะช่วยให้ท้องอบอุ่นขึ้นแล้ว ยังสามารถช่วยขับลม แก้อาการท้องอืดจุกเสียดแน่นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยชะลอความเสื่อมของอวัยวะภายในได้อีกด้วย

3.พยายามนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การไม่นอนตามที่ร่างกายต้องการ มีผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียด และมีผลให้ร่างกายแก่เร็ว อวัยวะภายในก็จะเสื่อมถอยได้ง่าย นอกจากนี้ การออกกำลังกายเป็นประจำก็ยิ่งช่วยให้ระบบเมตาบอลึซึม และภูมิคุ้มกันโรคของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

4.พยายามงดทานอาหารบางชนิด

โดยเฉพาะอาหารหมักดอง อาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารมันเพราะจะทำให้ย่อยยาก และอาหารรสจัดจ้าน เพราะอาหารเหล่านี้จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดเชื้อในทางเดินอาหาร และทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานไม่สมบูรณ์นั่นเอง

5.หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่อโรค

โดยเฉพาะพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์  เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคกระเพาะอาหารทะลุ ตับอักเสบ และโรคมะเร็ง เป็นต้น

6.พยายามควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

โดยพิจารณาจากค่า BMI และวัดรอบเอว เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกรดไหลย้อน และโรคมะเร็ง

7.ปรับเปลี่ยนบางพฤติกรรม

โดยเฉพาะพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และการใช้ชีวิต เช่น ลดการกินบุฟเฟต์ พยายามเดินหรือเคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น

8.กินวิตามินที่ช่วยบำรุงร่างกาย และลดอาการปวดท้อง

อย่างเช่น อีฟนิ่งพริมโรส และควรกินอาหารเสริมอย่างมีสติ โดยพิจารณาจากความจำเป็น และความต้องการจริงๆ ของร่างกาย 

อย่าลืมหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกาย อย่างเช่น อาการปวด อาการเจ็บ หรืออาการเมื่อยชา อันเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าและพยายามทำตามวิธีเหล่านี้เพื่อลดอาการปวดท้อง อย่างไรก็ตาม หากอาการยังไม่ทุเลาลง แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างตรงจุดก่อนที่จะสายเกินไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook