Big Five Marathon งานวิ่งมาราธอนท่ามกลางสัตว์ป่าซาฟารี

หากการวิ่งมาราธอนเป็นกิจกรรมโปรด แต่ถ้าเกิดรู้สึกว่าการวิ่งมาราธอนรายการใหญ่ๆ ของโลกอย่างบอสตันมาราธอนที่วิ่งผ่านตัวเมืองมันน่าเบื่อเกินไป หรือการวิ่งมาราธอนผ่านทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามในบางรายการไม่สร้างความตื่นเต้นอีกต่อไป ลองพิจารณาถึงการวิ่งมาราธอนผ่านเขตสงวนที่ผ่านถิ่นที่อยู่อาศัยของสิงโตในแอฟริกาใต้ ในรายการ Big Five Marathon เนื่องจากเป็นรายการวิ่งมาราธอนที่เอาใจทั้งสำหรับคนชอบวิ่งและชื่นชอบการเที่ยวซาฟารีไปพร้อมกัน

จุดเด่นของงานวิ่งรายการนี้ คือ เหล่านักวิ่งมาราธอนจะมีโอกาสได้เห็น Big Five ของแอฟริกาอย่างสิงโต เสือดาว ช้าง แรด และควายป่า ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นการวิ่งผ่านเขตสงวน ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า โดยการแข่งขัน Big Five Marathon อาจไม่ใช่รายการมาราธอนที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงของโลกอย่างหลายๆ รายการ เพราะเพิ่งเริ่มจัดมาตั้งแต่ปี 2005 แต่ความน่าสนใจของรายการคือเส้นทางวิ่งผ่านเขตสงวน Entabeni ในเขต Limpopo ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองโจฮันเนสเบิร์กและอุทยานแห่งชาติ Kruger ที่มีชื่อเสียงในแอฟริกาใต้

ทั้งนี้ การแข่งขัน 13 ครั้งที่ผ่านมา ประเภทชายมีนักวิ่งชาวแอฟริกาใต้ครองแชมป์ได้มากที่สุด 4 ครั้งสมกับเป็นชาติที่จัดการแข่งขัน แต่ประเภทหญิงกลับมีนักวิ่งมาราธอนจากออสเตรเลียเข้าเส้นใช้เป็นคนแรกมากที่สุดถึง 4 ครั้ง ซึ่งผู้ที่ทำเวลาดีที่สุดที่ผ่านมาประเภทชายคือ Johannes Oosthuizen นักวิ่งแอฟริกาใต้กับเวลา 3 ชม. 16 นาที 1 วินาทีในปี 2010 ขณะที่ฝ่ายหญิง Anne-Sophie Eriksen จากเดนมาร์กทำเวลาดีที่สุด 3 ชม. 45 นาที 24 วินาทีในปี 2016

ส่วนเรื่อง "ความโหด" ของเส้นทางวิ่ง Big Five Marathon ในช่วงแรกหลังออกสตาร์ตจะเป็นเส้นทางบนที่ราบต่ำ ซึ่งเป็นถนนฝุ่นจากทรายผ่านเนินเขาเล็กน้อย เพื่อเป็นการเตรียมตัวสำหรับความโหดในช่วงต่อไป จนกระทั่งไปถึงจุดชมวิว Hanglip View Point และมีเส้นทางวิ่งซึ่งเป็นทางลาดลงเขาเพื่อเข้าสู่เขตที่อยู่อาศัยของสิงโต อันเป็นทางราบก่อนที่จะมีการวิ่งขึ้นเขาอีกครั้ง และช่วงสุดท้ายของเส้นทางวิ่งก่อนเข้าเส้นชัยจะเป็นการทดสอบร่างกายด้วยการวิ่งลงเขา

อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นการวิ่งผ่านที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า เพื่อความปลอดภัยผู้จัดการแข่งขันจึงมีจุด Cut-off Time 3 จุดที่ระยะทาง 26.5 กม., 32.5 กม. และที่เส้นชัย ซึ่งหมายความว่าหากนักวิ่งไม่สามารถวิ่งมาถึงจุด Cut-off Time ตามเวลาที่กำหนดคือ 4 ชม. 15 นาทีในจุดแรก, 5 ชม. 15 นาทีในจุดที่สอง และเข้าเส้นชัยได้ภายใน 7 ชม. หลังจากออกสตาร์ตจะไม่ได้อนุญาตให้วิ่งต่อ โดยจะมีเจ้าหน้าที่รับขึ้นรถแล้วนำไปที่จุดสิ้นสุดการวิ่งทันที และหากรู้สึกว่าเส้นทางวิ่งของ Big Five Marathon จะโหดร้ายเกินไป รายการนี้ยังมีระยะทางฮาล์ฟมาราธอนให้เลือกด้วย ซึ่งจะใช้จุดสตาร์ตและเส้นชัยเดียวกัน แต่มีการตัดเส้นทางวิ่งบางช่วงออก โดยการันตีความตื่นเต้นจากการวิ่งผ่านที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าเหมือนเดิม

หากใครที่สนใจวิ่งรายการ Big Five Marathon ในปีนี้ยังเตรียมตัวทัน เพราะรายการนี้จะเริ่มการแข่งขันในวันที่ 23 มิถุนายน แต่หากกังวลเรื่องความปลอดภัยในขณะวิ่งเนื่องจากวิ่งผ่านถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ทางทีมงานยืนยันว่า จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจดูความปลอดภัยในขณะแข่งขันตลอดเวลาจากบนอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์และบนพื้นดินพร้อมกับมีอาวุธครบมือ