กุมารแพทย์ ชี้โรคแพ้นมวัวอันตรายถึงชีวิต เตือนอย่าบังคับเด็กกิน

กุมารแพทย์ ชี้โรคแพ้นมวัวอันตรายถึงชีวิต เตือนอย่าบังคับเด็กกิน

กุมารแพทย์ ชี้โรคแพ้นมวัวอันตรายถึงชีวิต เตือนอย่าบังคับเด็กกิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงกรณีครูโรงเรียนอนุบาลบังคับเด็กวัย 3 ขวบให้กินนมวัว ทั้งที่ผู้ปกครองแจ้งชัดเจนแล้วว่าเด็กเป็นโรคแพ้นมวัว โดยเปิดเผยว่า อาการแพ้นมวัว เกิดจากการแพ้โปรตีนที่มีอยู่ในนมวัว ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีโมเลกุลใหญ่กว่านมแม่ มีโอกาสเป็นตั้งแต่แรกเกิด และจากสถิติพบว่า ประเทศไทยมีเด็กแรกเกิดแพ้นมวัว เฉลี่ย 20,000-30,000 รายต่อปี เด็กที่แพ้โปรตีนในนมวัวนั้นจะมีอาการโตช้า ตัวเล็ก น้ำหนักไม่ขึ้น อุจจาระบ่อย และอุจจาระเป็นมูกเลือด บางรายมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ เหนื่อยง่าย เป็นลมพิษ มีผื่นขึ้นผิวหนัง ซึ่งพ่อแม่จะต้องสังเกตอาการเหล่านี้ และควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ ซึ่งอาจต้องใช้การทดสอบ Skin test โดยเป็นการทดสอบที่ต้องระวังเป็นพิเศษ และต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของแพทย์เท่านั้น เพราะค่อนข้างอันตราย เด็กแต่ละรายที่แพ้ ก็จะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่างกัน ทั้งแสดงอาการเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง

ทั้งนี้ เมื่อทราบว่า เด็กมีอาการโรคแพ้นมวัวควรให้เลิกกินทันที และเปลี่ยนมาดื่มนม หรือ เลือกซื้อนมชนิดพิเศษที่ช่วยย่อยโปรตีนให้มีโมเลกุลเล็กลง หรืออาจเลือกให้เด็กดื่มนมถัวเหลืองที่เสริมแคลเซียม ซึ่งส่วนใหญ่แพทย์ที่วินิจฉัยโรคจะเป็นคนแนะนำ

นายแพทย์สุริยเดว กล่าวต่อว่า เด็กที่แพ้นมวัวมีโอกาสหายได้ในอนาคต หากเป็นตั้งแต่แรกเกิด เมื่ออายุ 2 - 3 ปี ก็จะหาย แต่บางรายที่แพ้รุนแรง เมื่อโตขึ้นก็ยังจะแสดงอาการอยู่ โดยอาการที่พบรุนแรงที่สุดจากการแพ้นมวัวจะมี 2 ลักษณะ คือ อาการแพ้เข้าสู่กระแสเลือด เกิดอาการมูกเลือกออก ช็อค หมดสติ และอาการที่เกิดขึ้นกับผิวหนัง บางรายรุนแรงถึงขั้นผิวหนังไหม้ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือครู ที่อยู่ใกล้ชิดเด็ก ควรเลี่ยงไม่ให้รับประทานนมวัวเด็ดขาด

“จิ้งจกทักเรายังฟัง แต่นี่แพทย์บอกว่าเด็กแพ้นมวัว เรายิ่งต้องฟังเพราะอันตรายมาก” นายแพทย์สุริยเดวกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook