5 สัญญาณเตือนภัย โรค “เบาหวาน”

5 สัญญาณเตือนภัย โรค “เบาหวาน”

5 สัญญาณเตือนภัย โรค “เบาหวาน”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เห็นเป็นผู้ชาย ผู้หญิงตัวเล็กๆ ผอมบาง ไม่น่าเชื่อว่าเป็นโรคเบาหวานกันมาเยอะแล้ว เพราะโรคเบาหวานไม่ได้แสดงอาการออกมาชัดเจนว่าเป็นคนอวบอ้วน ไม่ว่าจะมีรูปร่างแบบไหนก็เป็นโรคเบาหวานได้

แต่โรคเบาหวานมีอาการที่เป็นสัญญาณเตือนภัยให้เรารู้ได้ โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงเป็นพิเศษ เช่น มีสมาชิกในครอบครัวป่วยเป็นโรคเบาหวาน หรือเคยตรวจสุขภาพพบค่าน้ำตาลสูงในปัสสาวะ หรือในเลือด

 

5 สัญญาณเตือนภัย โรค “เบาหวาน”

  1. เหงือกเป็นแผลอักเสบ ติดเชื้อ

เหงือกเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่อาจเป็นแผลได้ง่ายจากการเป็นฐานรองฟันที่ใช้บดเคี้ยวอาหาร ยิ่งเมื่อไรก็ตามที่ระดับน้ำตาลในเลือดของเราสูง แผลในเหงือกก็ยิ่งอักเสบ และติดเชื้อได้ง่าย แถมยังหายยากกว่าปกติอีกด้วย

 

  1. ผิวกระดำกระด่าง

โดยเฉพาะในส่วนของหลังคอ คุณอาจพบว่าสีผิวไม่สม่ำเสมอ มีสีดำเป็นปื้น หรือสีผิวกระดำกระด่างไม่สม่ำเสมอกันเหมือนเคย เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอาการผิดปกติในการทำงานของอินซูลิน หรืออยู่ในภาวะดื้ออินซูลิน ทำให้ร่างกายสูญเสียฮอร์โมนที่ร่างกายใช้ควบคุมระดบกลูโคส จนอาจนำไปสู่โรคเบาหวานได้

 

  1. รู้สึกแปลกๆ ที่ฝ่าเท้า

ความรู้สึกแปลกๆ นี้ เป็นไปได้ทั้งความรู้สึกเหมือนโดนไฟฟ้าช็อตอ่อนๆ เสียวๆ แปล๊บๆ ไปจนถึงเริ่มสูญเสียสมดุลในการเดิน ยืน หรือไปจนถึงสูญเสียความรู้สึกใดๆ กับสิ่งที่สัมผัสกับเท้าได้ แม้ว่าอาการดังกล่าวอาจเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่สวมรองเท้าส้นสูงนานๆ ได้เช่นกัน แต่หากคุณไม่ได้สวมรองเท้าส้นสูง ก็สันนิษฐานว่าร่างกายเริ่มส่งสัญญาณผิดปกติแล้วล่ะ

 

  1. สูญเสียการมองเห็น และการได้ยิน

เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ระบบประสาทต่างๆ จะเริ่มถูกทำลาย รวมไปถึงเรตินาในดวงตา รวมไปถึงของเหลวในลูกตาที่ผิดปกติ ทำให้คุณมองเห็นภาพมัวๆ เบลอๆ ไม่ชัดเจน และยังทำให้ระบบประสาทการได้ยินทำงานผิดปกติอีกด้วย

 

  1. ง่วงนอนมากยิ่งขึ้น

ใครที่นอนแล้วนอนอีก นอนยังไงก็ไม่หายง่วง อาจเป็นเพราะระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไป จนอาจเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานนั่นเอง นอกจากนี้บางคนยังอาจมีปัญหาในเรื่องของการหลับในตอนกลางคืน จนทำให้มาง่วงมากๆ ในตอนกลางวันได้ ซึ่งหากยิ่งนอนไม่เป็นเวลา ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานได้อีก

 

หากมีอาการดังกล่าว อย่านิ่งนอนใจ รีบพบแพทย์เพื่อนตรวจสุขภาพอย่างละเอียด และเริ่มต้นรักษาอย่างทันท่วงที ก่อนที่อาการจะหนัก และใช้เวลารักษานาน และยากขึ้น

 

อ่านต่อ >> 7 สัญญาณอันตราย “เบาหวาน” ไม่อ้วนก็เป็นได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook