วิธีรับมืออาการ "ขี้เกียจทำงาน" (Post Vacation Blues)
หลังจากที่หยุดยาวหลายวัน มีคนจำนวนไม่น้อยที่มีปัญหากับการจัดการชีวิตตัวเอง เพราะยังคงมีอารมณ์ค้างกับความสนุกหรือความรู้สึกผ่อนคลายจากการได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ทั้งๆ ที่ได้หยุดนานขนาดนั้น แถมได้เที่ยวสมใจอยากแล้ว แต่ทำไมถึงยังมีอาการเหนื่อยล้า เพลีย ขี้เกียจ และงอแงที่จะต้องตื่นมาทำงานตามปกติล่ะ?
จริงๆ แล้วอาการแบบนี้ใครๆ ก็เป็นกัน และไม่ต้องกังวลไป ว่าจะมีเราคนเดียวที่ขี้เกียจจะทำงานในช่วงสัปดาห์แรกหลังหยุดยาวแบบนี้ อาการที่ว่าเรียกว่าภาวะ Post Vacation Blues เป็นภาวะอารมณ์เศร้าซึม เหี่ยวเฉาที่เกิดขึ้นหลังจากที่เราได้ไปเพลิดเพลินและสนุกสนานอย่างเต็มเหนี่ยวในช่วงวันหยุดยาว เมื่อต้องกลับมาเจอกิจวัตรประจำวันเดิมๆ ซ้ำๆ จึงทำให้รู้สึกว่าชีวิตช่างน่าเบื่อ เมื่อเทียบกับความสุขที่ได้รับในระหว่างวันหยุด แบบว่ายิ่งเรามีความสุขกับวันหยุดที่ผ่านมามากเท่าไร โอกาสที่จะต้องเผชิญหน้ากับภาวะ Post Vacation Blues ก็ยิ่งมีมากเท่านั้น
ทว่าแต่ละคนจะมีอาการต่างกันออกไป บางคนแค่รู้สึกคิดถึงบรรยากาศและกิจกรรมที่ทำในวันหยุดที่ผ่านมา บางคนคิดถึงญาติพี่น้องที่บ้าน บางคนอยากได้วันหยุดเพิ่ม บางคนไม่อยากจะตื่นมาทำงาน และรู้สึกว่าตัวเองขี้เกียจมากกว่าปกติด้วย ทำให้มีปัญหาเมื่อจะทำงาน เพราะขาดความสนใจในการทำสิ่งต่างๆ รู้สึกเหนื่อยและอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา ขาดสมาธิ ในหัววนเวียนอยู่แต่กับความรู้สึกไม่อยากทำงาน อยากได้วันหยุดเพิ่ม รวมถึงคิดถึงแต่วันหยุดถัดไปว่าเมื่อไรจะวนมาเสียที
อาการนี้ไม่ถือว่าเป็นโรคทางจิตเวช เนื่องจากสามารถหายได้เองภายในไม่กี่วัน คนส่วนใหญ่แค่ได้กลับมาทำงานตามปกติประมาณ 1 สัปดาห์อาการก็ปรับตัวได้จนอาการหายไปเอง แต่ในรายที่มีความสุขมากในช่วงหยุดยาวอาจยังติดลมบนได้นานถึง 2-3 สัปดาห์เลยทีเดียว อย่างไรก็ดี ลักษณะอาการนี้อาจเชื่อมโยงไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ หากเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆ แล้วยังไม่หาย ยังคงทำงานช้า รู้สึกหมดไฟ อมทุกข์ หรือซึมเศร้าตลอดเวลา แบบนี้ควรต้องปรึกษาแพทย์
จริงๆ แล้วมีงานวิจัยที่พูดถึงภาวะ Post Vacation Blues อยู่หลายชิ้นและวิธีการรับมือภาวะนี้ แต่ ณ ที่นี้เราจะพูดถึงแค่การรับมือกับความรู้สึกที่ขี้เกียจจะทำงานอันเป็นผลพวงมาจากอาการที่ว่า แน่นอนว่าการทำงานทั้งที่ยังขี้เกียจ มันคงจะรู้สึกฝืนๆ ไม่อยากทำ และคงจะทรมานอยู่ไม่น้อย แต่เราจะปล่อยให้ความขี้เกียจเล่นงานเราแบบนี้ตลอดสัปดาห์ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นอาจได้พักผ่อนยาวและต้องหางานใหม่ทำแน่ๆ มาดูกันว่าคนทั่วๆ ไปเขากำจัดความขี้เกียจลักษณะนี้ไปได้อย่างไรบ้าง
- เริ่มต้นทำงานในช่วงสัปดาห์แรกด้วยงานเบาๆ
ก็ในเมื่อมันไม่มีกะจิตกะใจที่จะทำงาน ขาดความสนใจ ไม่มีสมาธิ ง่วงเหงาหาวนอนทั้งวันแบบนี้ ทำงานใหญ่ งานหนัก งานที่ต้องใช้สมาธิมากๆ หรืองานที่ต้องการการโฟกัสหนักๆ ไม่ไหวหรอก ไม่ไหวก็อย่าเพิ่งฝืน มิเช่นนั้นก็จะได้งานออกมาแบบที่ไม่ประสิทธิภาพ ไร้ซึ่งคุณภาพ เพราะฉะนั้นในสัปดาห์แรก โดยเฉพาะวันแรกๆ อย่าเพิ่งทำงานเต็มรูปแบบ ถ้าเลือกได้ให้เลือกหยิบงานเบาๆ ไม่ยากมาก ไม่ต้องเค้นสมองคิดหนักๆ โดยอาจเลือกงานที่ต้องทำให้เสร็จในวันนั้นจริงๆ มาทำก่อน งานใหญ่ๆ หนักๆ เก็บไว้ทำในวันที่พร้อมกว่านี้
- ใช้ลิสต์ที่ทำไว้ก่อนหยุดยาวช่วย
จำลิสต์งานล่วงหน้าที่เคยทำไว้ก่อนถึงวันหยุดยาวได้ไหม สิ่งนี้ช่วยได้เยอะเลยทีเดียว เพราะมันเป็นลิสต์ที่เราทำขึ้นเพื่อแยกงานเป็นอย่างๆ ว่ามีงานอะไรบ้างที่ต้องกลับมาทำหลังจากหมดวันหยุดไปแล้ว ลิสต์นี้จะช่วยให้เราเลือกงานมาทำได้เหมาะกับอารมณ์ที่ยังไม่พร้อมจะทำงาน ถ้าไม่มีงานไหนที่เร่งด่วนหรือสำคัญไปกว่ากัน ก็เลือกงานง่ายๆ งานเบาๆ มาทำก่อน และยังช่วยลดปัญหาหลงๆ ลืมๆ ได้หน้าลืมหลังในช่วงที่อารมณ์ไม่พร้อมทำงานแบบนี้ด้วย แบบว่าหยิบจับอะไรไม่ถูก ลิสต์นี้จึงมีส่วนช่วยแก้อาการติดลมบนเพราะหยุดยาวได้ดีทีเดียว
- หาเพื่อนร่วมงานพูดคุยระบายเรื่องวันหยุดที่ผ่านมา
เพราะความรู้สึกมีความสุขในช่วงวันหยุดยาวมันปลื้มปริ่มอิ่มเอมมากจนถึงขั้นทำให้นึกถึงไม่รู้หาย ขนาดเลิกหยุดแล้วจนกลับมาทำงานตามปกติแล้วก็ยังอารมณ์ค้างอยู่เลย ก็อย่าได้เก็บอารมณ์นี้ไว้และมัวแต่คิดถึงมันอยู่คนเดียว ลองหาเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจได้พูดคุยหรือแชร์เรื่องราวต่างๆ ที่ได้ไปทำในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาบ้างก็ดี เราเล่าให้เขาฟัง เขาเล่าให้เราฟัง ความรู้สึกสนุกสนานแบบนี้ต้องหาทางระบายออกมาบ้าง เพื่อไม่ให้มันติดค้างอยู่ในใจคนเดียว แล้วมัวแต่เฝ้าฝันถึงวันหยุดครั้งหน้าทั้งที่เพิ่งจะเปิดงานหมาดๆ
- ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานบางอย่าง
อาจเป็นเพราะสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกหดหู่ ซึมเศร้า ถามหาวันหยุดเพิ่ม เมื่อต้องกลับมาทำงานหลังจากวันหยุดยาวก็คือการที่เราต้องกลับมาเจอกับบรรยากาศเดิมๆ ในการทำงาน รูปแบบการทำงานเดิมๆ เพื่อนร่วมงานหน้าเดิมๆ กิจวัตรประจำวันเดิมๆ ซึ่งมันเทียบไม่ได้เลยกับความแปลกใหม่ที่เราเจอในวันหยุด ได้เจอสิ่งใหม่ๆ สนุกๆ อยู่ไม่กี่วันก็กลับมาเจอบรรยากาศเก่าๆ อีกแล้ว พอไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นมันก็รู้สึกเอือมระอาเป็นธรรมดา ฉะนั้น ลองปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่างในการทำงานให้ต่างจากเดิมไปบ้าง ให้มีอะไรได้ตื่นเต้นบ้าง ก็ทำให้มีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้นแล้ว
- ก็วางแผนวันหยุดครั้งหน้าไปเลยสิ
เมื่อเรารู้แล้วว่ามีความสุขกับสิ่งไหน ก็ลองใช้สิ่งนั้นมาเป็นแรงจูงใจให้เกิดการทำงานก็น่าเป็นความคิดที่ไม่เลว โดยเฉพาะในช่วงที่ความสุขช่วงหยุดยาวยังคงรบกวนจิตใจอยู่แบบนี้ ก็ไม่ต้องฝืน ใช้วิธีตั้งเป้าหมายการทำงานไว้เลยก่อนจะถึงวันหยุดครั้งหน้า แล้วค่อยๆ พิชิตงานให้เสร็จไปทีละอย่างโดยให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ รางวัลก็คือการได้มีความสุขกับวันหยุดถัดไปพอดี เมื่อเรารู้ว่ามีความสนุกกำลังรอเราอยู่ เราก็พร้อมที่จะรีบใช้ชีวิตประจำวันเพื่อให้ไปถึงวันนั้นเร็วๆ ซึ่งถ้ามัวแต่เอ้อระเหยหรือขี้เกียจอยู่ล่ะก็งานก็จะไม่เสร็จ งานไม่เสร็จก็อดเที่ยว