7 วิธีปรับพฤติกรรม ลดอาการ “กรดไหลย้อน”
ผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน การรับประทานอาหาร พักผ่อน ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี
กรดไหลย้อน เกิดขึ้นได้อย่างไร?
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคกรดไหลย้อนเป็นภาวะที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด ไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหารทำให้เกิดอาการแสบร้อนบริเวณหน้าอกมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของหูรูดส่วนปลายหลอดอาหาร โดยเกิดจากการที่มีความดันของหูรูดต่ำหรือหูรูดเปิดบ่อยกว่าปกติ ทำให้กรดในกระเพาะอาหารสามารถไหลย้อนกลับขึ้นมาในหลอดอาหารได้ หรือผู้ที่เป็นโรคไส้เลื่อนกะบังลมทำให้กระเพาะอาหารบางส่วนเลื่อนเข้าไปอยู่ในช่องอก มีโอกาสเกิดการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารเพิ่มมากขึ้น หรือเกิดจากความผิดปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหารทำให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานกว่าปกติ เพิ่มโอกาสในการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารสู่หลอดอาหาร
นอกจากนี้ยังพบว่าอาจเกิดจาก โรคอ้วน การตั้งครรภ์ หรือการใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาหอบหืด ยารักษาความดันบางชนิด ยารักษาโรคซึมเศร้า และการสูบบุหรี่
>> สาเหตุโรคกรดไหลย้อน ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
อาการของกรดไหลย้อน
นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการของโรคกรดไหลย้อนที่พบได้แก่
- แสบร้อนบริเวณหน้าอก ซึ่งจะเป็นมากหลังรับประทานอาหาร
- มีอาการเรอเปรี้ยว คือมีน้ำรสเปรี้ยวหรือรสขมไหลย้อนขึ้นมาในปาก อาจทำให้เกิดภาวะหลอดอาหารอักเสบมีเลือดออกจากหลอดอาหาร
- กลืนติด กลืนลำบาก
- ท้องอืด แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หลังจากรับประทานอาหาร
- เจ็บหน้าอก จุกคล้ายมีอะไรติดหรือขวางอยู่บริเวณคอ
- ไอแห้งๆ เสียงแหบ เจ็บคอ เกิดจากกรดที่ไหลย้อนขึ้นมาบริเวณกล่องเสียง ทำให้เกิดกล่องเสียงอักเสบ
>> สัญญาณอันตราย โรค "กรดไหลย้อน"
วิธีปรับพฤติกรรม ลดอาการกรดไหลย้อน
โรคกรดไหลย้อนสามารถดูแลรักษาตนเองเบื้องต้นได้โดย
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารไขมันสูง เช่น ของทอด แกงกะทิ ฟาสต์ฟู้ด เนื่องจากอาหารที่มีไขมันสูงจะลดความดันของหูรูดส่วนปลายหลอดอาหาร และทำให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานขึ้น
- ควรแบ่งรับประทานอาหารเป็นมื้อย่อย หลายๆ มื้อแทนการรับประทานอาหารมื้อหลัก 3 มื้อ
- หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- ควรนอนหลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้วอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อรักษาน้ำหนักตัว
- ไม่ใส่เสื้อรัดรูปจนเกินไป