7 วิธีปรับพฤติกรรม ลดอาการ “กรดไหลย้อน”

7 วิธีปรับพฤติกรรม ลดอาการ “กรดไหลย้อน”

7 วิธีปรับพฤติกรรม ลดอาการ “กรดไหลย้อน”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน การรับประทานอาหาร พักผ่อน ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี

กรดไหลย้อน เกิดขึ้นได้อย่างไร?

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคกรดไหลย้อนเป็นภาวะที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด ไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหารทำให้เกิดอาการแสบร้อนบริเวณหน้าอกมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของหูรูดส่วนปลายหลอดอาหาร โดยเกิดจากการที่มีความดันของหูรูดต่ำหรือหูรูดเปิดบ่อยกว่าปกติ ทำให้กรดในกระเพาะอาหารสามารถไหลย้อนกลับขึ้นมาในหลอดอาหารได้ หรือผู้ที่เป็นโรคไส้เลื่อนกะบังลมทำให้กระเพาะอาหารบางส่วนเลื่อนเข้าไปอยู่ในช่องอก มีโอกาสเกิดการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารเพิ่มมากขึ้น หรือเกิดจากความผิดปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหารทำให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานกว่าปกติ เพิ่มโอกาสในการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารสู่หลอดอาหาร 

นอกจากนี้ยังพบว่าอาจเกิดจาก โรคอ้วน การตั้งครรภ์ หรือการใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาหอบหืด ยารักษาความดันบางชนิด ยารักษาโรคซึมเศร้า และการสูบบุหรี่

>> สาเหตุโรคกรดไหลย้อน ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน


อาการของกรดไหลย้อน

นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์  กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการของโรคกรดไหลย้อนที่พบได้แก่ 

  • แสบร้อนบริเวณหน้าอก ซึ่งจะเป็นมากหลังรับประทานอาหาร 

  • มีอาการเรอเปรี้ยว คือมีน้ำรสเปรี้ยวหรือรสขมไหลย้อนขึ้นมาในปาก อาจทำให้เกิดภาวะหลอดอาหารอักเสบมีเลือดออกจากหลอดอาหาร 

  • กลืนติด กลืนลำบาก 

  • ท้องอืด แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หลังจากรับประทานอาหาร 

  • เจ็บหน้าอก จุกคล้ายมีอะไรติดหรือขวางอยู่บริเวณคอ
  • ไอแห้งๆ เสียงแหบ เจ็บคอ เกิดจากกรดที่ไหลย้อนขึ้นมาบริเวณกล่องเสียง ทำให้เกิดกล่องเสียงอักเสบ 

>> สัญญาณอันตราย โรค "กรดไหลย้อน"


วิธีปรับพฤติกรรม ลดอาการกรดไหลย้อน

โรคกรดไหลย้อนสามารถดูแลรักษาตนเองเบื้องต้นได้โดย 

  1. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารไขมันสูง เช่น ของทอด แกงกะทิ ฟาสต์ฟู้ด เนื่องจากอาหารที่มีไขมันสูงจะลดความดันของหูรูดส่วนปลายหลอดอาหาร และทำให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานขึ้น 

  2. ควรแบ่งรับประทานอาหารเป็นมื้อย่อย หลายๆ มื้อแทนการรับประทานอาหารมื้อหลัก 3 มื้อ 

  3. หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 

  4. ควรนอนหลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้วอย่างน้อย 3 ชั่วโมง 

  5. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ 

  6. ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อรักษาน้ำหนักตัว 

  7. ไม่ใส่เสื้อรัดรูปจนเกินไป

 

>> 12 วิธีป้องกันโรค "กรดไหลย้อน" ไม่ให้ย้อนกลับมาหาอีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook