“อาหารทะเล” เลือกกิน-เลือกซื้ออย่างไรให้ปลอดภัยต่อร่างกาย
อากาศร้อนๆ ในบ้านเรา อาจทำให้อาหารทะเลเน่าเสียได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออาหารทะเลสดมาทำรับประทานเองที่บ้าน หรืออาหารทะเลที่ปรุงสำเร็จที่ร้านอาหาร ก็มีความเสี่ยงพอๆ กัน ดังนั้นเราควรจะเลือกซื้อ เลือกกินอย่างไรถึงจะปลอดภัย?
อันตรายจากอาหารทะเล
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า อาหารทะเลเป็นอาหารสดที่เน่าเสียได้ง่าย ทำให้ผู้ประกอบการบางรายใช้วิธีการที่ผิดเพื่อรักษาความสดและชะลอการเน่าเสียของอาหารทะเลด้วยการนำมาแช่สารฟอร์มาลีน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะสารฟอร์มาลีนเป็นสารที่ห้ามนำมาใส่อาหาร หากกินอาหารที่ปนเปื้อนฟอร์มาลีนไปในปริมาณ 60-90 มิลลิกรัม จะทำให้เป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหาร
อาการที่เกิดขึ้น จากอาหารทะเลปนเปื้อนฟอร์มาลีน
- ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
- หัวใจเต้นเร็ว
- แน่นหน้าอก
- ปากและคอแห้ง
- คลื่นไส้อาเจียน
- ถ่ายท้อง ท้องเสีย ท้องร่วง
- ปวดท้องอย่างรุนแรง
- กระเพาะอาหารอักเสบ เกิดแผลในกระเพาะอาหาร
- ปัสสาวะไม่ออก
- หมดสติ
ถ้าปล่อยไว้อาจทำให้เสียชีวิตเพราะระบบหมุนเวียนเลือดล้มเหลว
วิธีเลือกกิน-เลือกซื้อให้ปลอดภัยต่อร่างกาย
- เลือกซื้ออาหารทะเลต้องเลือกจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ตลาดสดน่าซื้อของกรมอนามัย ซึ่งจะมีการตรวจการปนเปื้อนจากฟอร์มาลีนอยู่สม่ำเสมอ
- เลือกปลาที่เนื้อแน่น กดไม่บุ๋ม ไม่มีกลิ่นผิดธรรมชาติ เกล็ดไม่มีรอยแยกหรือแตกออก เพราะอาจทำให้เชื้อโรคปนเปื้อนในเนื้อปลาได้ง่าย
- เลือกซื้อปูที่มีตาต้องใส และขาต้องติดตัวปูครบทุกขา
- เลือกซื้อกุ้งที่หัวกุ้งต้องใส หัวกับตัวจะยังติดกันแน่น เพราะกุ้งที่ไม่สด หัวหรือส่วนที่เป็นเปลือกส่วนหัวจะไม่ติดกับตัว
- ผู้ที่นิยมบริโภคแมงดา และแมงกะพรุน ต้องระวังในการเลือกซื้อ เนื่องจากแมงดาทะเลมี 2 ชนิด คือ แมงดาจานที่ไม่มีพิษ ส่วนแมงดาถ้วยหรือแมงดาไฟ หรือเหรา เป็นแมงดาที่มีพิษ ผู้บริโภคต้องสังเกตให้ดีว่าเป็นแมงดาที่กินได้หรือไม่ได้ หากแยกไม่ออก ไม่ควรกิน อาจเสี่ยงได้รับพิษ
- แมงกะพรุนที่กินได้ มี 2 ชนิด คือ แมงกะพรุนหนังและแมงกะพรุนจาน แต่ผู้บริโภคควรระวังแมงกะพรุนไฟเพราะเป็นแมงกะพรุนมีพิษ
อาหารทะเลที่นำมาจำหน่ายควรแช่เย็น หรือแช่น้ำแข็งที่สะอาด และต้องทำความสะอาดภาชนะที่ผสมน้ำคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรค ที่สำคัญต้องปรุงให้สุกด้วยความร้อน หากไม่กินทันทีควรเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อชะลอการเน่าเสีย