แพทย์ทางเลือก! กับมะเร็งเต้านม

แพทย์ทางเลือก! กับมะเร็งเต้านม

แพทย์ทางเลือก!  กับมะเร็งเต้านม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศ.ดร.นพ.พรชัย  โอเจริญรัตน์
ภาควิชาศัลยศาสตร์
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

 

การแพทย์ทางเลือก เป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน โดยมีการสร้างกระแสจากสื่อต่างๆ รายงานว่า หายจากมะเร็งได้ด้วยแพทย์ทางเลือกแต่จากการเก็บข้อมูลผู้ที่ใช้การแพทย์ทางเลือกในประเทศไทย มีข้อที่น่าสังเกตว่า

- ผู้หญิงบางรายไม่ได้เป็นมะเร็ง เพียงแต่ไปพบแพทย์และได้รับการตรวจคลำพบก้อนในเต้านม ซึ่งแพทย์สันนิษฐานว่าอาจเป็นมะเร็ง แต่ไม่ได้รับการตรวจโดยละเอียด หันเข้าหาแพทย์ทางเลือกเลย ซึ่งในความเป็นจริงอาจเป็นซีสต์ ซึ่งสามารถหายได้เองเมื่อปล่อยไว้ระยะเวลาหนึ่ง

 - ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งชนิดไม่ลุกลาม  เช่น มะเร็งเต้านมระยะเริ่มแรก ซึ่งได้รับการวินิจฉัยโดยการคว้านชิ้นเนื้อเพื่อไปตรวจหามะเร็งนั้น   ซึ่งก็จัดเป็นการรักษาในรูปแบบหนึ่งอยู่แล้ว  หลังจากนั้นผู้ป่วยหันไปหาแพทย์ทางเลือก  จึงทำให้เข้าใจว่าช่วยให้หายจากมะเร็ง    ทั้งที่ชิ้นเนื้อที่คว้านไปอาจตัดเชื้อมะเร็งออกไปจนหมดเนื่องจากเป็นในระยะเริ่มแรก

- ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันจนครบคอร์สแล้ว กำลังเกิดผลข้างเคียง จากการรักษา  ร่างกายอ่อนเพลียจากเคมีบำบัด และหันเข้าหาแพทย์ทางเลือกในช่วงนั้น  เมื่อร่างกายฟื้นตัวขึ้น  ก็เข้าใจเอาว่าการที่มะเร็งหายนั้น มาจากแนวทางการแพทย์ทางเลือกที่ไปเข้ารับในภายหลัง   

- แพทย์ทางเลือกผสมยาเคมีบำบัดในยาสมุนไพรที่อ้างว่ารักษามะเร็งได้ เมื่อผู้ป่วยรับยาเข้าไป  ทำให้ก้อนมะเร็งยุบลงได้ แต่เป็นการรับยาในปริมาณที่ไม่เพียงพอและไม่เหมาะสม เหมือน “การเลี้ยงไข้” เอาไว้ ทำให้สุดท้ายมะเร็งเกิดดื้อยาในที่สุด


กลุ่มที่เชื่อในแนวทางการแพทย์ทางเลือกนี้ มีความคล้ายคลึงกัน คือ เป็นกลุ่มที่มีการศึกษาดี และพยายามขวนขวายหาข้อมูลจากสื่อต่างๆ  จึงหันไปหาแพทย์ทางเลือก  โดยละเลยแพทย์แผนปัจจุบัน  หลายคนที่ออกไปแล้วกลับมาเข้ารับการรักษา หลังจากวิเคราะห์เจอเซลล์มะเร็งครั้งแรกเมื่อ 1-2 ปี ทำให้หมดโอกาสในการรักษาตั้งแต่มะเร็งเกิดขึ้นแรกๆ โอกาสหายก็น้อยลง และหลายรายกลับมาในลักษณะที่มะเร็งลุกลามไปไกลเกินกว่าจะแก้ไขได้แล้ว

สำหรับคนรักสุขภาพทั้งหลาย  ขอฝากทิ้งท้ายว่า อย่าทิ้งการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียดายหากแนวทางที่เลือกไปไม่ประสบผล อย่าลืมว่าการปล่อยเวลาให้ผ่านไปนั้น เท่ากับเป็นการปล่อยให้เซลล์มะเร็งร้ายในร่างกายเติบโตขึ้นทุกวัน

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม >>>>>  SIRIRAJ  E-PUBLIC  LIBRARY
ขอบคุณเนื้อหาจาก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook