ไขข้อสงสัย อันตรายไหม? เมื่อแม่ท้องมีอาการปวดและชานิ้วมือ

ไขข้อสงสัย อันตรายไหม? เมื่อแม่ท้องมีอาการปวดและชานิ้วมือ

ไขข้อสงสัย อันตรายไหม? เมื่อแม่ท้องมีอาการปวดและชานิ้วมือ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับคนท้องอาจมีอาการปวดและชานิ้วมือเกิดขึ้น ซึ่งคุณแม่มือใหม่อาจสงสัยว่าอาการที่เกิดขึ้นนี้เป็นอาการคนท้องอย่างหนึ่งหรือเปล่า ต้องรีบไปพบแพทย์ไหม และลูกในท้องจะเป็นอันตรายไหม เพื่อไม่ให้คุณแม่ต้องเสียสุขภาพจิตเรามีคำอธิบายมาชี้แจงให้คุณแม่ได้หายสงสัยดังต่อไปนี้

สาเหตุของอาการปวดและชาตามนิ้วมือนิ้วเท้า

ส่วนใหญ่แล้วอาการปวดและชานิ้วมือของคนท้องนั้น มีสาเหตุมาจากการที่เส้นประสาทที่ไปเลี้ยงบริเวณมือถูกกดทับ ส่งผลให้เนื้อเยื่อตรงส่วนนั้นมีอาการบวมจนทำให้มีอาการปวดชาตามนิ้วมือตามมา ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนท้องมีอาการดังกล่าวก็เนื่องมาจาก ในระหว่างตั้งครรภ์ระดับฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่จะเปลี่ยนแปลงไป โดยฮอร์โมนตัวหนึ่งที่ชื่อโพรเจสเตอโรนไปกระตุ้นให้เอ็นเกิดการคลายตัวและทำให้ข้อต่อกระดูกเกิดการหย่อนตัวมากขึ้น ส่งผลให้ภายในร่างกายมีน้ำสะสมอยู่ในปริมาณมาก และด้วยปริมาณน้ำที่มากเกินไป ก็จะไปทำให้ช่องตรงส่วนข้อมือเล็กแคบลง และทำให้เส้นประสาทถูกกดทับ โดยอาการปวดและชานิ้วมืออาจจะเกิดได้กับนิ้วมือข้างใดข้างหนึ่ง หรืออาจจะเป็นทั้งสองข้างพร้อมกันก็ได้ ซึ่งคุณแม่อาจจะมีอาการนี้ไปจนสิ้นสุดการตั้งครรภ์

วิธีบรรเทาอาการเมื่อปวดและชาตามนิ้วมือนิ้วเท้า

  1. เมื่อคุณแม่มีอาการปวดและชาเกิดขึ้นในขณะที่คุณแม่ใช้มือในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้คุณแม่พักมือจากงานที่ทำอยู่ทันที และปล่อยไว้ซักพักแล้วอาการจะดีขึ้นได้เอง
  2. ให้คุณแม่เอามือแช่ลงในน้ำอุ่น เนื่องจากน้ำอุ่นจะช่วยกระตุ้นให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่งก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นและจะค่อย ๆ หายเป็นปกติ โดยหากคุณแม่ทำเป็นประจำก่อนนอน ก็จะช่วยให้ความถี่ของอาการลดน้อยลง
  3. ฝึกโยคะบริหารกล้ามเนื้อ การทำโยคะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยสร้างความผ่อนคลายให้กล้ามเนื้อและช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น และยังช่วยให้กล้ามเนื้อมือมีความแข็งแรงมากขึ้นด้วย แต่ต้องเลือกท่าโยคะที่ไม่กระทบต่อลูกน้อยในครรภ์มากนัก

อาการปวดและชานิ้วมือถือเป็นอาการคนท้องอย่างหนึ่งซึ่งจะสามารถหายไปได้เอง เนื่องจากภายหลังจากการคลอดอาการบวมจะลดน้อยลง ทำให้ช่องตรงส่วนนิ้วมือกลับมากว้างขึ้น ทำให้อาการปวดและชาจากการกดทับของเส้นประสาทหมดไป แต่อย่างไรก็ดีตามหากมีอาการรุนแรงมากหรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook