5 อาหารดีมากประโยชน์ กินเยอะไปก็ให้โทษได้เหมือนกัน

อาหารที่มีประโยชน์ก็พ่วงมาพร้อมโทษต่อสุขภาพได้เช่นเดียวกัน หลายคนย่อมไม่อยากเชื่อเป็นแน่ วันนี้เรามาดูกันดีกว่านะคะว่าอาหารใดบ้างที่กินมากเกินไปแล้วเสี่ยงโทษ มาดูกันเลยค่ะ

1. มะละกอ
เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่มากด้วยใยอาหารและมีวิตามินซีสูง ใครที่ท้องผูกบ่อยๆ กินมะละกอช่วยแก้ได้แน่นอน ทว่าขณะเดียวกัน หากกินไปนานๆ อาจเปลี่ยนสีผิวของคุณให้เหลืองขึ้นได้ ในส่วนวิตามินเอที่มีสูงอยู่พร้อมกัน หากเรากินมากเกินไปจะส่งผลให้มีโอกาสเสี่ยงต่อข้อต่อและกระดูก เบื่ออาหาร ซึม นอนไม่หลับ ผมร่วง ปวดศีรษะและท้องผูกได้เช่นกัน

2. ส้ม
เราต่างก็รู้ดีกันว่าส้มเป็นผลไม้ที่มากด้วยวิตามินซีสามารถทานเพื่อป้องกันหวัดและบำรุงสุขภาพได้อย่างหลายด้าน แต่หากร่างกายได้รับวิตามินซีมากกว่า 500 มิลลิกรัมต่อวันเป็นเวลานานเกินไป ก็ย่อมส่งผลให้เป็นนิ่วในไตได้ และหากกินมากเกินกว่าวันละ 1,000 มิลลิกรัม ยังส่งผลให้มีโอกาสท้องเสียได้ด้วย นอกจากนี้ การกินส้มในขณะท้องว่างยังมีผลให้เกิดอาการระคายเคืองในทางเดินอาหารได้ด้วย

3. กะหล่ำปลี
นับเป็นผักที่มีประโยชน์มากมายหลายด้าน ทั้งยังมีคุณสมบัติที่สามารถป้องกันแบะต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งในอวัยวะต่างๆ ได้หลายส่วน มีฤทธิ์ที่ช่วยขับล้างสารพิษออกจากร่างกายได้ หากกินเป็นประจำยังช่วยให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ด้วย ทว่าขณะเดียวกัน ก็มีสารที่จะพิษที่จะทำให้เราเกิดโรคคอหอยพอกได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงไม่อยากแนะนำให้กินดิบบ่อยเกินไป ทางที่ดีนำไปลวกให้สุกก่อนดีกว่า เพราะสารพิษที่ชื่อ Goitrogen อันเป็นสาเหตุของการเกิดคอหอยพอกจะได้ถูกทำลายด้วยนั่นเอง

4. ทูน่า
ปลาทะเลที่มีไขมันและคอเรสเตอรอลต่ำ แต่มีประโยชน์ในการบำรุงเซลล์สมองและเสริมสร้างความจำให้ดีขึ้นได้ ทว่าขณะเดียวกัน ไม่แนะนำให้สตรีมีครรภ์ เด็กเล็กหรือสตรีที่เพิ่งคลอดบุตรทาน ควรหลีกเลี่ยงหรือกินเพียงน้อยๆ ก่อนจะดีกว่า เนื่องจากในเนื้อปลาทูน่ามีสารปรอทเจือปนอยู่ด้วย หากกินมากเกินไปอาจส่งผลให้สารดังกล่าวสะสมอยู่ในร่างกายและส่งผลเสียไปยังระบบประสาทได้ เช่น อาจทำให้เนื้อสมองบางส่วนตายได้นั่นเอง

5. น้ำ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรามักจะเข้าใจกันว่าการดื่มน้ำในปริมาณมาก ยิ่งมากอาจจะยิ่งดีต่อสุขภาพ แต่คราวนี้ลองเปลี่ยนความคิดกันเสียใหม่นะคะ เพราะการดื่มน้ำเกินไปก็ย่อมมีโทษได้เช่นกัน เพราะน้ำส่งผลให้ธาตุโซเดียมในเลือดลดระดับลงอย่างรวดเร็ว ร่างกายจะเสียการรักษาสมดุลน้ำระหว่างนอกเซลล์และในเซลล์ ทำให้เซลล์เกิดภาวะบวม อาจมีอาการชักกระตุก สมองบวม ปอดบวม หมดสติและเสียชีวิตได้ อีกทั้งการดื่มในปริมาณมากและรวดเร็วนั้นยังเสี่ยงให้เกิดภาวะน้ำเกินหรือน้ำเป็นพิษได้ด้วย ดังนั้นแล้ว หันมาดื่มน้ำอย่างพอดีแค่วันละ 8-10 แก้ว แบบค่อยๆ จิบอย่างพอดีกันจะดีกว่า

ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อนะคะว่าอาหารดีที่ถูกรณรงค์ให้กินกันเยอะๆ นั้น ยังมีโทษตามมาพร้อมกัน ดังนั้นแล้ว จากนี้ไม่ว่าจะเป็นอาหารใดก็ตาม หันมากินแบบพอดีไม่มากหรือน้อยเกินไปจะดีกว่า สุขภาพแข็งแรงจะได้อยู่กับเราไปนานๆ ดีมั้ยคะ