น้องหมาหาย...ทุกข์ของคนรักสุนัข

สำหรับคนรักหมา ช่วงเวลาที่มีความสุขก็คือ การได้อยู่ใกล้ๆ กับน้องหมาสี่ขาที่แสนซื่อสัตย์ ในทาง ตรงกันข้าม ช่วงเวลาที่แสนทรมานก็คงหนีไม่พ้น การพลัดพราก จากหมาที่รัก หรือ การสูญหาย ของน้องหมา ล้วนแต่สร้างความเจ็บปวดหัวใจให้กับผู้เป็นเจ้าของไม่น้อย
มาตรการ...หมาหายต้องล้อมรั้ว
ควรจำไว้ให้ขึ้นใจว่าอย่าปล่อยให้น้องหมาของคุณออกไปเดินเพ่นพ่าน หากว่าไม่ได้ฝึกให้กลับมาหาเมื่อเรียกชื่อเค้า เพราะการที่คุณจะไปตะโกนเรียกชื่อเค้า แล้วหวังให้เค้าหันกลับมาหาคุณนั้นมันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ วิธีนี้ใช้ได้ผลกับน้องหมาบางตัวเท่านั้น แต่ก็ไม่เสมอไป อย่างไรก็ตามหากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร กับการฝึกหมาเพื่อป้องกันการสูญหาย เราควรเริ่มจากสิ่งต่อไปนี้
บัตรประจำตัวน้องหมา
ดูเหมือนจะเป็นวิธีที่ง่ายและคุ้มค่าที่สุดสำหรับการป้องกันน้องหมาหาย คุณต้องแน่ใจว่าน้องหมาของคุณสวมใส่ปลอกคอซึ่งแขวนป้ายที่ระบุที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของคุณเอาไว้ เผื่อกรณีพลัดหลง คนใจดีจะได้รู้ว่าจะติดต่อหาเจ้าของสุนัขได้อย่างไร ไม่อย่างนั้นเขาอาจโทรฯหาโรงงานลูกชิ้นหมาที่ไหนสักแห่งแทนก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ป้ายห้อยคอเหล่านี้อาจหลุดได้ง่าย วิธีการที่ดีมากๆอีกวิธีหนึ่งก็คือคุณควรพาน้องหมาไปฝังไมโครชิพ ซึ่งไมโครชิพไม่มีทางจะหลุดออกไปจากตัวน้องหมาของคุณอย่างแน่นอน และคุณก็ควรจดหมายเลขไมโครชิพของน้องหมา และเก็บติดตัวคุณไว้ด้วย
พูดถึงเรื่องการฝังไมโครชิพสุนัขบ้านในประเทศไทยนั้น ขออัพเดทนิดนึงว่าข้อบัญญัติในการขึ้นทะเบียนสุนัขได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วตั้งแต่เดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2548 แต่ทางกทม.ยังไม่ได้บังคับใช้เพราะต้องรอการอกระเบียบมารองรับ ซึ่งช่วงแรกกทม.จะเปิดบริการฝังไมโครชิพฟรี ที่สวนลุมพินี โดยจะบริการฟรีเพียง 3 เดือนแรก หากพ้นกำหนดต้องเสียค่าใช้จ่ายราวตัวละ 150 บาท หากเป็นคลินิกกทม. แต่เป็นคลินิกเอกชนจะตกราว 200-500 บาท ซึ่งทางกทม. จะขอความร่วมมือไม่ให้ราคาสูงกว่านี้ทั้งนี้ในร่างระเบียบได้กำหนดวิธีการต่างๆ ในการขึ้นทะเบียนสุนัข โดยต้องฝังไมโครชิพเพื่อระบุรายละเอียดของสุนัขบ้าน จากนั้นเจ้าของสุนัขต้องไปขึ้นทะเบียนสุนัขที่สำนักเขตต่างๆ ในพื้นที่ โดยเขตจะออกบัตรประจำตัวสุนัขให้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังกำหนดโทษต่างๆ หากฝ่าฝืนอีกด้วย....หากข้อบัญญัตินี้มีผลบังคับใช้เมื่อไร การติดตามน้องหมาที่สูญหายคงง่ายขึ้นกว่าเดิม
รูปถ่ายบอกตัวตน
คุณควรมีรูปถ่ายที่เห็นหน้าและลักษณะเด่นของน้องหมาแสนรักติดไว้บ้าง นอกจากจะช่วยให้การค้นหาทำได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังเป็นการพิสูจน์ว่าคุณเป็นเจ้าของน้องหมาแสนรู้ตัวนี้จริงๆ
อย่าปล่อยให้น้องหมาคลาดสายตา
นี่คือการป้องกันที่ดีที่สุดเมื่อคุณพาน้องหมาไปเที่ยว นอกจากนี้การอุ้ม คุย เล่น หาของเล่นให้กับน้องหมาก็จะช่วยให้เับคุณมากไปกว่าสอดส่ายสายตาไปยังที่อื่นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดการพลัดหลงได้
หากเราต้องจากกัน...
เมื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างสุนัขแสนรักเกิดหายไป สิ่งที่คุณควรทำเป็นอันดับแรกคือ ตั้งสติ อย่าเพิ่งทับถมตัวเองถึงความโชคร้าย เพราะจิตใจที่ว้าวุ่นของคุณคงไม่ช่วยให้หาเค้าเจอได้เป็นแน่ สิ่งที่คุณควรทำเบื้องต้นคือ
คิดทบทวนถึงเหตุการณ์ในขณะนั้น และวางแผนการตามหาอย่างมีขั้นตอน
หากสุนัขหายระหว่างพาไปเดินเล่น ให้คุณกลับไปอยู่ในบริเวณที่เกิดการพลัดหลง และหมั่นตะโกนเรียกชื่อน้องหมา อย่าเดินไปเดินมาอย่างไร้จุดหมาย เพราะจะยิ่งทำให้สวนกันไปมาหาหมาไม่เจอ
เมื่อแน่ใจแล้วว่าน้องหมาไม่ได้พลัดหลงอยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้นแน่ จึงค่อยปิดประกาศที่มีรูปของน้องและเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อกลับในสถานที่ที่คุณคาดคะเนว่าเป็นเส้นทางที่น้องหมาจะหลงทางไป นอกจากนี้อาจโทรศัพท์ไปยังโรงพยาบาลสัตว์ต่างๆ ว่ามีสุนัขลักษณะเหมือนน้องหมาของคุณถูกพามาส่งบ้างหรือไม่
นำรูปและลักษณะเด่นของน้องหมาประกาศผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อต่างๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ และวิทยุ เช่น จส.100 ซึ่งก็น่าจะเป็นทางช่วยได้อีกทางหนึ่ง
ตามไปดูที่ศูนย์ควบคุมประชากรสุนัขเขตประเวศ (โทร. 02-358-7460) เพราะน้องหมาของคุณอาจหลงไปปะปนกับสุนัขจรจัดจนถูกเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครจับมาไว้ที่นี่
อย่าย่อท้อ นี่คือสิ่งสำคัญ
หากคุณได้ทำตามคำแนะนำข้างต้นแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววที่จะได้พบน้องหมาสุดที่รัก อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ อยากให้ลองติดตามเรื่องที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้ เรื่องราวต่อจากนี้เป็นประสบการณ์ตรงของครอบครัวหนึ่งที่เผชิญกับปัญหาสุนัขหาย เธอใช้เวลาทั้งหมด 18 วัน ถึงได้ น้องโน้ส น้องหมาชราที่น่ารักของเธอกลับคืนมา ความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงของเธอคือกุญแจสำคัญที่พาเธอก้าวผ่านช่วงเวลาที่ทุกข์ทรมานใจมาได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับหลายคนที่เคยเจอกับปัญหาน้องหมาหาย เธอมีทัศนะและวิธีคิดในการลงมือหาน้องหมาเธออย่างไร ไปติดตามกันค่ะ
คุณลลนา จิวางกูร มีสุนัขทั้งหมด 18 ตัว ซึ่งทั้งหมดเป็นสุนัขที่เก็บมาจากสถานที่ต่างๆ น้องหมาที่หายไปคือ น้องโน้ส ซึ่งเป็นสุนัขที่มีอายุเยอะแล้ว เค้าหายไประหว่างที่คุณลลนากำลังสาละวนนำสุนัขตัวอื่นๆ ลงจากรถ เพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ช่วงเวลาแค่ไม่กี่นาทีน้องโน้สได้วิ่งหายไปจากที่จอดรถตรงนั้น
พอรู้ว่าเค้าหายก็พยายามมองหาและสอบถามจากผู้ที่อยู่บริเวณนั้น แต่ตอนนั้นเป็นเวลาเช้า จึงไม่ค่อยมีคนเห็นสักเท่าไร หลังจากสอบถามยามทั้ง 2 ประตูก็ไม่มีใครเห็น ตอนนั้นก็เลยคิดว่าเค้าคงอยู่ในบริเวณโรงพยาบาลนี่แหละ เพราะเค้าก็คุ้นกับโรงพยาบาลมาก พอตกเย็นมีคนแนะนำว่าถึงเวลาที่เค้าหิวแล้วเค้าคงออกมา เราก็นั่งรออยู่จนสามทุ่ม แต่ก็ไม่เจอเค้า จากนั้นก็เริ่มเขมทิ้งไว้ตรงป้อมยามละแวกนั้น
วันต่อๆมาก็เริ่มทำใบปลิวและแปะประกาศทันที มีสถานที่ราชการบางแห่งไม่อนุญาตให้เราปิดประกาศเพราะเป็นกฎของเขา เราก็ได้แต่ฝากวางไว้ตรงป้อมยาม นอกจากนี้ยังได้จ้างวินมอเตอร์ไซค์ให้นำใบปลิวไปหย่อนตามบ้าน ซึ่งพบว่าใบปลิวนั้นมีผลตอบรับดีมาก มีคนโทรฯเข้ามาแสดงความเห็นใจและช่วยหาน้องโน้ส และก็มีประกาศผ่านทางสถานีวิทยุ จส.100 โพสกระทู้ขอความช่วยเหลือในเว็บพันทิป ห้องจตุจักร และส่งฟอร์เวิร์ดเมล
ทุกๆ ข้อความในกระทู้มีทั้งให้กำลังใจ และข้อแนะนำ เหมือนเพื่อนที่คอยช่วยคิดหาวิธีตามหาเค้า เราพยายามทำทุกอย่างเท่าที่เราทำได้ และออกตามหาเค้าทุกวัน ตอนนั้นตั้งใจทำไปจนกว่าจะรู้ว่าเค้าไม่มีชีวิตอยู่แล้ว คิดอย่างวิทยาศาสตร์เลยว่า สสารมันต้องไม่หายไปเฉยๆ มันต้องอยู่ที่ไหนสักที่หนึ่ง และเหตุผลที่ต้องตามหาเค้าให้เจอเพราะว่าเค้าเป็นลูก เค้าคือชีวิตหนึ่งที่อยู่กับเรา
ในช่วงที่ตามหาก็ใช้วิธีต่างๆ สลับกันไป เช่น นำของเล่น ข้าวของเครื่องใช้ของเค้ามาวางตามจุดต่างๆ เผื่อว่าเค้าจะได้กลิ่นที่คุ้นเคย ขูดขนของลูกๆ มาวางตามจุดต่างๆ ขับรถพาลูกๆ ของเค้ามาเห่าเรียก ซึ่งวิธีต่างๆ ก็เกิดจากการวางแผน ตัวเองจะมีแผนทุกวันว่าวันนี้เราจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร และสิ่งไหนที่ทำไปแล้วก็ควรทำซ้ำ เพราะการทดลองยังต้องทำซ้ำๆ เลยกว่าจะได้ผลที่แน่นอน ตลอดเวลาในการตามหาต้องพยายามรวบรวมข้อมูลที่พอจะเป็นเบาะแสให้มากที่สุดแล้วนำมากลั่นกรองหาความน่าจะเป็น ที่สำคัญที่สุดคือเราอย่าย่อท้อ
จากความพยายามทั้งหมดที่คุณลลนาทุ่มเทเพื่อตามหาสุนัขที่รัก ก็ทำให้เธอได้พบกับน้องโน้สในที่สุด และที่น่าสังเกตก็คือสิ่งที่ช่วยทำให้พบสุนัขหายในครั้งนี้ก็คือ ป้ายประกาศ
อย่าคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น เพราะจริงๆ แล้วมันเกิดได้ง่าย เกินกว่าที่คุณจะคาดคิดเสียอีก การดูแลเค้าอย่างดีที่สุดดูจะเป็นวิธีป้องกันน้องหมาหายได้ตรงจุดแล้ว...
ขอขอบคุณ
คุณลลนา จิวางกูร ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล ถ่ายทอดประสบการณ์ รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจในการทำคอลัมน์นี้