รู้ไว้ก่อนตัดสินใจ! โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ควรเลือกยังไง

รู้ไว้ก่อนตัดสินใจ! โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ควรเลือกยังไง

รู้ไว้ก่อนตัดสินใจ! โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ควรเลือกยังไง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

            ปัจจุบันนี้เชื่อได้เลยว่าหลายๆ คนต้องเคยได้ยินการแก้ไข ปรับตกแต่งรูปหน้าแบบไม่ต้องเจ็บตัวทำศัลยกรรม ด้วย 2 วิธีการรักษา โบท็อกซ์ (ฺBotox) และ ฟิลเลอร์ (Filler) ซึ่งถ้าอย่างที่เราเข้าใจกันง่าย โบท็อกซ์ก็คือ ฉีดเพื่อช่วยลดขนาด ลดริ้วรอยต่างๆ นานา ส่วนฟิลเลอร์คือ ตัวที่จะเข้าไปเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย หรืออยากได้เพิ่ม แต่! ถ้าเราไม่ศึกษาทำความเข้าใจให้ถูกต้อง 2 สิ่งนี้ก็อันตรายนะ

           Sanook! Women ได้โอกาสเลยแอบไปขอความรู้จากนายแพทย์ วรพล สุขีวัฒนา ผู้ก่อตั้ง DOCTOR TONY Clinic เกี่ยวกับการเลือกฉีด เลือกใช้ ข้อมูลคร่าวๆ เพื่อสาวๆ ที่กำลังคิดจะไปฉีดได้รู้และเช็คให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจกันค่ะ

           เริ่มกันที่เรื่องของการฉีดโบท็อกซ์กันก่อนเลยค่ะ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ของคนไข้ที่มาพบคุณหมอ คือ ไปฉีดมาแล้วเกิดอาการไหลย้อย บวม ติดเชื้อ เป็นพังผืด เพราะตรวจพบ Hyaluronic acid ที่เป็นของปลอมผสมอยู่ ทำให้ฉีดไปแล้วเกิดปัญหาตามมา

          สาวๆ คงเกิดคำถามว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าที่เราจะฉีดของจริงหรือของปลอม คุณหมอได้แนะนำว่า ควรที่จะขอดูกล่อง และใบอนุญาต ขอเลขที่อย.ไปเช็ค นอกจากนั่นต้องดูประสบการณ์ของคุณหมอและความน่าเชื่อถือของคลินิกด้วย ซึ่งยี่ห้อที่ได้รับการอนุญาตและปลอดภัย โดยปกติแล้วฟิลเลอร์นั่นก็จะอยู่ได้นานถึง 2 ปี แล้วแต่ยี่ห้อไป

          ต่อด้วยโบท็อกซ์กันบ้างค่ะ คุณหมอเล่าให้เราฟังว่า ความจริงแล้วเจ้าโบท็อกซ์ เขามีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า โบนา โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) ซึ่งในอเมริกายี่ห้อที่ได้รับการอนุญาตแล้วจะมีด้วยกัน 3 ยี่ห้อ แต่ในไทยที่ได้การยอมรับและอนุญาตแล้วในตอนนี้มี 2 ตัว คื Botox Onabotulinum toxinA และ Dysport Abobotulinum toxinA

            ดังนั้นแล้ว ตัวยาท็อกซินที่ใช้ฉีดเข้าไปในใบหน้าจะต้องมีความปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งสาวๆ ก็กำลังอาจจะงงว่า มันจะแตกต่างกันยังไง ของเมกา หรือ ของเกาหลี ฉีดมาก็ลดริ้วรอย ลดกรามได้เหมือนกัน คุณหมอบอกเราว่าความจริงแล้ว มันสามารถลดได้เหมือนกันจริงค่ะ แต่! ถ้าฉีดของที่ไม่มีคุณภาพ ฉีดครั้ง สองครั้งอาจจะลงปกติ แต่เมื่อไรที่ฉีดไม่ลงแล้วจะเปลี่ยนมาฉีดของที่ได้รับอย. ได้คุณภาพ สุดท้ายก็ไม่ลงอยู่ดี ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาพัก 2 -3 ปี

             ทั้งนี้เกิดมาจากส่วนผสมที่ต่างกัน นั่นคือความบริสุทธิ์ของตัวโปรตีน ท็อกซินตัวที่ปลอดภัยคือต้องมีโปรตีนน้อยที่สุด ซึ่งถ้ามีโปรตีนอยู่ในปริมาณที่เยอะจะทำให้เกิดอาการดื้อยา! และอีกหนึ่งเรื่องคือการกระจายตัวของยา 

          รู้แบบนี้แล้ว สาวๆ ที่กำลังจะไปฉีดคงต้องศึกษา หาข้อมูลคลินิกและฝีมือคุณหมอที่จะไปทำให้มากขึ้นกว่าเดิมแล้วนะคะ จริงๆ แล้วการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์นั่น ไม่ใช่เรื่องผิด หรืออันตรายใดๆ เพียงแค่เราต้องเลือกให้ดี มีการรับรอง ได้รับ อย.อย่างถูกต้องและฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ แน่นอนค่ะว่า เราจะมีใบหน้าที่เป๊ะ สมใจ และปลอดภัยจริงๆ ค่ะ

อัพเดทเรื่องราวมากมายที่ผู้หญิงห้ามพลาดได้ที่ อินสตาแกรม :  sanookwomen

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook