ระวัง! คนส่วนใหญ่ทำผิดมาตลอด เปิดเหตุผลทางการแพทย์ ทำไมต้อง "สระผมหลังสุด" เมื่ออาบน้ำ

ระวัง! คนส่วนใหญ่ทำผิดมาตลอด เปิดเหตุผลทางการแพทย์ ทำไมต้อง "สระผมหลังสุด" เมื่ออาบน้ำ

ระวัง! คนส่วนใหญ่ทำผิดมาตลอด เปิดเหตุผลทางการแพทย์ ทำไมต้อง "สระผมหลังสุด" เมื่ออาบน้ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

คนส่วนใหญ่มักสระผมก่อนอาบน้ำ แต่แพทย์ยืนยันว่า "ห้ามทำโดยเด็ดขาด!"

คนจำนวนมากเมื่อเข้าห้องน้ำก็จะราดน้ำใส่ศีรษะก่อนเป็นอันดับแรก เพราะคิดว่ารวดเร็ว สะดวก และผมก็แห้งไวขึ้นด้วย แต่ตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ดูเหมือนปกติเช่นนี้ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างเงียบ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจและความดันโลหิต

งานวิจัยทางการแพทย์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า การอาบน้ำที่ผิดลำดับ ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะและความดันโลหิตลดลงชั่วคราวเท่านั้น แต่ยังอาจเป็น "ตัวกระตุ้น" ที่นำไปสู่อาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันหรือโรคหลอดเลือดสมอง (อัมพาต/อัมพฤกษ์) ได้

 ทำไม "สระก่อนอาบ" จึงอันตราย?

ขณะอาบน้ำ น้ำอุ่นจะทำให้อวัยวะและหลอดเลือดขยายตัว หากคุณรีบราดน้ำร้อนใส่ศีรษะทันทีที่เข้าห้องน้ำ หลอดเลือดบริเวณหนังศีรษะจะขยายตัวเร็วเกินไป ทำให้สมองอาจเข้าสู่ภาวะขาดเลือดชั่วคราวได้ง่าย ซึ่งนำไปสู่อาการตาพร่ามัว หน้ามืด หรืออาจถึงขั้นเป็นลมหมดสติ

แพทย์บางท่านเล่าถึงกรณีคนไข้รายหนึ่ง อายุ 56 ปี เป็นโรคความดันโลหิตสูง เพียงเพราะอาบน้ำแบบ "สระก่อนอาบ" ก็เกิดอาการวูบและล้มลงในห้องน้ำ โชคดีที่สามารถนำส่งห้องฉุกเฉินได้ทันเวลา

สำหรับผู้ที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือด, ความดันโลหิตสูง, โรคหลอดเลือดหัวใจ หรืออื่น ๆ การที่ศีรษะถูกกระตุ้นอย่างรุนแรงด้วยน้ำร้อนและน้ำเย็นอย่างกะทันหัน อาจทำให้ความดันโลหิตเกิดการผันผวนอย่างรุนแรง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ "หลอดเลือดหัวใจหรือหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลัน"

ลำดับการอาบน้ำที่ถูกต้องตามคำแนะนำ

  • 1. ค่อย ๆ ราดน้ำที่แขนขาและปลายมือก่อน: ช่วยให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิ ไม่เกิดภาวะช็อกอุณหภูมิ (Thermal Shock)

  • 2. หลังจากนั้นจึงค่อยราดน้ำที่ลำตัว: โดยเฉพาะบริเวณหน้าอก ซึ่งเป็นที่ตั้งของหัวใจและปอด ควรหลีกเลี่ยงการราดน้ำร้อนใส่หน้าอกโดยตรงตั้งแต่แรก

  • 3. สระผมเป็นลำดับสุดท้าย: เมื่อร่างกายปรับตัวได้ดีแล้ว และหลอดเลือดคุ้นเคยกับอุณหภูมิของน้ำ การสระผมในขั้นตอนนี้จะปลอดภัยยิ่งขึ้น

ข้อควรระวังเพิ่มเติมเล็กน้อย

  • ผู้สูงอายุ: ควรอาบน้ำเพียง 10-15 นาที ใช้น้ำอุ่นอุณหภูมิ 37-40 องศาเซลเซียส

  • เด็กเล็ก: ควรอาบน้ำด้วยอุณหภูมิ 35-38 องศาเซลเซียส และควรมีผู้ใหญ่อยู่ด้วยเสมอ

  • ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด: ไม่ควรอาบน้ำในขณะที่ท้องว่างเกินไปหรืออิ่มเกินไป ก่อนอาบน้ำอาจจิบน้ำอุ่นเล็กน้อย

  • นอกจากนี้: อย่าอาบน้ำที่ร้อนจัดจนเกินไป และอย่าขัดถูผิวหนังแรงเกินไป เพราะจะทำให้สูญเสียชั้นปกป้องผิว หลังอาบน้ำเสร็จแล้ว ควรทาโลชั่นบำรุงผิวเพื่อรักษาความชุ่มชื้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล