พฤติกรรมที่บอกว่าแมวไม่ชอบคุณ อ่านใจเจ้าเหมียว ภาษาที่ทาสต้องรู้ก่อนโดนงับ

10 สัญญาณที่บอกว่า "แมวไม่ชอบคุณ" ถอดรหัสอาการแมวไม่รักเจ้าของให้ทาสแมวเข้าใจเจ้านาย

สำหรับเหล่าทาสแมวแล้ว การได้เป็นที่รักของเจ้าเหมียวถือเป็นความสุขอย่างที่สุด แต่บางครั้งความรักที่เรามอบให้อาจไม่ได้รับการตอบสนองอย่างที่หวัง แมวเป็นสัตว์ที่มีภาษากายซับซ้อนและชัดเจนในความรู้สึก

การเรียนรู้ที่จะสังเกตและเข้าใจพฤติกรรมของแมวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณทราบได้ว่า ณ ขณะนั้น น้องแมวกำลังรู้สึกสบายใจ หรือกำลังส่งสัญญาณ "เว้นระยะห่าง" กับคุณอยู่ บทความนี้จะพาคุณไปถอดรหัสอาการแมวไม่รักเจ้าของที่บ่งบอกว่าแมวไม่ไว้ใจคุณหรือรู้สึกไม่สะดวกใจเมื่ออยู่ใกล้

พฤติกรรมที่บอกว่าแมวไม่ชอบคุณ อาการแมวไม่รักเจ้าของที่บ่งชี้ให้ทาสรับมือ

ร่างกายของแมวสามารถบอกเล่าอารมณ์ได้มากมาย หากคุณเห็นสัญญาณเหล่านี้ ขอให้เข้าใจว่านี่คือการสื่อสารว่าพวกเขากำลังรู้สึกไม่ดีและต้องการพื้นที่ส่วนตัว

ภาษากาย สัญญาณเตือนที่ชัดเจนที่สุด

ภาษากายถือเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนที่สุดที่แมวใช้สื่อสารความรู้สึกที่ไม่สบายใจหรือความไม่ไว้วางใจกับมนุษย์ หากพวกเขามีอาการเหล่านี้เมื่อคุณเข้าใกล้ ควรสังเกตและถอยห่างอย่างนุ่มนวล

• หูที่ลู่ไปด้านหลังหรือแบนราบ: นี่คือสัญญาณคลาสสิกของความกลัว ความกังวล หรือความโกรธ หากแมวลู่หูเมื่อคุณเข้าใกล้ นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังรู้สึกถูกคุกคาม
• การสะบัดหางหรือฟาดหาง: แตกต่างจากสุนัข การที่แมวสะบัดหางไปมาอย่างรุนแรงบ่งบอกถึงความรำคาญและความหงุดหงิด ยิ่งสะบัดแรงเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงว่าอารมณ์เสียมากเท่านั้น หากหางทิ้งต่ำลงหรือซุกอยู่ระหว่างขา นั่นคือสัญญาณของความกลัวหรือไม่มั่นคง
• ขนพองและหลังโก่ง: เป็นพฤติกรรมที่แมวพยายามทำให้ตัวเองดูตัวใหญ่ขึ้นเพื่อข่มขู่สิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นภัยคุกคาม ซึ่งก็คือคุณในขณะนั้น
• การจ้องมองไม่กะพริบตา: แม้การสบตาแล้วกะพริบตาช้าๆ (Cat Kiss) จะเป็นสัญญาณของความรัก แต่การจ้องเขม็งโดยไม่กะพริบตาและรูม่านตาขยายกว้าง คือสัญญาณของการเตรียมพร้อมจู่โจมและไม่ไว้วางใจ
• ลำตัวแข็งทื่อและหมอบต่ำ: เมื่อแมวรู้สึกไม่ปลอดภัย พวกเขาจะเกร็งตัวและพยายามทำให้ตัวเองดูเล็กลงโดยการหมอบต่ำกับพื้น เป็นท่าทีของการเตรียมพร้อมที่จะหนีหรือสู้

พฤติกรรมการหลีกเลี่ยง เมื่อแมวไม่อยากอยู่ใกล้

นอกเหนือจากภาษากายแล้ว พฤติกรรมการตีตัวออกห่างก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าแมวยังไม่เปิดใจให้คุณ การให้พื้นที่ส่วนตัวแก่พวกเขาจึงเป็นสิ่งที่ทาสแมวควรทำในสถานการณ์นี้

• เดินหนีหรือซ่อนตัว: หากทุกครั้งที่คุณเดินเข้าห้องมา แล้วแมวรีบเดินหนีไปหรือวิ่งไปซ่อนใต้โซฟา ใต้เตียง นั่นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าพวกเขายังไม่รู้สึกปลอดภัยเมื่อมีคุณอยู่
• ไม่สนใจและไม่ตอบสนอง: เมื่อคุณเรียกชื่อหรือพยายามเล่นด้วย แต่แมวกลับเมินเฉย ไม่หันมามอง หรือทำเป็นไม่ได้ยิน นี่อาจเป็นการแสดงออกว่าพวกเขาไม่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับคุณ
• อ้อนทุกคนยกเว้นคุณ: หากแมวของคุณมีท่าทีเป็นมิตรกับสมาชิกคนอื่นในบ้านหรือแม้กระทั่งกับแขก แต่กลับแสดงท่าทีห่างเหินกับคุณเพียงคนเดียว นั่นเป็นไปได้ว่ามีบางอย่างในตัวคุณที่ทำให้แมวรู้สึกไม่ชอบใจ
• ไม่ยอมให้อุ้มหรือสัมผัส: แมวที่ไม่ชอบคุณจะต่อต้านการสัมผัสทุกรูปแบบ พวกเขาอาจจะดิ้นรนเมื่อคุณพยายามอุ้ม สะบัดตัวหนีเมื่อคุณลูบ หรือแม้กระทั่งหันหัวหนีเมื่อคุณยื่นมือเข้าไปหา

เสียงเตือน ขู่ร้องสื่อแทนคำพูด

โดยปกติแล้ว แมวจะเก็บเสียงไว้ใช้กับมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ และบางครั้งเสียงที่เปล่งออกมาก็ไม่ใช่การออดอ้อนเสมอไป เสียงเหล่านี้คือสัญญาณเตือนว่าพวกเขาพร้อมที่จะป้องกันตัวเองหากคุณยังไม่ถอยห่าง

• เสียงขู่ (Hissing): เสียงขู่ฟ่อๆ เหมือนงู เป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่าแมวกำลังรู้สึกถูกคุกคามอย่างรุนแรงและพร้อมที่จะโจมตีหากคุณยังไม่ถอยห่าง
• เสียงคำรามในลำคอ (Growling): เป็นเสียงที่แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งและเป็นคำเตือนก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นการโจมตีที่รุนแรงขึ้น เช่น การตบหรือการกัด
• เสียงร้องโหยหวน (Yowling): แม้บางครั้งจะเป็นเสียงเรียกร้องความสนใจ แต่หากเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่คุณพยายามเข้าใกล้ นั่นอาจหมายถึงความทุกข์ทรมานหรือความเครียดอย่างรุนแรง

วิธีสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเมื่อแมวไม่ชอบคุณ

สาเหตุที่แมวแสดงพฤติกรรมเหล่านี้อาจมาจากหลายปัจจัย เช่น คุณอาจมีเสียงดังหรือเคลื่อนไหวเร็วเกินไป, เคยบังคับอุ้มหรือกอดในเวลาที่เขาไม่ต้องการ, หรือแม้กระทั่งกลิ่นน้ำหอมที่คุณใช้ก็อาจเป็นสาเหตุได้เช่นกัน หากคุณกำลังเผชิญกับสถานการณ์นี้ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับแมวต้องใช้เวลาและความอดทน

ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อสร้างความไว้วางใจและทำให้เจ้าเหมียวเปิดใจ: ให้พื้นที่ส่วนตัว อย่าบังคับหรือจู่โจมแมว ปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายเริ่มเข้ามาทำความรู้จักคุณก่อน พร้อมทั้งเคลื่อนไหวช้าๆ และใช้เสียงที่นุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจทำให้แมวตกใจ

หลีกเลี่ยงการสบตาโดยตรง และลองใช้วิธีกะพริบตาช้าๆ เพื่อส่งสัญญาณว่าคุณเป็นมิตร การใช้ของเล่นและขนมเป็นสื่อกลาง เช่น การเล่นด้วยไม้ตกแมว หรือการให้ขนมเมื่อแมวแสดงท่าทีผ่อนคลาย จะช่วยสร้างความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับคุณ สุดท้ายคือการสังเกตและเรียนรู้ ทำความเข้าใจว่าแมวชอบให้ลูบตรงไหน และหยุดเมื่อเขาส่งสัญญาณว่าพอแล้ว

การเข้าใจและเคารพในธรรมชาติของแมวคือกุญแจสำคัญในการสร้างความไว้วางใจ แม้ว่าวันนี้เจ้าเหมียวอาจจะยังไม่เปิดใจ แต่ด้วยความรัก ความอดทน และความเข้าใจที่ถูกต้อง ในไม่ช้าคุณอาจกลายเป็นทาสคนโปรดของเจ้านายสี่ขาได้อย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม:

• ทาสแมวต้องรู้! แมวกัด แปลว่าอะไร? เพราะรักหรือเกลียดกันแน่
• เปิดเหตุผล ทำไม "แมว" เมิน เรียกแล้วไม่หัน คุณพร้อมรับความจริงอันแสนเจ็บปวดมั้ย?
• “เหมียวๆ” มีความหมาย! เข้าใจเสียงแมวร้อง ภาษาที่อยากสื่อสารให้ทาสรู้