12 ประโยชน์ของ "กล้วยห่าม" กินดีจริงไหม? พร้อมเคล็ดลับกินอย่างไรให้ได้ผลดี

กล้วยห่าม คือ กล้วยที่มีลักษณะก้ำกึ่งระหว่างดิบกับสุก โดยเปลือกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองบ้างแต่ยังมีเขียวเจืออยู่ เนื้อยังแน่นและไม่หวานจัด ซึ่งในช่วงนี้กล้วยจะมีคุณค่าทางโภชนาการเฉพาะตัวที่แตกต่างจากกล้วยสุกหรือกล้วยดิบ แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า... กล้วยห่ามมีดีอะไรบ้าง? กินได้จริงไหม? และควรระวังเรื่องอะไร? บทความนี้มีคำตอบครบ!
12 ประโยชน์ของ "กล้วยห่าม"
1.ช่วยแก้ท้องเสีย
กล้วยห่ามมีแป้งต้านการย่อย (Resistant Starch) สูง ซึ่งช่วยดูดซับน้ำในลำไส้ และช่วยลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ เหมาะสำหรับกินเวลาท้องเสีย
2.ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
แป้งในกล้วยห่ามย่อยช้า ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงเร็ว ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นเบาหวานระยะเริ่มต้น
3.ดีต่อระบบขับถ่าย
แม้ยังไม่สุกเต็มที่ แต่กล้วยห่ามยังคงมีใยอาหารพอสมควร ช่วยกระตุ้นลำไส้ และส่งเสริมการขับถ่ายอย่างเป็นธรรมชาติ
4.ป้องกันโรคกระเพาะ
แป้งต้านการย่อยในกล้วยห่ามช่วยเคลือบกระเพาะ ลดกรด ช่วยลดอาการแสบกระเพาะอาหาร
5.ลดความอยากอาหาร
แป้งที่ย่อยช้าในกล้วยห่ามช่วยให้อิ่มนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก หรืออยู่ในช่วงลดความอ้วน
6.ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน
มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และป้องกันการติดเชื้อในร่างกาย
7.รักษาแผลในลำไส้
มีสารต้านการอักเสบ และเสริมสร้างชั้นเมือกในลำไส้ ช่วยให้แผลหรืออาการลำไส้อักเสบหายเร็วขึ้น
8.ช่วยลดคอเลสเตอรอล
ไฟเบอร์ในกล้วยห่ามช่วยลดการดูดซึมไขมันเลว (LDL) ในลำไส้ จึงช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้
9.มีสารต้านอนุมูลอิสระ
แม้ยังไม่สุกจัด กล้วยห่ามก็มีสารโพลีฟีนอลและแทนนิน ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเสื่อมของเซลล์
10.เหมาะกับผู้เป็นเบาหวาน
กล้วยห่ามมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำกว่ากล้วยสุกมาก จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
11.บำรุงหัวใจ
มีโพแทสเซียมสูง ซึ่งมีส่วนช่วยควบคุมความดันโลหิต ป้องกันโรคหัวใจ และช่วยให้หัวใจเต้นสม่ำเสมอ
12.ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้
กล้วยห่ามมีใยอาหารชนิดที่เป็นพรีไบโอติกส์ ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้
กล้วยห่ามกินอย่างไรให้ได้ผลดี?
- กินสดวันละ 1–2 ลูก เคี้ยวให้ละเอียด
- ถ้าแข็งไป อาจฝานบาง ๆ หรือจิ้มน้ำผึ้งเล็กน้อย
- ผสมในสมูทตี้กับโยเกิร์ต หรือบดใส่ข้าวโอ๊ตก็อร่อย
- หลีกเลี่ยงการกินพร้อมนมวัว ถ้าท้องอืดง่าย
*** กล้วยห่ามมักใช้ “กล้วยน้ำว้า” เพราะมีรสชาติพอดี ไม่ฝาดจนเกินไป และเคี้ยวง่ายกว่า
ข้อควรระวัง
แม้กล้วยห่ามจะมีประโยชน์มาก แต่ไม่ควรกินในปริมาณมากเกินไปในครั้งเดียว เพราะอาจทำให้แน่นท้อง หรือท้องผูกได้ ควรกินพอเหมาะ และเคี้ยวให้ละเอียด
อ่านเพิ่มเติม