4 แนวทางสำคัญ เมื่อคนสร้างบ้านหันมาเป็นสายกรีน

4 แนวทางสำคัญ เมื่อคนสร้างบ้านหันมาเป็นสายกรีน

4 แนวทางสำคัญ เมื่อคนสร้างบ้านหันมาเป็นสายกรีน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัจจุบันทุกภาคธุรกิจหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น นั่นเป็นเพราะส่วนหนึ่งเล็งเห็นถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนในด้านชีวิตความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อม ในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นั้นก็เป็นอีกภาคส่วนธุรกิจที่ไม่ได้ละเลยในจุดนี้ และเริ่มเซตมาตรฐานในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ให้มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถทำอะไรและก่อให้เกิดผลประโยชน์อย่างไรต่อลูกบ้านและโลกใบนี้ได้บ้างนั้นมาดูกัน

1.Waste Management การจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ ลดปริมาณขยะคอนกรีตจากการก่อสร้างทั้งในรูปแบบก่ออิฐฉาบปูนและพรีคาสต์สู่นวัตกรรม “Earth Blox” นำเศษคอนกรีตมวลเบาเหลือใช้จากการก่อสร้างกลับมาเป็นส่วนผสมในการแปรรูป เพื่อสร้างบล็อกคอนกรีตใหม่ นำกลับมาใช้ทำแผ่นทางเท้า ช่องลมระบายอากาศ และของตกแต่งภายในแลนด์สเคป

เมื่อมีการเพิ่มระบบพรีคาสต์ในการก่อสร้างคอนโดมิเนียมให้มากขึ้น จะช่วยลดขยะคอนกรีตที่เกิดจากการก่อสร้างด้วยวิธีก่ออิฐฉาบปูน ซึ่งช่วยโลกลดก๊าซเรือนกระจกได้มากขึ้น เช่นถ้าใช้การก่อสร้างด้วยระบบพรีคาสต์เพิ่มจาก 50 % เป็น 80 % จากนี้ไปอีกประมาณ 3 ปี จะลดขยะคอนกรีตจากการก่ออิฐฉาบปูนได้ถึง 1,600 ตันต่อปี ลดกรีนเฮาส์ก๊าซได้มากกว่า 48 ตันต่อปี หรือเทียบเท่าพื้นที่สีเขียวของป่าไม้ 36 ไร่

นอกจากนี้ขยะจากการบริโภคของลูกบ้านยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และการนำเครื่องกำจัดขยะมาติดตั้งในโครงการ จะสามารถแปรรูปขยะมูลฝอยได้ หรือแม้กระทั่งการติดตั้งเครื่องรับคืนขวดพลาสติกและกระป๋อง และนวัตกรรมเครื่องเปลี่ยนขยะมูลฝอยเป็นก๊าซหุงต้ม รวมไปถึงการนำเสนอความรู้เกี่ยวกับการแยกขยะให้กับผู้อยู่อาศัยก็เป็นอีกแนวทางในการจัดการขยะจากการบริโภคของลูกบ้าน

2.Energy Saving & Generation เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าทดแทน เช่นการติดตั้ง Solar Roof ที่จะช่วยผลิตพลังงานไฟฟ้าสะอาด หรือการใช้นวัตกรรมช่วยถ่ายเทอากาศและลดอุณหภูมิในที่อยู่อาศัย อย่างนวัตกรรม Cooliving Designed Home ที่ประกอบด้วย Solar Attic การใช้พัดลมที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยลดความร้อนใต้หลังคาบ้าน ทำให้อากาศภายในตัวบ้านเย็นลง และ Shading Screen ระแนงกันแดดที่ออกแบบโดยคำนึงถึงทิศทางของบ้าน

3.Smart Move การเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตของลูกบ้านที่สมบูรณ์แบบ แนวคิด Complete your living experience โดยการร่วมมือกับเหล่าพันธมิตรต่างๆ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านอย่างบริการยานพาหนะระบบเช่า ติดตั้ง Electronic car sharing และ EV Charger

4.Sustainability การบริหารเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน เป็นการจับมือกับองค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ อย่างเช่นจับมือกับกลุ่มอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ในเมืองหรือ Big Tree เพื่อจัดการต้นไม้ใหญ่ในโครงการ และนำหลักสูตรรุกขกรรมอบรมนิติบุคคลและเจ้าหน้าที่ดูแลโครงการ ให้ดูแลตัดแต่งต้นไม้ให้สวยงามและยั่งยืน ทั้งนี้เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของลูกบ้านและสภาพแวดล้อมให้ร่มรื่น รวมทั้งยังให้ความสำคัญด้านการออกแบบที่ยั่งยืน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook