9 นิสัยรักสะอาดที่ทำให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

9 นิสัยรักสะอาดที่ทำให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

9 นิสัยรักสะอาดที่ทำให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อพูดถึงเรื่องทำความสะอาดแล้ว หลาย ๆ คนคิดว่า ยิ่งทำบ่อย ทำมาก ก็ยิ่งดี แต่ทั้งนี้ อะไรที่มากจนเกินไป ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป เพราะบางครั้งนอกจากจะไม่ได้ช่วยให้อะไรต่ออะไรสะอาดขึ้นแถมยังทำให้สิ้นเปลืองเข้าไปอีก และ 9 นิสัยรักสะอาดที่มากจนเกินไปเหล่านี้  ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มี ก็ต้องปรับพฤติกรรมกันเสียหน่อย

1.คุณต้องเช็ดกระจกทุกครั้งที่เห็นรอยนิ้วมือ แน่นอนเราไม่ได้บอกคุณว่า ไม่ต้องเช็ดกระจก เพียงแต่บอกว่า เช็ดไม่ต้องบ่อยจนเกินไปนักก็ได้ เพราะหากคุณต้องหยิบน้ำยาเช็ดกระจกมาฉีดและทำความสะอาดทุกครั้งที่เห็นรอยนิ้วมือแล้วละก็ มันไม่เป็นผลดีทั้งในเรื่องของความสิ้นเปลืองน้ำยาเท่านั้น แต่ความชื้นจากตัวสเปรย์ที่คุณฉีดลงไปบนกระจก สามารถก่อให้เกิดความเสียหายที่หลังกระจกได้ด้วย

2.ในเวลาที่คุณซักผ้า คุณใส่ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้ามากเกินไป แน่นอนว่า ถึงคุณจะใส่น้ำยาซักผ้ามากเท่าไหร่ ผ้าของคุณก็ไม่ได้ขาวขึ้น อีกทั้งยังทำให้ล้างน้ำยาเหล่านั้นออกยาก และล้างออกไม่หมดอีกด้วย บางคนเห็นว่าผ้าเลอะ เลยใส่น้ำยามากกว่าปกติซึ่งนั่นไม่ได้ช่วยอะไร ใส่ในปริมาณที่ผู้ผลิตให้คำแนะนำข้างกล่องจะดีที่สุด

3.คุณเช็ดทำความสะอาดเคาน์เตอร์บ่อยเหลือเกิน ส่วนมากแล้ว เรามักจะได้รับคำแนะนำให้ทำความสะอาดตามบริเวณเคาน์เตอร์สักวันละครั้ง แต่ถ้าคุณไม่มีเวลามากพอ ก็ไม่ต้องทำทุกวันก็ได้ แต่เมื่อมีเวลาทำ ก็ทำให้สะอาดทั่วถึง ก็เพียงพอ

4.คุณใช้น้ำยาล้างจานมากขึ้น เมื่อเห็นว่าจานชามสกปรก หากคุณใช้เครื่องล้างจาน แล้วเครื่องก็ล้างคราบสปาเก็ตตี้ ที่ติดอยู่ในจานของคุณได้ไม่หมด ทางแก้ ไม่ใช่การเพิ่มน้ำยาล้างจาน แต่ต้องลดปริมาณจานชามที่ใส่เข้าไปในเครื่อง เพราะการเพิ่มน้ำยาล้างจานนั้น อาจจะทำให้เครื่องไม่สามารถขจัดคราบน้ำยาออกได้จนหมด

5.คุณใช้น้ำในปริมาณมากถูพื้นบ้านที่เป็นไม้  บางคนคิดว่า การใช้น้ำมาก ๆ มาถูพื้นนั้นจะทำให้สามารถทำความสะอาดได้ดีขึ้น แต่จริง ๆ แล้วไม่เป็นเช่นนั้น แถมการที่เราใช้น้ำมากจนเปียกแฉะ ยังอาจทำให้วัสดุเสียหาย หรือทำให้เนื้อไม้เสียหาย ดังนั้น การถูพื้นไม้นั้น น้อยดีกว่ามากจนเกินไป

6.คุณทนเห็นเส้นผมบนพื้นไม่ได้เลย ต้องหยิบเครื่องดูดฝุ่นออกมาดูดทันที : จริง ๆ แล้ว ถ้าคุณเห็นเส้นผมหล่นที่พื้น แค่เล็ก ๆ น้อย ๆ คุณก็แค่หยิบมันไปทิ้ง ไม่เห็นต้องคว้าเครื่องดูดฝุ่นออกมาในทุกครั้ง ยิ่งหากบ้านไหนเลี้ยงสัตว์ ก็ยิ่งต้องฝึกนิสัย หยิบไปทิ้งเมื่อเห็น คุณจะประหยัดพลังงานไฟฟ้าไปเยอะทีเดียว ส่วนเครื่องดูดฝุ่นนั้น นำออกมาใช้สัปดาห์ละครั้งก็พอ

7.เสื้อผ้าบางชิ้นไม่ต้องซักทุกครั้งที่ใส่ก็ได้ เพราะการซักบ่อย ตากบ่อย อบแห้งบ่อย ทำให้เสื้อผ้าสีซีด เนื้อผ้าเปื่อยเร็วขึ้น แต่หากเป็นพวกชุดออกกำลังกาย เสื้อเชิ้ต กางเกงที่แนบอยู่กับตัว หรือเปื้อนเหงื่อนั้น ซักทุกครั้งที่สวมใส่ก็ถูกต้องแล้ว

8.คุณฉีดน้ำยาเคลือบกับฝุ่นลงไปที่เนื้อไม้โดยตรง นี่เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้ฟิล์มจากน้ำยาเคลือบนั้นไปเคลือบฝุ่น ทำให้เช็ดออกได้ยากขึ้น และดักฝุ่นไว้มากขึ้น วิธีที่ถูกคือ ฉีดน้ำยาลงบนผ้า แล้วค่อยนะไปเช็ดที่พื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ เช็ดเบา ๆ และอาจจะใช้ผ้าสะอาดเช็ดตามอีกครั้งก็ได้

9.สำหรับงานเช็ดทำความสะอาดบางอย่าง คุณใช้กระดาษเนื้อหยาบก็ได้ แต่คุณเลือกกระดาษเนื้อนุ่มมาใช้แทน : บางคนกลัวว่ากระดาษเนื้อหยาบจะไปทำให้พื้นผิววัสดุเป็นรอบขีดข่วน เลยเลือกใช้กระดาษเนื้อนุ่ม แต่กระดาษที่มีเนื้อนุ่มนั้น จะทำให้เปลืองน้ำยา เพราะมันจะดูดซับน้ำยาที่ใช้ทำความสะอาดไว้มาก ซึ่งก็ทำให้สิ้นเปลือง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook