7 สีประจำเดือนที่ผู้หญิงต้องหมั่นสังเกต สัญญาณบอกโรคที่ไม่ควรมองข้าม

7 สีประจำเดือนที่ผู้หญิงต้องหมั่นสังเกต สัญญาณบอกโรคที่ไม่ควรมองข้าม

7 สีประจำเดือนที่ผู้หญิงต้องหมั่นสังเกต สัญญาณบอกโรคที่ไม่ควรมองข้าม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในช่วงมีประจำเดือน ถือเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงจะต้องใส่ใจสุขภาพร่างกายอย่างมาก รวมทั้งต้องให้ความสำคัญกับการสังเกตสีของประจำเดือนด้วย เพราะสีของประจำเดือนสามารถบอกถึงการเป็นโรคต่างๆ ได้ อีกทั้งยังถือเป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจึงชวนสาวๆ มาสังเกตสีของประจำเดือนทั้ง 7 สีกันค่ะ มาดูกันว่าแต่ละสีจะส่งสัญญาณเตือนบอกโรคอะไรกันบ้าง


1.สีแดงสด
ประจำเดือนสีแดงสด คือสีประจำเดือนปกติ โดยสีแดงสดอาจมีความเข้มอ่อนต่างกันเพียงเล็กน้อย ซึ่งในช่วงที่มาวันแรกๆ จะมามากและสีแดงจะสดอยู่ แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของรอบเดือน ประจำเดือนจะมีสีเข้ม เนื่องจากเลือดที่ไหลจะลดลง รวมทั้งมีเลือดค้างในเยื่อบุโพรงมดลูก นอกจากนี้การที่เลือดสัมผัสกับอากาศ ก็มีส่วนทำให้สีของเลือดเปลี่ยนได้ ดังนั้นหากไม่มีความผิดปกติอื่นๆ ประจำเดือนสีแดงสดก็ไม่ใช่สัญญาณอันตรายแต่อย่างใด


2.สีแดงสดมามากกว่าปกติ
ประจำเดือนสีแดงสด แต่มามากกว่าปกติเมื่อเทียบกับปริมาณประจำเดือนที่มาเป็นประจำ รวมทั้งประจำเดือนมาหลายวันหรือนานกว่าปกติ อีกทั้งยังอาจเป็นเช่นนี้หลายเดือนติดต่อกัน ก็จะต้องระวังในเรื่องของเนื้องอกในมดลูก ยิ่งถ้ามาพร้อมกับอาการปวดท้องประจำเดือนมากๆ ก็เป็นไปได้ว่าอาจเกิดภาวะพังผืดในมดลูกด้วย


3.สีแดงซีด
ประจำเดือนสีแดงซีดและมีปริมาณน้อย อาจเกิดจากการใช้ยาคุมกำเนิด หรืออยู่ในช่วงวัยใกล้หมดประจำเดือน หรือไม่ก็อาจจะเป็นเลือดที่ออกในช่วงกลางรอบเดือนซึ่งเกิดจากการมีไข่ตก รวมทั้งร่างกายที่ขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อระบบไหลเวียนเลือดและมีภาวะเลือดจางก็จะมีประจำเดือนเป็นสีแดงซีดเช่นกัน


4.สีแดงอมน้ำตาล
ประจำเดือนสีแดงอมน้ำตาล รวมทั้งประจำเดือนมาไม่ตรงรอบเดือนปกติ รวมทั้งมาปริมาณไม่มาก และมีอาการตกขาวร่วมด้วย เป็นไปได้ว่าอาจเกิดการติดเชื้อที่ปากมดลูกหรือที่มดลูก นอกจากนี้ยังเป็นอาการเริ่มแรกของการตั้งครรภ์อีกด้วย ในส่วนของคุณแม่หลังคลอดก็จะพบประจำเดือนสีแดงอมน้ำตาล ซึ่งเรียกว่าน้ำคาวปลา โดยน้ำคาวปลาจะหมดภายใน 4-6 อาทิตย์หลังคลอด


5.สีแดงอมส้ม
ประจำเดือนสีแดงอมส้มอาจเป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อภายในช่องคลอด ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่เลือดประจำเดือนผสมกับตกขาวในปริมาณมากที่ช่องคลอด ที่สำคัญสัญญาณเตือนนี้ยังมีอาการคันและมีกลิ่นที่รุนแรงกว่าปกติร่วมอยู่ด้วย


6.สีชมพู
ประจำเดือนสีชมพูอาจเกิดจากการใช้ยาคุมกำเนิด โดยจะเป็นยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำมากๆ หรือหากมีเลือดสีชมพูออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ อาจเป็นไปได้ว่ามีบาดแผลฉีกขาดเล็กน้อยที่ปากมดลูกหรือที่ช่องคลอด


7.สีเทา
ประจำเดือนที่มีสีเทา หรือสีเทาปนสีเขียวหม่น มักจะพบในช่วงที่ร่างกายเกิดภาวะช่องคลอดอักเสบติดเชื้อจากแบคทีเรีย แต่หากมีตกขาวในปริมาณมาก มีอาการปวดที่ท้องน้อย และมีไข้ร่วมด้วยนั้น เป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน

ทุกครั้งที่มีประจำเดือน แนะนำให้สาวๆ หมั่นสังเกตสีของประจำเดือนบ่อยๆ อย่ามองว่าไม่มีอาการปวดใดๆ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาต่อสุขภาพ เพราะหลายต่อหลายคนที่ประจำเดือนมาปกติ และไม่มีอาการปวดท้องแต่อย่างใด สุดท้ายก็มีโรคอื่นๆ ซ่อนอยู่ ยังไงก็หมั่นสังเกตความผิดปกติของสีประจำเดือนบ่อยๆ อย่างน้อยหากมีความผิดปกติเกิดขึ้น ก็สามารถรับการรักษาได้ทัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook