เมนูอาหารลูกน้อย "ฟิชฟิงเกอร์กับซอสทาทาร์" ปลาชุบขนมปังทอดทำง่าย ได้คุณค่าเต็มๆ

เมนูอาหารลูกน้อย "ฟิชฟิงเกอร์กับซอสทาทาร์" ปลาชุบขนมปังทอดทำง่าย ได้คุณค่าเต็มๆ

เมนูอาหารลูกน้อย "ฟิชฟิงเกอร์กับซอสทาทาร์" ปลาชุบขนมปังทอดทำง่าย ได้คุณค่าเต็มๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

EP 82 ฟิชฟิงเกอร์กับซอสทาทาร์ ปลาชุบขนมปังป่นทอดทำง่ายด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน

เวลาไปทานแมคโดนัล ใครชอบ ฟิเลโอฟิช บ้างยกมือขึ้น เบอร์เกอร์ปลาที่กรอบนอกนุ่มในจากการนำปลาไปชุบขนมปังป่นทอดโปะชีสแล้วเพิ่มซอสทาทาร์ ที่คาดว่าทำมาจากมายองเนส หอมสับและแตงกวาดองสับมีรสชาติครีมมี่ที่เปรี้ยวปลายหน่อย มันช่างเป็นอะไรที่เข้ากันกับเนื้อปลาเป็นอย่างดี ทำให้ คุณแม่ปอม รัตมา พงศ์พนรัตน์ พรชำนิ ได้ตกหลุมรักการจับดูโอรสชาตินี้ตั้งแต่อยู่ประถมสี่ ชอบมากจนกระทั้งเวลาทานกับเฟรนส์ฟรายก็มักจะนำมันมาแตะๆ ซอสที่ทะลักออกมาจากเบอร์เกอร์ปลามากกว่าซอสมะเขือเทศเสียอีก  ที่เกริ่นนำซะยาว เพื่อที่จะบอกว่า เจ้าตัวปลาทอดนี้จริงๆแล้วคาดว่าได้แรงบันดาลใจมาจากเมนู  Fish Fingers เป็นแน่ แปลตรงตัวว่า “นิ้วปลาทอด” ที่ฟังแล้วไม่น่ารับประทานเลยใช้ทับศัพท์กันเสียมากกว่า มักจะทำมาจากปลาเนื้อขาวหั่นเป็นเส้นหนาๆหน่อย อารมณ์ประมาณขนาดของปลาดิบซาชิมิ เอาปลาไปชุบแบบคัตเลต (แป้ง+ไข่+ขนมปังป่น) แล้วจึงนำไปทอดนั้นเอง แรกเริ่มเดิมทีเทคนิคการทำคัตเลตหรือสูตรซอสทาร์ทาร์นั้น ล้วนแต่เป็นอาหารของประเทศฝรั่งเศสทั้งสิ้นเมื่อได้รับความนิยมก็ได้แพร่หลายเข้าไปในครัวต่างๆ ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นเยอรมันที่เมนูนี้ถูก เรียกว่า ชนิสเซล (Schnitzel) เนื้อลูกวัวติดกระดูกทุบให้แบนเหมือนจานบินแล้วเข้ากระบวนการคัตเลท (Cotoletta Alla Milanese) ของชาวอิตาลี และที่เราคุ้นเคยกันอย่างดีจากประเทศญี่ปุ่นอย่างเจ้าหมูทงคัตสึ เป็นต้น

อันที่จริงเจ้าฟิชฟิงเกอร์นี้เป็นที่นิยมในหมู่เด็กๆ กันอย่างแพร่หลายจนได้นำมาทำเป็นอาหารแช่แข็งยอดนิยมในสังคมอเมริกันตั้งแต่ยุคบูมของอาหารหน้าทีวีหรือจะเรียกว่ายุคทองของอาหารแช่แข็งเป็นต้นมา วันนี้เลยขอให้พักอาหารแช่แข็งทุกรูปแบบแล้วลองมาทำ ฟิชฟิงเกอร์กับซอสทาร์ทาร์ เองที่บ้าน จะตกใจว่ามันทำง่ายกว่าที่คิดแถมได้คุณค่าแบบเต็มๆ  คุณแม่ปอมจะนำเสนอทั้งทอด แบบน้ำมันท่วม และแบบหม้อไร้น้ำมัน ให้ดูกันชัดๆ บ้านไหนสะดวกแบบไหนก็จัดแบบนั้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเหมือนกันโดยรวม ทั้งหน้าตาและความกรอบเบาๆ แน่นอนค่ะว่าทอดแบบน้ำมันตัวเนื้อปลาจะชุ่มฉ่ำกว่าแบบหม้อไร้น้ำมันเท่านั้นเอง และการทอดแบบน้ำมันท่วมใช้เวลาสั้นกว่าทอดในหม้อไร้น้ำมัน

บ้านไหนไม่ถนัดปลายังสามารถมาปรับใช้กับเนื้อสัตว์อื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปลาหมึก สำหรับสัตว์บกก็ทำได้เช่นกัน แต่อย่าลืมหั่นเนื้อสัตว์ให้เป็นชิ้นพอคำนะคะเพราะหัวใจของการทำฟิงเกอร์ ต้องใช้นิ้วหยิบรับประทานเองได้ไม่ต้องป้อน (คุณแม่สาย BLW (Baby-Led Weaning) จะเข้าใจดีและต้องรักเมนูนี้) ยกตัวอย่างเช่น ไก่ ก็จะกลายเป็นนักเกตไก่ กับเนื้อหมูก็จะกลายเป็นหมูทอดทงคัตสึจิ๋วๆ ที่ทุกบ้านหลงรักได้ทันที

ส่วนเจ้าซอสทารทาร์นั้น ถ้าไม่ชอบรสเผ็ดซ่าของหัวหอมสดแนะนำให้แช่น้ำสักครู่ แล้วนำมาซับให้แห้ง จะลดความซ่าลงไป ซอสนี้ถือว่าเป็นการฝึกทานพืชในวงศ์กระเทียมไปในตัวที่จะได้ประโยชน์สูงสุดในเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันเมื่อทานสด ฝึกการรับรสใหม่ๆจากแตงกวาดอง(ออกเปรี้ยวอมหวาน) และเคเปอร์(ออกเค็มอมเปรี้ยว)ให้คุณหนูๆอีกด้วย แนะนำให้เริ่มลองทานกับเฟรนฟรายส์ดู อาจทำให้ลืมมายองเนสแบบธรรมดาไปเลยคุณแม่พูดจริงไม่ได้ป้ายยานะคะ นอกจากนี้าซอสทาร์ทาร์เราสามารถนำไปทาขนมปังแซนวิชก็ได้ เอาไปคลุกกับเส้นพาสต้า ซอยแฮม ซอยแตงกวาเข้าไปเพิ่มก็จะได้จานสลัดพาสต้าไปอีกจาน ด้วยประโยชน์ทั้งด้านโภชนาการ ทั้งการต่อยอดไปสู่เมนูอื่นๆ ที่มากโขนี้เองเลยอยากนำมาเสนอให้ทำทานกัน ลองไปดูวิธีทำกันค่ะ

เครื่องปรุงซอสทาร์ทาร์

1.       มายองเนสคิวพี ½ ถ้วย
2.       ไข่ต้มสับ1 ใบ
3.       หัวหอมสับ ¼ ถ้วย
4.       แตงกวาดองเปรี้ยว (Cornichon) สับ 1 ช้อนโต๊ะ
5.       เคเปอร์สับ 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่ได้ใช้กับเมนูอื่นบ่อยๆ ไม่ต้องใส่ก็ได้)
6.       ผักชีลาว ตามชอบ (หากเป็นอาหารทะเลต้องผักชีลาว (Dill) แต่ถ้าเป็นสัตว์บกแนะนำให้ใช้พาสลีย์ใบแบนสับ)
7.       เกลือเล็กน้อย


เครื่องปรุงฟิชฟิงเกอร์

1.       ปลาเนื้อขาว (คุณแม่ใช้ปลาตาเดียว)
2.       เกลือ พริกไทย
3.       น้ำมันพืช


สำหรับชุบทอด

1.       แป้งสาลีอเนกประสงค์
2.       ไข่ 1 ใบ
3.       ขนมปังป่นทำเอง (เพียงนำขนมปังแผ่นไปปิ้งสามนาที นำมาบิ แล้วปั่น เราก็จะได้ขนมปังป่นแบบโฮมเมดแล้วคะ)


วิธีทำ

ซอสทาร์ทาร์ นำเครื่องปรุงทั้งหมดมาผสม คนให้เข้ากันเบาๆ เป็นอันเสร็จ

ฟิชฟิงเกอร์

1.       หมักปลากด้วยเกลือและพริกไทยดำเพื่อดับคาวเล็กน้อย ใส่น้ำมันพืชลงไปหน่อยตัวปลาจะได้ไม่แห้งเวลาเรานำไปทอด พักไว้สิบนาที

2.       เตรียมภาชนะสามถ้วยใส่แป้ง ไข่ และขนมปังป่น เลือกขนาดภาชนะให้พอเหมาะในการคลุก หรือ ชุบ นำเนื้อปลามาชุบแป้งก่อน ตามด้วยไข่ และตามด้วยขนมปังป่น พักไว้ ทำอันต่อไปจนหมด

3.       ทอดแบบน้ำมันท่วม ตั้งเตาน้ำมันกะให้เอาพอท่วมชิ้นปลา วัดอุณหภูมิ ให้ได้ 170 องศาเซลเซียส หรือลองเอาตะเกียบไปจุ่มถ้ามีฟองอากาศเล็กๆ ขึ้นรอบปลายตะเกียบก็ถือว่าใช้ได้ นำปลาลงไปทอด พอผิวเริ่มเข้มตักขึ้นมาเสด็จน้ำมัน

4.       ทอดในหม้อไร้น้ำมัน ใช้น้ำมันพืชทาเล็กน้อยที่พื้นหม้อก่อนจะได้ไม่ติด จากนั้นนำปลามาวางเรียงในหม้อไร้น้ำมัน  ทาน้ำมันพืชบนตัวปลาอีกเล็กน้อย ปิดฝา ตั้งที่ 170 หกนาที เปิดออกมากลับด้าน แล้วไปต่ออีกหกนาทีเป็นอันเสร็จ


เวลารับประทานนอกจากจะจิ้มกับทารทาร์ซอสแล้ว มีผักดองหรือผักสลัดเพื่อตัดเลี่ยนได้อีกด้วย  รับลองว่าเป็นอีกจานที่ถูกใจทุกวัยในครอบครัวอย่างแน่นอนค่ะ

สุดท้ายนี้คุณแม่ปอมขอให้ท่านผู้อ่านมีความสุขกับการเลือกทำอาหารที่มีประโยชน์ทั้งร่างกายและจิตใจ จะได้เป็นพื้นฐานที่ดีในการรับประทานอาหารที่ดีของลูกน้อย สามารถติดตามหาเมนูหรือเคล็ดลับอาหารที่มุ่งเน้นการผจญภัยในการลิ้มรสอาหารเพื่อสร้างความชอบที่พอดีที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในอนาคตได้ทีลิ้งค์นี่คะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook