5 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการดื่มน้ำอัดลมในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี

5 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการดื่มน้ำอัดลมในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี

5 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการดื่มน้ำอัดลมในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชื่อว่าพ่อแม่หลายท่านอาจจะเคยเห็นเด็กเล็กๆ ดื่มน้ำอัดลม และอาจจะเกิดคำถามในใจว่าเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงวัยที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี สามารถดื่มน้ำอัดลมได้จริงหรือ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้ เพราะน้ำอัดลมคือน้ำที่ถูกผสมด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสารต่างๆ อีกมากมาย มาดูกันดีกว่าว่าเหตุผลใดที่เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม


1.ส่งผลให้ฟันผุและกระดูกพรุน
เนื่องจากน้ำอัดลมเกิดจากการนำน้ำมาผสมกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นกรดคาร์บอนิก ซึ่งกรดเหล่านี้จะไปทำลายฟลูออไรด์ที่เคลือบฟัน จึงทำให้ฟันของเด็กเกิดความอ่อนแอลง นั่นจึงเสี่ยงต่อการทำให้เกิดฟันผุ อีกทั้งยังก่อให้เกิดอาการเสียวฟันอีกด้วย แต่ทั้งนี้กรดดังกล่าวก็ยังถือว่าไม่ใช่ตัวการสำคัญที่ทำให้ฟันผุ แต่คือน้ำตาลที่อยู่ในน้ำอัดลมต่างหากที่ถือเป็นตัวการสำคัญที่คอยทำลายฟันของเด็กๆ จากการดื่มน้ำอัดลม ทั้งนี้ยังมีผลการวิจัยค้นพบว่า น้ำอัดลมมีความสัมพันธ์กับความหนาแน่นของมวลกระดูกของมนุษย์ เพราะมีฟอสฟอรัส ทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะ นั่นจึงทำให้ร่างกายขาดแคลเซียมที่จะไปเสริมสร้างกระดูก ส่งผลให้เกิดกระดูกพรุนตามมา


2.ทำให้นอนไม่หลับ
อย่าลืมว่าน้ำอัดลมมีส่วนผสมของคาเฟอีนอยู่ ซึ่งบางยี่ห้อก็ไม่ได้ระบุไว้บนฉลาก แต่ก็มั่นใจได้ว่าน้ำอัดลมล้วนมีส่วนผสมของคาเฟอีนอย่างแน่นอน ซึ่งเราต่างทราบกันดีอยู่แล้วว่า คาเฟอีนเป็นสารที่มีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาทส่วนกลาง ทำให้ร่างกายเกิดการตื่นตัว จึงลดความง่วง ซึ่งในเด็กที่อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต จำเป็นที่จะต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จึงไม่ควรให้ดื่มน้ำอัดลมจะดีที่สุด


3.มีก๊าซในกระเพาะอาหารจำนวนมาก
น้ำอัดลมมีส่วนทำให้ก๊าซในช่องท้องมีมากจนเกินไป เนื่องจากเครื่องดื่มชนิดนี้ถูกอัดไปด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมทั้งมีกรดคาร์บอนิกที่สามารถย่อยสลายหินปูนได้ แถมยังมีกรดฟอสฟอริกที่สามารถละลายตะปูได้ภายใน 4 วันอีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเด็กๆ จึงมีอาการปวดท้องหลังดื่มน้ำอัดลม นั่นเพราะกรดเหล่านี้อาจไปกัดกร่อนกระเพาะน้อยๆ ของเด็กๆ นั่นเอง


4.ระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร
เหตุผลที่น้ำอัดลมมีส่วนทำให้ระบบทางเดินอาหารเกิดการระคายเคือง เพราะเป็นเครื่องดื่มที่มีสารกันบูดที่ใช้ในการรักษาอาหารนั่นเอง ซึ่งสารกันบูดที่นิยมใช้ในน้ำอัดลมคือ กรดซิตริกที่สามารถผลิตได้จากน้ำผลไม้หรือจากการหมัก มีคุณสมบัติช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและยีสต์ได้ ซึ่งกรดชนิดนี้ยังมีฤทธิ์ทำให้เกิดการระคายเคืองระบบทางเดินอาหารอีกด้วย


5.เสี่ยงเป็นโรคอ้วนในเด็ก
เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปีที่ดื่มน้ำอัดลม มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนได้ง่าย เนื่องจากในน้ำอัดลมจะมีปริมาณน้ำตาลอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังไม่มีสารอาหารอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย และน้ำตาลที่อยู่ในน้ำอัดลมยังเป็นซูโครสซึ่งจะทำให้การดื่มน้ำอัดลมของเด็กๆ ในแต่ละครั้งอยู่ที่ปริมาณมาก จึงไม่แปลกที่จะทำให้เสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้


รู้อย่างนี้แล้ว หวังว่าพ่อแม่จะมีวิธีการหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกดื่มน้ำอัดลมตั้งแต่ยังเด็กนะคะ หากลูกอยากดื่มน้ำหวาน แนะนำให้เป็นน้ำผลไม้หรือไอศกรีมจะดีกว่า แต่ทั้งนี้ก็ควรให้กินในปริมาณที่พอดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อร่างกายตามมานั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook