วิตามินอีกับคนท้องดีจริงหรือไม่ เรื่องสำคัญที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้

วิตามินอีกับคนท้องดีจริงหรือไม่ เรื่องสำคัญที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้

วิตามินอีกับคนท้องดีจริงหรือไม่ เรื่องสำคัญที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ว่าวิตามินอีจะเป็นวิตามินที่ถูกเผยแพร่ออกมาว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์ ให้การบำรุง ดูแล และป้องกัน ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว วิตามินอีจะมีประโยชน์จริงหรือไม่? และช่วยในด้านใดบ้าง? จะต้องศึกษารายละเอียดให้ดี เพื่อการรับประทานที่ถูกต้องและไม่ส่งผลเสียใด ๆ ต่อลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย

วิตามินอีมีประโยชน์อย่างไร?

วิตามินอีจะพบอยู่ภายในอาหารที่รับประทานกันอยู่ทุกวันนี้เป็นจำนวนมาก แต่การทานเสริมจะช่วยทำให้ได้รับในปริมาณที่เหมาะสมมากขึ้น โดยเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันได้เป็นอย่างดี สำหรับคนทั่วไปแล้ววิตามินอีจะเป็นตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณ พร้อมให้ประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน เช่น การลดระดับโปรตีนที่ปนอยู่ภายในเลือดสูงมากเกินไป, การป้องกันโรคอัลไซเมอร์, การช่วยลดความเจ็บปวดของมดลูกในช่วงมีประจำเดือน และการลดปัญหาต่าง ๆ ของอาการก่อนมีประจำเดือน ปรับให้ฮอร์โมนมีความสมดุลมากขึ้น

แต่ทั้งนี้ถ้าได้รับวิตามินอีมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียได้มากเช่นเดียวกัน สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ววิตามินอีถือว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยในด้านการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อง่ายและให้การดูแลร่างกายของคุณแม่ได้ดี ทั้งยังเป็นตัวช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและสร้างผิวหนัง ดวงตา รวมไปถึงระบบภูมิคุ้มกันให้กับเด็กได้อย่างครบถ้วน ป้องกันเซลล์เสียหายจากสารอนุมูลอิสระภายในร่างกายของคุณแม่ ช่วยลดความเครียดภายในร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงต่อครรภ์เป็นพิษหรือการคลอดก่อนกำหนดได้เป็นอย่างดี

แต่ทั้งนี้การรับวิตามินอีในแต่ละวันของคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรมีอย่างเหมาะสมหรือประมาณ 3 มิลลิกรัมต่อวันเท่านั้น เพื่อทำให้เพียงพอต่อการใช้งานและไม่ควรมากไปกว่านี้ เพราะอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่ดีต่อลูกน้อยได้ นอกจากนี้คุณแม่เองยังควรรับวิตามินอีในรูปแบบของอาหารสด, เนื้อสัตว์, ผัก หรือผลไม้ที่มากกว่าการทานเป็นวิตามินเสริม เพราะจะช่วยทำให้เกิดความปลอดภัยในการรับประทานมากกว่า

สำหรับคุณแม่ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์และต้องการเสริมวิตามินอี เพื่อทำให้ทั้งตัวคุณแม่และลูกได้รับการดูแลอย่างดีเยี่ยม ช่วยให้พัฒนาการของเด็กเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ควรรับประทานวิตามินอีหลังการตั้งครรภ์ไปแล้ว 8 สัปดาห์ และก่อนการรับประทานต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่ควรทานก่อนช่วง 8 สัปดาห์แรกเด็ดขาด เพราะจะเสี่ยงต่ออาการแท้งได้ง่าย นอกจากนี้การรับประทานวิตามินทุกประเภท ควรต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ เพื่อทำให้สุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์เป็นไปอย่างปลอดภัยมากที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook