ตลาดสินค้าออนไลน์ เอาใจสาววัยทำงาน

ตลาดสินค้าออนไลน์ เอาใจสาววัยทำงาน

ตลาดสินค้าออนไลน์ เอาใจสาววัยทำงาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ร้าน HaLo HaLo SHOP ร้านออนไลน์ที่ขายเครื่องสำอางแบบซื้อมาขายไป จนพัฒนาเป็นตัวแทนจำหน่าย 1 ใน 11 รายในไทย ขายเครื่องสำอางเอาใจสาว ๆ จนมียอดกดไลก์ถึง 36,475 ไลก์แล้ว โดยเน้นลูกค้าหลักเป็นกลุ่มวัยทำงานที่มีกำลังซื้อ อายุตั้งแต่ 25 ปี ขึ้นไป

นางสาวมณียา ประคอง หรืออุ๊ ที่ลูกค้ารู้จักกันดี เธอเริ่มจากการขายเสื้อผ้าแบรนด์นำเข้าจากเกาหลีและญี่ปุ่นมาก่อน และหันมาจับสินค้าเครื่องสำอางแบรนด์ ele, Piko OK และ Absolute Collagen เมื่อปีกว่า พบว่าสินค้าขายดีถล่มทลาย เพราะสินค้าหลาย ๆ ตัวมีเหล่าดาราที่ใช้แล้วอัพรูปลงในอินสตาแกรม ทำให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย และได้รับความนิยมมากขึ้น

เห็นได้จากช่วงเดือนที่ผ่านมายอดขายเพิ่มขึ้นถึง 50% มียอดส่งสินค้าสูงสุดถึง 170 กล่อง/วัน จากยอดส่งเดิมที่ 60-70 กล่อง/วัน จนล่าสุดเปิดหน้าร้านอย่างเป็นทางการแล้วที่ใกล้ ม.เชียงใหม่ สำหรับรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยว และกลุ่มลูกค้าที่เป็นแฟนสินค้าแบรนด์ดังกล่าวจะได้จับจ่ายซื้อกันอย่างสะดวก ซึ่งช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมาสินค้าขายดีมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นฤดูท่องเที่ยวของทางภาคเหนือ และมีการประชาสัมพันธ์เรื่องการเปิดหน้าร้านให้ลูกค้าได้ทราบ

สินค้าที่ขายหลัก ๆ จะขายผ่านร้านค้าออนไลน์ 80% ส่วนอีก 20% เป็นการซื้อผ่านทางร้านค้า โดยจะขายผ่านเพจบนเฟซบุ๊ก แล้วลูกค้าจะโทรศัพท์หรือไลน์มาสอบถามรายละเอียด และสั่งซื้อสินค้าต่อไป โดยหน้าที่หลักของหน้าเพจ คุณอุ๊บอกว่าใช้เพื่อโปรโมต โดยเฉพาะการรีวิวของลูกค้าที่ซื้อไปใช้แล้วได้ผลดี หลายคนกลับมารีวิวให้โดยไม่ต้องขอ นอกจากนี้แล้วเมื่อทางร้านมีโปรโมชั่นใดก็จะคอยอัพเดตผ่านทางเฟซบุ๊กอีกด้วย

"ทางร้านมีการจัดโปรโมชั่นของเรา เราดูว่าสินค้าตัวไหนที่ลูกค้ารีวิวเข้ามามากที่สุดเราก็จะจัดโปรโมชั่นสินค้าตัวนั้น ส่วนอินสตาแกรมทางร้านก็ทำอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่ค่อยได้มีโอกาส อัพรูปเท่าที่ควร และอีกอย่างสังเกตว่าลูกค้าของเราเป็นวัยที่เล่นเฟซบุ๊กหรือไลน์มากกว่า เพราะเป็นช่วงวัยที่ทำงานแล้ว จะเข้ามาเช็กสินค้าใหม่ โปรโมชั่น และหมายเลข EMS มากกว่า แต่ไม่เน้นตามรูปเท่าที่ควร"

ทางร้านยอมรับว่า บางทีก็ต้องคำนึงถึงวิธีที่ลูกค้าเข้ามาหาร้านสะดวกที่สุด เพราะนั่นหมายถึงสินค้า ฉะนั้นเมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมลูกค้าแล้วทางร้านจึงยังคงใช้เฟซบุ๊กในการติดต่อและสื่อสารไปยังลูกค้า และในอนาคตทางร้านตั้งใจจะทำเว็บไซต์แน่นอน เพื่อให้การจัดการเป็นระเบียบ และตรวจสอบง่ายยิ่งขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook