ลดน้ำหนักสูตรคีโตเจนิกคืออะไร ข้อดีข้อเสีย และวิธีการกินที่ต้องรู้

ลดน้ำหนักสูตรคีโตเจนิกคืออะไร ข้อดีข้อเสีย และวิธีการกินที่ต้องรู้

ลดน้ำหนักสูตรคีโตเจนิกคืออะไร ข้อดีข้อเสีย และวิธีการกินที่ต้องรู้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบัน มีสูตรลดน้ำหนักมากมายที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นตัวช่วยกระตุ้นกำลังใจให้กับสาวๆ ที่อยากผอม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกกินอาหาร ไปจนถึงการออกกำลังกายควบคู่ไปกับการกินให้เหมาะสม ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยม เราเรียกว่า "คีโตเจนิก" หรือสูตรลดน้ำหนักโดยเลือกกินอาหารแบบโลว์คาร์บเป็นหลัก ใครอยากรู้จักกับสูตรนี้ให้มากขึ้น ลองมาทำความเข้าใจแบบเจาะลึก พร้อมข้อดีข้อเสีย ก่อนตัดสินใจว่าเหมาะกับสุขภาพของสาวๆ หรือไม่กันดีกว่าค่ะ

ลดน้ำหนักด้วยสูตรคีโตเจนิค คืออะไร?

สูตรคีโตเจนิค เป็นการลดน้ำหนักด้วยการกินอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลให้น้อยที่สุด โดยเน้นไปที่การกินอาหารจำพวกโปรตีนควบคู่ไปกับอาหารที่มีไขมันดี เพื่อให้ร่างกายได้มีการปรับระบบเผาผลาญ เมื่อร่างกายเริ่มชินแล้วก็จะทำให้เข้าสู่ภาวะที่คล้ายกับการอดอาหาร จากนั้นร่างกายก็จะดึงไขมันที่เคยได้รับและทำการเก็บสะสมไว้มาเผาผลาญเป็นพลังงานแทนน้ำตาล เท่านี้น้ำหนักที่เคยมากขึ้นก็จะค่อยๆ ลดลง เป็นสูตรลดน้ำหนักซึ่งกลายเป็นที่นิยมของพวกนักเล่นกล้าม รวมถึงสาวๆ ที่อยากมีหุ่นผอมเพรียวในระยะเวลาไม่นานจนเกินไป


อยากลดความอ้วนด้วยสูตรคีโตเจนิค ต้องทำอย่างไร?

สิ่งที่ควรทำคือ ควรงดอาหารที่มีส่วนผสมของแป้งและน้ำตาล จากนั้นให้เน้นไปกินจำพวกโปรตีนและไขมันแทน โดยลดปริมาณอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต ให้ร่างกายได้รับเพียงวันละ 25-50 กรัมก็พอ และกินโปรตีนให้มากขึ้น เพราะร่างกายจะทำการเปลี่ยนสารอาหารเหล่านี้ให้กลายเป็นกลูโคสและนำไปเผาผลาญเป็นพลังงาน ส่วนไขมันที่ร่างกายควรจะได้รับนั้นต้องเป็นแบบชนิดดี เพราะสารอาหารประเภทไขมันจะทำให้ร่างกายเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงานได้ดียิ่งขึ้น โดยให้ร่างกายได้รับไขมันเฉลี่ยวันละ 70-80 เปอร์เซ็นต์ จึงจะดีที่สุด


สูตรลดน้ำหนักนี้ ดีจริงหรือไม่?

สูตรนี้สามารถลดน้ำหนักได้จริง แต่ควรทำติดต่อกันประมาณ 14 วันจึงจะเห็นผล ที่สำคัญควรทำสลับกับการกินอาหารแบบโลว์คาร์บวิธีอื่นด้วย เพราะสูตรไดเอตนี้หากร่างกายได้รับสารอาหารจำพวกนี้เป็นเวลานานมากถึง 6 เดือนอาจจะทำให้ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้อที่ดีไปได้ ถึงแม้จะสามารถทำให้หนักตัวลดลงได้ แต่ร่างกายกลับดึงเอาโปรตีนจากเนื้อเยื่อมาใช้แทน ซึ่งไม่ส่งผลดี อีกทั้งยังมีปริมาณกรดยูริกในกระแสเลือดสูง ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคไต และยังส่งผลให้เกิดการขัดขวางการดูดซึมแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นเหตุให้ร่างกายมีการฟื้นตัวช้า หากมีอาการเจ็บป่วยนั่นเอง

ไม่ว่าจะเป็นสูตรลดน้ำหนักแบบไหนก็ตาม ต้องบอกสาวๆ ก่อนเลยว่า การเดินสายกลางคือ สิ่งที่ดีที่สุด เพราะการลดน้ำหนักที่ดี จะต้องอยู่ในกระบวนการที่ร่างกายรับไหว ไม่หักโหมจนเกินไป แน่นอนว่าระเบียบวินัยคือสิ่งที่จะช่วยให้สาวๆ สามารถมีหุ่นสวยได้อย่างที่ใจต้องการได้อย่างแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook