ภัสสรี กังวานพงศ์
ผิวขาวแบบชาวเหนือ แต่โครงหน้าฝรั่งจ๋า มักทำให้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นลูกครึ่งเสมอ แต่มันก็ช่วยสร้างโอกาสให้เธอได้ก้าวเข้าสู่วงการนางแบบ และหลังจากที่ใครต่อใครเริ่มคุ้นหน้าคุ้นตากับเธอแล้ว งานก็หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาด
"ครั้งแรกมาถ่ายรูปลงหนังสือและมาถ่ายแคตตาล็อกของ Jaspal แล้วก็มาเดินแบบครั้งแรกที่ Bangkok Fashion Week ของ Fly Now เป็นการเดินแบบที่ตื่นเต้นมาก กลัวว่าจะทำได้ไม่ดี แต่ก็มีพี่ๆ ในงานคอยสอนให้ว่าแต่ละงานเราต้องเดินแบบไหน
หลังจากนั้นก็เริ่มงานละครเรื่องแรกที่เอ็กแซ็กท์ก่อน พี่เขาเรียกเข้าไปแคสติ้งแล้วก็ได้เล่น ตวงมองว่ามันเป็นโอกาสอีกประสบการณ์ที่น่าจะลองดู พอรับงานแล้วเขาก็ส่งให้ไปเรียนแอ็คติ้ง แต่ตอนเข้าฉากวันแรกนี่ อึ้ง! ลืมบทไปเลย ยังงงๆ เพราะเราไม่เคยเล่นมาก่อน ตวงก็พูดธรรมดาเหมือนที่พูดประจำวัน แต่จริงๆ แล้วละครมันต้องทำหน้าทำตา พี่เขาก็ค่อยๆ สอนไป ก็ถือว่ายากนะ"
4 ปีแล้วที่ตวงเป็นนางแบบ และเริ่มชิมลางกับงานละคร เธอบอกว่าไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่ต้องปรับตัวพอสมควรให้เข้ากับธรรมชาติของงานแต่ละอย่าง
"ก่อนเข้าวงการไม่มีใครรู้จักเรา เราก็บ้าๆ บอๆ ของเราไปตามเรื่องตามราวแต่พอมาทำงานตรงนี้ อย่างละครนี่มีผลมากเลย พอละครออกอากาศวันแรกก็มีคนจำเราได้แล้ว เราก็ 'เฮ้ย! เป็นไปได้ไง' ตอนนี้ก็อาจจะต้องเรียบร้อยนิดนึงเวลาอยู่ต่อหน้าสาธารณชน แต่ก็ไม่ถึงกับแบบว่าเก๊ก อะไรอย่างนี้ก็ไม่ไหว มันผิดธรรมชาติเกินไปหน่อย
ความรับผิดชอบก็ต้องมีมากขึ้นเพราะเราทำงานถ้าคิดว่าจะทำตรงนี้ให้ได้นานๆ เราก็ต้องมีความรับผิดชอบ น่ารักหน่อยนึง การทำงานทำให้ตวงโตขึ้น ได้รู้จักคนมากขึ้น และก็รู้จักคนหลายแบบ เราก็สามารถมองออกว่าคนนี้เป็นยังไง คนนั้นเป็นยังไง เวลาส่วนตัวก็อาจจะลดลงนิดนึงแต่มันเป็นงานน่ะค่ะ งานที่ไม่ใช่งานประจำ และมันไม่เป็นเวลาว่าเราจะเสร็จตอนไหนแค่นั้นเอง แต่ก็สนุกไปอีกแบบ ชีวิตไม่จำเจ ไม่น่าเบื่อเหมือนการนั่งโต๊ะทำงาน ตวงรู้สึกเหมือนไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน เพราะว่าไปถึงเราก็เจอเพื่อน ได้มานั่งคุยกัน มาเล่าสู่กันฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับแต่ละคนบ้าง ก็จะสนุกกว่า และที่ประทับใจก็คือ ตวงมักจะได้เจอแต่คนดีๆ ได้เพื่อนดี ได้พี่ดี ทุกคนก็ช่วยกันแนะนำ ช่วยสอนเรื่องการดูแลตัวเอง อย่างสมัยก่อนนี่ตวงไม่ทาครีมบำรุงอะไรเลย แต่พอถ่ายแบบแล้วเราต้องใช้ใบหน้า เค้าก็จะสอนว่าเราต้องเริ่มทาครีมบำรุงไปทำทรีทเม้นต์ ไปสปา แต่อย่างตวงก็ต้องทำมากกว่าคนอื่นหน่อยนึง" (หัวเราะ)
เราถามถึงอนาคตที่เธอวางไว้ ตวงตอบว่าเธอคิดจะศึกษาต่อหลังจากมีดีกรีจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้านคอมพิวเตอร์อยู่ในมือ แต่ตอนนี้ยังติดสินใจไม่ได้ว่าจะเรียนอะไรและยังสนุกับงานอยู่ แต่เชื่อเถอะว่าด้วยความน่ารัก อารมณ์ดี และความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานที่ตวงมีจะทำให้เราเห็นเธอเป็นนางแบบและนักแสดงมืออาชีพอีกคนของวงการ
