ลืมได้..ลืมดี ชวนมาดูข้อดีของการลืม

ลืมได้..ลืมดี ชวนมาดูข้อดีของการลืม

ลืมได้..ลืมดี ชวนมาดูข้อดีของการลืม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

by Daaw Chonlada



"...คนเรานี้คิดให้ดีก็น่าขำ อยากจำ กลับลืม อยากลืม กลับจำ..."


เคยเป็นไหมคะ เรื่องราวร้ายๆ ลบเท่าไหร่ก็ไม่ออกไปจากสมอง ส่วนเรื่องดีๆ มีความสุขทำไมแป๊บเดียว ก็จำไม่ได้ซะแล้ว นี่ล่ะค่ะเรื่องน่าขำของธรรมชาติของมนุษย์


การลืมอาจจะดูเลวร้ายในสายตาหลายๆ คน เพราะมันทำให้เราพลาดสิ่งดีๆ ลืมเรื่องดีๆ ทำสิ่งสำคัญบางอย่างของชีวิตหล่นหายไปในหลุมดำของเวลา


เหรียญยังมีสองด้าน การลืมก็มีข้อดีเช่นกัน...


เรื่องของการจำ-การลืมหากมองในแง่ของธรรมะ ก็คงอยู่ในเรื่องของไตรลักษณ์ ที่ว่าด้วย อนิจจัง (ความไม่เที่ยง) ทุกขัง (ความไม่คงทน ทุกสิ่งล้วนเป็นทุกข์ ) อนัตตา (ความไม่มีตัวตน) การจำเป็นขั้นแรก การกระทำเป็นขั้นสอง จบด้วยการลืมเป็นสุดท้าย เป็นสามสิ่งที่เวียนว่ายอยู่ในชีวิตมนุษย์ไม่จบสิ้น เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเช่นเดียวกับทุกสรรพสิ่ง เกิดขึ้นและดับไปอยู่ทุกขณะ ถ้าคิดในทางวิทยาศาสตร์ก็เป็นการถ่ายทอดพลังงาน แสง เสียง และพลังงานในรูปแบบต่างๆ ที่ต้องมีเกิดขึ้นและดับไป


การลืมจึงเป็นการดับ... อย่างน้อยก็ดับทุกข์ชั่วคราว จากเรื่องร้ายๆ ที่เราไม่ใคร่อยากจำ


การลืมเป็นการตัดสุข... ไม่ให้เราหลงระเริงไปกับลาภ ยศ สรรเสริญ ภาวะความดีใจจนเกินงาม


การลืมเป็นการปิด...จากสิ่งไม่ดีในอดีตที่จะตามมาหลอกหลอนเราให้เจ็บปวดในจิตใจ


การลืมไม่ได้เป็นเพียงภาวะทางจิตใจเท่านั้น การลืมยังเป็นภาวะทางร่างกายอีกด้วย อย่างเช่นโรค Alzimer นั่นไง เป็นภาวะที่สมองไม่อาจจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้เลย แม้เพิ่งผ่านมาเพียงเสี้ยววินาทีก็ตาม หลายคนเลยรู้สึกเศร้า รู้สึกเจ็บปวดที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างไร้ความทรงจำ ทำเอาหลายคนสงสารผู้ป่วย Alzimer เอามากๆ


ครั้งหนึ่งผู้เขียนเคยรู้สึกแบบนี้ และเชื่อว่าหลายๆ คนก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน แต่เมื่อได้พูดคุยกับคุณพี่คนหนึ่ง เธอเป็นบรรณาธิการนิตยสารชื่อดัง เธอมีคุณแม่ที่เป็นอัลไซเมอร์มามากกว่า 4 ปี เธอกลับมีมุมมองที่ว่า บางครั้งการไม่มีความทรงจำใดๆ เลย ก็สามารถทำให้ชีวิตนั้นก้าวต่อไปได้ดีกว่า


คุณแม่ของเธอไม่มีห่วงใดๆ คิดถึงตอนที่คุณตื่นเช้าและไม่มีอะไรให้กังวลใจอยู่ข้างหลังสิ ไม่มีลูก ไม่มีสามีหรือภรรยา ไม่มีครอบครัวให้ห่วงหน้าพะวงหลัง ไม่มีภาระทั้งการงานและการเรียน เป็นการใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่างแท้จริง บางครั้งเธออดอิจฉาคุณแม่ไม่ได้ ที่ไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องราวใดๆ เลย ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน มีความสุขกับวันนี้ได้อย่างเต็มที่ เพราะเมื่อตื่นเช้า คุณแม่ก็จะเป็นคนใหม่

ทำเอาอิจฉาคนป่วยขึ้นมาถนัดใจ...



ลืมบ้าง...ก็ดี


สำหรับเราซึ่งไม่ใช่คนป่วย กลไกต่างๆ ของร่างกายและจิตใจยังสมบูรณ์ดี เราสามารถเลือกเรื่องที่จะ "จำ" และ "ลืม" ได้ ไม่ยากเย็น


เรื่องร้ายๆ จำไปก็เหมือนกับบีบก้อนหนามในกำมือ รังแต่จะเจ็บปวด ทิ้งมันไปซะ โดยใช้การลืมนี่ล่ะ เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด เพราะการลืมเป็นเครื่องมือที่จะไม่ทำให้ความทรงจำอันเลวร้ายย้อนกลับมาทำร้ายเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลืมอดีต เพื่อที่จะสุขกับปัจจุบัน


การลืมเป็นเรื่องของอดีตล้วนๆ ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน เพียงแค่เสี้ยววินาที หรือนานนับ 10 ปี มันก็คืออดีต วันเวลาอาจฟังดูต่างกันแต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือ "มันย้อนกลับไปไม่ได้" เพราะฉะนั้นการคร่ำครวญย้อนหาวันวาน ไม่มีประโยชน์เท่าลืมเลือนมันไป


การลืมเป็นเหมือนการกำจัดขยะในจิต ใจ เราเป็นคนยุคใหม่อยากให้เปรียบเทียบจิตใจเราเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ การลืมก็คือการลบ ไม่ต่างอะไรกับการกด Empty Recycle bin นอกจากเครื่องจะเร็วขึ้นเพราะไม่ต้องแบกขยะเก็บไว้ ยังเพิ่มพื้นที่ให้สิ่งดีๆ เข้ามีอีกได้มาก แต่ถึงไม่ทำอะไร จิตใจเราก็มีระบบ Auto Delete อยู่แล้ว เพราะความทรงจำก็เป็นหนึ่งในไตรลักษณ์ มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป...


เห็นไหมล่ะ จิตใจเราเก่งเสียยิ่งกว่าคอมพิวเตอร์บางรุ่นอีก


การลืมไม่ใช่เรื่องแย่ แค่ลองมองหาข้อดีของมัน และหมั่นลืม (สิ่งแย่ๆ) ออกจากชีวิตวันละนิด เท่านี้ก็จะจิตแจ่มใส

 

ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.photos.com

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook