บล.เกียรตินาคิน : รายงานภาวะหุ้น 29/12/52

บล.เกียรตินาคิน : รายงานภาวะหุ้น 29/12/52

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บล.เกียรตินาคิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 29/12/52SET วานนี้ปิดบวก และยังยืนเหนือ 730 จุด ตามแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง SET ปิดบวก และยังยืนเหนือ 730 จุด โดยดัชนีปรับตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า และต่อเนื่องถึงภาคบ่าย หลังนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ บมจ. ปตท. (PTT) จากความคาดหวังทางบวกต่อปัญหามาบตาพุด ส่งผลให้มีดัชนีปิดที่ระดับสูงสุดของวัน 733.71 จุด เพิ่มขึ้น 3.30 จุด (+0.45%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 7,129.20 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างประเทศยังขายสุทธิจำนวน 295.05 ล้านบาทตารางแสดงยอดการลงทุนของต่างชาติปี 2552 Aug-09    Sep-09    Oct-09    Nov -09    Dec -09    Total -092,996    22,994    654    -13,135    -4,362    38,383ที่มา : รวบรวมโดย KKSแนวโน้มตลาดวันนี้ เราคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจะเคลื่อนไหวในช่วง 730-738 จุด เป็นแนวโน้มแกว่งตัวบวกตามดาวโจนส์ที่ +26 จุด โดยยังมีวอลุ่มเบาบางจากการที่ตลาดหุ้นยังซื้อขายในช่วงก่อนวันหยุดปลายปี ด้านสถาบันซื้อสุทธิ +971 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ -295 ล้านบาท แสดงถึงตลาดหุ้นจะเป็นแนวโน้มแกว่งตัวผันผวน แต่มีน้ำหนักทางบวกต่อเนื่องได้หลังจากตลาดสามารถยืนเหนือระดับ 730 จุด โดยการซื้อขายจะอยู่ในหุ้นกลุ่มพลังงานที่นำตลาดอยู่จากการเก็งกำไรคาดหวังทางบวกต่อปัญหามาบตาพุด ซึ่งยังหนุนให้ดัชนีปรับขึ้นต่อใน 1-2 วันนี้ด้วย สำหรับกลยุทธ์ในภาพรวมในช่วงนี้ ในระยะสั้นตลาดหุ้นยังแกว่งตัวในกรอบ 720-738 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรได้ถ้าตลาดยืนเหนือ 730 จุด กรณีต่ำกว่า 725 จุดจึงจะเป็นสัญญาณขาย สำหรับสัดส่วนการลงทุนในช่วงนี้ให้เป็นถือหุ้น 75% ถือเงินสด 25%ปัจจัยที่ส่งผลต่อหุ้นวันนี้ : (+)    1. ตลาดหุ้นสหรัฐ  วานนี้ปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 หลังตัวเลขการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่ดีขึ้น ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีก โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดของวันที่ 11.57 จุด จากระดับเปิด และปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดของวันที่ 33.70 จุด จากระดับเปิด ก่อนที่จะมาปิดตลาดที่ระดับ 10,547.08 จุด เพิ่มขึ้น 26.98 จุด (+0.26%) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ในกรอบ 0.52-0.88% หลังหุ้นกลุ่มธนาคารและน้ำมันปรับขึ้น (-)    2. นักลงทุนต่างประเทศ  วานนี้นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิจำนวน 295.05 ล้านบาท ส่งผลให้ปี 52 นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิจำนวน 38,383 ล้านบาท (+)    3. บัญชีบริษัทหลักทรัพย์  วานนี้บริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิจำนวน 94.90 ล้านบาท (+)    4. LTF-RMF  เหลือเวลาอีกเพียง 2 วันสำหรับเดือน ธ.ค. ที่มีการเข้าลงทุนในกองทุน LTF/RMF ทำให้สถาบันยังมีแนวโน้มของการซื้อสุทธิต่อเนื่อง เมื่อวานนี้สถาบันซื้อสุทธิ 971.99 ล้านบาท ทั้งนี้ในเดือน ธ.ค. สถาบันซื้อสุทธิจำนวน 11,248.89 ล้านบาท (-)    5. ค่าเงินบาท On shore  วานนี้เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยและเคลื่อนไหวในกรอบ 33.33-33.45 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 33.38 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเช้านี้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.38-33.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ (+)    6. ดัชนีค่าเงินดอลลาร์  วานนี้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเล็กน้อยและปิดที่ระดับ 77.633 จุด ลดลง 0.008 จุด (-0.010%) สำหรับเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่ที่ 77.643-77.679 จุด (+)    7. ราคาน้ำมัน  วานนี้ปิดบวกวันที่ 4 หลังได้รับแรงหนุนจากภาวะอากาศที่หนาวเย็น และจากการคาดการณ์ในทางบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยราคาน้ำมันดิบตลาด Nymex ปิดตลาดที่ระดับ 78.77 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ (+0.92%) ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดตลาดที่ระดับ 77.32 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ (+1.32%) (+)    8. ราคาทองคำ  วานนี้ปิดบวกวันที่ 3 หลังดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อย โดยราคาทองคำที่ตลาด Comex ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดตลาดที่ระดับ 1,107.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.10 ดอลลาร์ (+0.28%) (0)    9. ค่าระวางเรือ  วานนี้ปิดทำการในช่วงคริสต์มาสจนถึงปีใหม่ (+)    10. การเมือง  วานนี้ (28 ธ.ค.) นายกรัฐมนตรีเผยว่า หลังปีใหม่จะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลถึงแนวทางแก้รัฐธรรมนูญปี 50 ซึ่งจะทำให้การเมืองในปี 53 มีเสถียรภาพมากที่สุด โดยยึดบทเรียนความขัดแย้งทางการเมืองในปี 51 (+)    11. เศรษฐกิจ  วานนี้ (28 ธ.ค.) สศค. ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของไทยในปี 53 เป็นเฉลี่ย 3.5% จากที่คาดหดตัว 2.8% ในปี 52 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า และรัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ในขณะที่คาดว่าดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นไปที่ 1.50% (+)    12. Widow dressing  สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส 4/52 และเหลือเวลาอีกเพียง 2 วัน ติดตามการทำราคาก่อนวันปิดสิ้นงวดบัญชี (Window Dressing) (+)    13. หุ้นปันผล  ทาง KKS คาดการณ์จ่ายปันผลของผลประกอบการ 2H52 ที่คาดหมายผลตอบแทนเงินปันผลระดับ 3-9% ซึ่งเป็นผลมาจากผลประกอบการในครึ่งปีหลัง (2H52) และผลประกอบการทั้งปีของปี 52 เช่น KTB, ASP, BLS, PHATRA, BAT-3K, TPC, AP, LPN, SPALI, MK, TOP, BCP-DR1, GRAMMY, MCOT, HANA, DELTA, ADVANC และ TKT

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook