ทำไมการเป็นพ่อแม่ที่ ‘ดีเพียงพอ’ ถึงดีกว่าพ่อแม่ที่ ‘สมบูรณ์แบบ’?

ทำไมการเป็นพ่อแม่ที่ ‘ดีเพียงพอ’ ถึงดีกว่าพ่อแม่ที่ ‘สมบูรณ์แบบ’?

ทำไมการเป็นพ่อแม่ที่ ‘ดีเพียงพอ’ ถึงดีกว่าพ่อแม่ที่ ‘สมบูรณ์แบบ’?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนที่เป็นพ่อแม่ยุคนี้น่าจะเข้าใจและรู้ดีคือการเลี้ยงลูกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ยุคก่อนก็ไม่ได้ง่าย แต่ตอนนี้มันยากขึ้นไปกว่าเดิม ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ค่าเทอม กิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ทุกอย่างล้วนต้องการเวลาและเงินเพื่อจะทุ่มลงไปทั้งสิ้น แถมไม่พอสังคมปัจจุบันที่กลายเป็นบ้านเดี่ยว แยกออกจากครอบครัวซะเป็นส่วนใหญ่ ความช่วยเหลือจากญาติเหมือนสมัยก่อนก็ลดน้อยลงไปด้วย

ที่สำคัญที่สุดโซเชียลมีเดียต่าง ๆ นานา ภาพตัวอย่างของพ่อแม่ที่ ‘สมบูรณ์แบบ’ มีอยู่เต็มโลกอินเตอร์เน็ตไปหมด เปิดอันไหนก็เห็นแต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ภาพเด็ก ๆ ของครอบครัวอื่นยิ้มแย้ม หัวเราะ ร่าเริง ไปโรงเรียนที่ดี เล่นกิจกรรมที่น่าสนใจ หันมาดูของตัวเองกลับรู้สึกไม่ดีพอได้ง่าย ๆ เราถูกดูดเข้าไปใน ‘ความคาดหวังที่ไม่เป็นจริง’ ของการเป็นพ่อแม่ ด้อยค่าตัวเองและสิ่งที่ทำ ทั้ง ๆ ที่ทำดีที่สุดแล้ว ยังได้แค่นี้ รู้สึก ‘ผิด’ ที่ไม่มีเวลาให้ลูก 24 ชั่วโมง รู้สึก ‘ผิด’ ที่ทำให้ลูกมากกว่านี้ไม่ได้

ในยุคสมัยที่ ‘ต้องมีมากเข้าไว้’ การเป็นพ่อแม่จึงถูกคาดหวังเอาไว้สูงมากเกินความพอดี แล้วอะไรหล่ะคือจุดสมดุลย์ อะไรคือ ’sweet spot’ ที่สามารถเป็นพ่อแม่ที่ดี ไม่ต้องรู้สึกผิด มีความสัมพันธ์กับลูกอย่างแท้จริง

กุมารแพทย์ D.W. Winnicott เคยแนะนำแนวคิดเรื่อง “แม่ที่ดีพอ” (Good Enough Mom) ไว้ในปี 1953 โดยกล่าวถึงความจริงที่ว่าการพยายามเป็นแม่ที่ “สมบูรณ์แบบ” หรือ “ดีที่สุด” อาจทำให้เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดสำหรับพ่อแม่และลูกด้วย ซึ่งแนวคิดนี้ก็เหมาะสำหรับสำหรับยุคนี้ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียมากเลยทีเดียว

ในบทความของ Crysta Balis บทเว็บไซต์ Today’s Parent กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

“ตามหลักเหตุผลแล้วเรารู้ดีว่าไม่มีพ่อแม่หรือเด็กคนไหนที่สมบูรณ์แบบ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เราหยุดมุ่งมั่นที่จะทำให้สมบูรณ์หรือบางทีสวมบทบาทเจ้ากี้เจ้าการอย่างการป้องกันทุกอย่างที่จะทำให้ลูกเสียใจหรือเป็นคงบงการชีวิตของลูกไปด้วย แต่นี่คือการ ‘over-parenting’ ซึ่งอาจจะทำให้การเติบโตของสภาพจิตใจและ EF (Executive Function คือความสามารถในการทำงานของสมองส่วนที่ควบคุมความคิด อารมณ์ พฤติกรรม) ของเด็ก ๆ ชะงักลงได้ นอกจากนั้นอาจนำมาซึ่งความวิตกกังวล ซึมเศร้า และไร้ทางออก ต่างจากแค่การเป็น ‘พ่อแม่ที่ดีพอ’ เท่านั้น”

ขอให้เราหยุดสักนิดหนึ่งแล้วลองคิดดูว่าอะไรกันนะที่เป็นตัวก่อให้เกิดความทุกข์ของเราข้างใน เชื่อว่ามันคือความรู้สึกที่มาจากความกลัวว่าเราจะเป็นพ่อแม่ที่ยังไม่ดีพอนั่นแหละ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ การใช้ชีวิตด้วยแนวคิดว่าเรานั้น ‘ดีเพียงพอ’ จะช่วยปลดปล่อยความทุกข์ตรงนั้นได้ และมีเหตุผลที่ดีรองรับด้วย พ่อแม่ที่ไม่สมบูรณ์แบบนั้นจะช่วยทำให้ลูก ๆ มีทักษะในการฝึกความอดทนต่อสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ ดูแลตัวเองได้ และสามารถสงบสติอารมณ์ได้เมื่อเจอเรื่องที่ไม่พอใจ นั่นคือทักษะที่จำเป็นในการสร้างนิสัยที่มานะบากบั่น ไม่ย่อท้อ ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อความสำเร็จในอนาคตของลูกด้วย

ลูกไม่ได้เกรด 4? ไม่เป็นไรเดี๋ยวลองใหม่ ลูกไม่ได้ที่หนึ่งในการแข่งขันกีฬา? ไม่เป็นไร ชีวิตยังดำเนินต่อไป เส้นทางที่คดเคี้ยวของชีวิตทำให้เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เมื่อเจอประสบการณ์ใหม่ ๆ

การเป็นพ่อแม่ที่ ‘ดีเพียงพอ’ นั้นอาจจะเหมือนคนยอมแพ้ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ การเป็นพ่อแม่ที่ ‘ดีเพียงพอ’ ไม่ใช่การ ‘เลิกพยายาม’ ตรงกันข้ามข้ามด้วยซ้ำ มันคือการตระหนักรู้ว่าเราทำได้พยายามทำดีที่สุดแล้ว เท่าที่พ่อแม่คนหนึ่งจะทำได้ ซึ่งการยอมรับตรงนี้จะช่วยทำให้คุณสงบลง เป็นพ่อแม่ที่ดีมากขึ้น รักตัวเองมากขึ้น ไม่ดูถูกตัวเอง กลายเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกในการแสดงความรักและเคารพต่อตัวเอง ซึ่งเป็นฐานรากสำคัญในการที่เขาจะออกไปผจญภัยในโลกกว้างที่หนทางขรุขระด้วย 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook