หนึ่งปัจจัยที่ทำให้เราหุ่นดีกันไม่ได้สักที
หนึ่งปัจจัยที่ทำให้เราหุ่นดีกันไม่ได้ซักที ก็คือ “การที่เรากลัวการกินคาร์บ กลัวกินข้าว กลัวกินผลไม้”
ผมเพิ่งเห็นเพจขายของ/ขายโปรโมชั่นที่มีคนตามหลักล้าน ชวนคนที่อยากลดน้ำหนักให้มาทดลองไม่กินแป้ง ข้าวขาว และผลไม้เลย เห็นหมอและกูรู้หลายคนแนะนำให้ไม่กินข้าวไม่กินแป้งเพื่อลดน้ำหนัก เห็นแล้วหงุดหงิดปนปวดใจมาก คนยิ่งโทษแป้ง โทษข้าว ว่าทำให้อ้วน ทำให้หลายคนกลัวการกินคาร์โบไฮเดรต กลัวการกินผลไม้กันแบบบ้าบอคอแตกมาก (แต่ไม่กลัวของที่แคลอรี่สูงจริง ๆ เช่น ขนม เค้ก น้ำหวาน ไส้กรอก ฯลฯ)
ผมบอกเลยว่าการลดไขมัน ทำให้หุ่นดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องไม่กินข้าว ไม่กินแป้ง ไม่กินเส้นก๋วยเตี๋ยว ไม่กินผลไม้ มีงานวิจัยล่าสุดเปรียบเทียบการกิน Low Carb กับการกิน Balanced Carb ในกรณีที่แบบ Calories Deficit และกินโปรตีนสูง ให้ผลในการลดไขมันไม่ต่างกันในระยะยาว เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของการลดไขมัน คือ Calories Deficit ใช้พลังงานให้มากกว่าการกินเข้ามา โดยที่กินโปรตีนสูงพอเหมาะ ไม่ว่าจะกินอะไรรูปแบบไหนก็ลดไขมันได้ทั้งนั้น
เมื่อกลัวการกินคาร์บจะสร้างกล้ามเนื้อก็ทำได้ยากเพราะออกกำลังกายได้ไม่เต็มที่ แรงกระตุ้นในการสร้างกล้ามเนื้อก็น้อย พลังงานในการสร้างกล้ามเนื้อให้เพิ่มขึ้นก็ไม่พอ ถ้าจะลดไขมันก็ไม่มีแรงออกกำลังกายได้เต็มที่ การเผาผลาญน้อย แนวโน้มเสียกล้ามเนื้อในช่วงลดน้ำหนักเพิ่มขึ้น แถมพอกินคาร์บน้อยเกินไป ความอยากอาหารก็สูงขึ้น สุดท้ายตบะแตกกินเยอะในช่วงสุดสัปดาห์อยู่ดี จบที่อ้วนกว่าเดิม แถมมีผลทำให้การลดไขมันครั้งต่อไปยากขึ้นอีกด้วย
ถ้าอยากลดไขมัน มีหุ่นที่ดีขึ้น สิ่งที่ต้องทำไม่ใช่การไม่กินแป้ง ไม่กินข้าว แต่ต้องทำสิ่งเหล่านี้
1. มีรูปแบบการกินที่แน่นอน สม่ำเสมอทุกวัน ไม่ใช้วันนี้มีเวลาเยอะกิน 4 มื้อ วันนี้ยุ่งกิน 1-2 มื้อ ไม่มีรูปแบบการกินอาหารที่แน่นอน
2. เลือกกินอาหารโดยเน้นสารอาหารให้ครบถ้วนทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุ ไม่ใช่เลือกแต่สิ่งที่อยากกินหรือเลือกกินตามรสชาติเป็นหลัก
3. เลือกกินโปรตีนและผักให้เพิ่มขึ้น ถ้าเราไม่เลือกกิน อาหารส่วนใหญ่ที่กินจะให้โปรตีนและผักน้อยมาก
4. กินให้อร่อย แต่สารอาหารยังดีอยู่ ไม่จำเป็นต้องกินคลีน กินจืด จนร่างกายเครียด อยากอาหาร โหยหาอาหาร จนตบะแตกวันเสาร์-อาทิตย์
5. ออกกำลังกายให้เหมาะสมตามความแข็งแรงของแต่ละคนให้ได้สม่ำเสมอ คนที่ลดไขมันไม่ได้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในระหว่างวันต่ำมาก ทำให้การใช้พลังงานในแต่ละวันน้อยมาก
6. มีการเวทเทรนนิ่งที่ดีอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่ออาทิตย์
7. ไม่ต้องทำอะไรประหลาดจนเกินไป ทำสิ่งที่เรารู้ ๆ อยู่แล้วให้ได้สม่ำเสมอ ลงมือทำให้ได้ ถึงแม้วันนั้นเราจะไม่อยากทำมีข้ออ้างอะไรก็ตาม เมื่อเราก้าวข้ามข้ออ้างของเราได้ เราจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นแน่นอน
หวังว่าบทความนี้จะทำให้เราไม่กลัวการกินคาร์บ และทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายที่แต่ละคนตั้งใจไว้ได้เพิ่มขึ้นครับ
ปล. ในรูปคือข้าว 3 มื้อของผมเอง ยังไม่รวมผักผลไม้และเวย์ปั่นตอนเช้า นมไฮโปรตีน+ขนมเป็นมื้อว่างครับ
นิว วีระเดช ผเด็จพล
MSc. Sport & Exercise Nutrition, Leeds Beckett University, UK
Certified Strength & Conditioning Specialist (NSCA)
Certified Personal Trainer (NSCA)
ผู้ร่วมก่อตั้ง Fit-D Fitness และเว็บไซต์ fit-d.com
Educator at FIT
IG: new_fitd