อ. เจษฎาโต้! “กล่องโฟม” ไม่ได้อันตรายต่อสุขภาพ

อ. เจษฎาโต้! “กล่องโฟม” ไม่ได้อันตรายต่อสุขภาพ

อ. เจษฎาโต้! “กล่องโฟม” ไม่ได้อันตรายต่อสุขภาพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่มีบทความในอินเตอร์เน็ต และสิ่งพิมพ์ต่างๆ ถึงเรื่องของการใช้กล่องโฟมใส่อาหาร อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย โดยยืนยันจากเจ้าหน้าที่ภาครัฐต่างๆ ทางด้านของ อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลับออกความเห็นในเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า กล่องโฟม ไม่ได้อันตรายต่อร่างกายอย่างที่ว่า

เพราะกล่องโฟมที่บ้านเราใช้ใส่อาหารทำมาจากโพลีสไตรีน ซึ่่งเป็นโพลีเมอร์ของสารสไตรีนโมโนเมอร์มาเรียงต่อกัน ทำให้มีความเสถียรสูง ทนกรด ด่าง ความร้อนได้ดี จึงเป็นที่นิยมใช้กันทั่วโลก และได้รับการรับรองว่าปลอดภัยจากองค์กรทางอาหารทั่วโลก

นอกจากนี้ จากข้อมูลที่ออกมาบอกว่า หากเราทานอาหารจากกล่องโฟมติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี แล้วจะเสี่ยงเป็นมะเร็งมากขึ้นถึง 6 เท่านั้น อาจารย์เจษฎา ยังยืนยันว่า ไม่พบแหล่งอ้างอิงของข้อมูลนี้แต่อย่างใด

สามารถอ่านรายละเอียดได้ตามด้านล่างค่ะ

____________________

"กล่องโฟม ไม่ได้อันตรายต่อสุขภาพ"

หลังจากประเด็นเรื่องจับปรับถ้ามีคนใช้มือถือในปั๊มน้ำมันแล้ว สงสัยเรื่องต่อไปที่ผมคงได้โต้แย้งกับภาครัฐอีก ก็เรื่องที่จะห้ามใช้กล่องโฟมใส่อาหารเนี่ยแหล่ะครับ เพราะเห็นทั้ง สคบ. ทั้งกรมอนามัย ออกมาผลักดันกันใหญ่

สาเหตุหลักก็ด้วยการอ้างว่า ถ้าใช้กล่องโฟมใส่อาหารแล้ว มันจะอันตรายต่อสุขภาพอย่างนั้นอย่างนี้ .... คือถ้าบอกว่าใช้แล้วจะเป็นขยะที่ทำลายยาก รีไซเคิ้ลยาก ไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ผมก็เห็นด้วยนะ แต่ถ้าอ้างเรื่องสุขภาพนี่ มันไม่ใช่แล้ว

กล่องโฟมหรือภาชนะโฟมที่เราใช้กันนั้น เรียกว่าเป็น โพลีสไตรีน ซึ่่งเป็นโพลีเมอร์ของสารสไตรีนโมโนเมอร์มาเรียงต่อกัน ... สารสไตรีนโมโนเมอร์เดี่ยวๆ นั้น ถูกต้องว่าถ้าร่างกายได้รับเข้าไป จะเป็นอันตรายได้หลายอย่าง แต่เมื่อมันมาจับกันเป็นโพลีสไตรีนแบบกล่องโฟมแล้ว มันจะเสถียรสูงมากกกก มีคุณสมบัติทนทาน เบา เอามาเป่าขึ้นรูปง่าย ทนกรดทนด่างได้ดี ทนความร้อนดี-ไม่ละลาย-แต่อาจจะบิดเสียรูปทรงไป ... จึงเป็นที่นิยมใช้กันทั่วโลก และได้รับการรับรองว่าปลอดภัยจากองค์กรทางอาหารทั่วโลก

ถ้าจะห่วงเรื่องว่ากล่องโฟมมันจะมีสารสไตรีน มันก็อาจมีได้บ้างเฉพาะที่หลงเหลือมากับการผลิต ซึ่งตามมาตรฐานการผลิตแล้ว เค้าก็ควบคุมกันให้มีน้อยมาก ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

ส่วนที่กลัวว่าเวลาใช้ๆ ไป จะมีสารสไตรีนออกมามั้ย มีงานวิจัยว่าถ้าเอาโฟมโพลีสไตรีนไปทำแก้วใส่น้ำร้อนๆ ก็จะมีสิทธิที่ทำลายพันธะทางเคมีให้สารสไตรีนโมโนเมอร์ออกมาได้ แต่พบว่าน้อยมากๆๆ เพียงแค่ประมาณ 1 ในพันเท่าของเกณฑ์ที่กำหนดเท่านั้น

บางคนบอกว่า เวลากล่องโฟมโดนน้ำมัน อย่างพวกน้ำมันปลา หรือแม้แต่หยดน้ำกลิ่นแมงดาสังเคราะห์ เห็นมันละลายเลย ... คือถูกแล้ว มันคือการละลายเข้าหากันของตัวโพลีสไตรีนเข้าไปอยู่ในกรดไขมันหรือเอสเทอร์พวกนั้น แต่ไม่ใช่การสลายพันธะเพื่อให้เกิดสไตรีนโมโนเมอร์อันตรายขึ้น

สุดท้ายคือ ผมงงๆ ว่าเค้าเอาข้อมูลจากไหนมาบอกว่ากินทุกวัน 10 ปี จะเสี่ยงเป็นมะเร็งขึ้น 6 เท่า ... ผมหาที่มาอ้างอิงของเค้าไม่ได้ ยกเว้นแต่ที่อ้างชื่อคุณหมอท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าท่านขายกล่องอาหารชานอ้อย อย่างนี้ก็เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้ความน่าเชื่อถือน้อยลง

ปล. ถ้าคิดแบบเดียวกัน อย่างนี้ผมก็ต้องกลัวกล่องอาหารชานอ้อยด้วยซิ ว่าเดี๋ยวกาวที่ใช้ขึ้นรูปกล่อง หรือสารฟอกขาวที่ใช้ฟอกชานอ้อย มันอาจจะตกค้างและออกมาในอาหาร กินไปเป็นสิบปีต้องอันตรายแน่เลย (ซึ่งมันก็ไม่ได้จะเป็นอย่างนั้นนะ)

ปล. หวังว่า ก.สาธารณสุข คงจะไม่ได้ออกประกาศห้ามใช้ขึ้นมาจริงๆ ไม่งั้นผู้ประกอบการกล่องโฟมภาชนะโฟมเค้าเดือดร้อนอย่างไม่ยุติธรรมแน่ๆ

____________________

 

ขอบคุณเนื้อหาจาก เฟซบุ๊ค Jessada Denduangboripant
ภาพประกอบจาก
istockphoto

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook