6 วิธีเอาตัวรอด เมื่อตกเรือ เรือล่ม จมน้ำ แม้ว่ายน้ำไม่เป็น

6 วิธีเอาตัวรอด เมื่อตกเรือ เรือล่ม จมน้ำ แม้ว่ายน้ำไม่เป็น

6 วิธีเอาตัวรอด เมื่อตกเรือ เรือล่ม จมน้ำ แม้ว่ายน้ำไม่เป็น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อถึงยามคับขันอย่างการตกน้ำ พลัดตกเรือ เรือล่ม หรือจมน้ำ หลายคนอาจควบคุมสติไม่ได้ แล้วยิ่งจมน้ำเร็วขึ้น ซึ่งเรามีเวลาในการช่วยชีวิตตัวเองไม่กี่นาทีเท่านั้น ดังนั้นหากคุณตั้งสติและช่วยเหลือตัวเองได้อย่างทันท่วงที โอกาสรอดชีวิตย่อมมีสูงตามไปด้วย

สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) และ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีช่วยเหลือตัวเองเมื่อเกิดอุบัติเหตุตกเรือ เรือล่ม หรือจมน้ำมาฝาก แม้ว่าคุณจะว่ายน้ำเป็นหรือไม่เป็นก็ตาม

วิธีเอาตัวรอด เมื่อตกเรือ เรือล่ม จมน้ำ แม้ว่ายน้ำไม่เป็น

  1. ตั้งสติ

เข้าใจว่าวินาทีที่เกิดเหตุ มักเป็นเหตุที่คาดฝัน และไม่มีสัญญาณบอกล่วงหน้าให้ได้เตรียมตัวเตรียมใจ แต่เมื่อรู้สึกว่าตัวเองตกลงไปในน้ำแล้ว สิ่งแรกที่ต้องมีคือ “สติ” ว่าเรากำลังอยู่ในน้ำ พยายามลืมตามองสิ่งรอบๆ หากมีอะไรที่ลอยได้ก็ให้พยายามเอื้อมไปเกาะไว้ก่อน พยายามมองหาแสงสว่างที่ผิวน้ำ

หากโดยสารอยู่บนเรือที่กำลังล่ม ให้รีบออกจากเรือให้เร็วที่สุด โดยว่ายน้ำให้ออกห่างจากเรือให้ได้มากที่สุด เพราะกระแสน้ำอาจดูดเราเข้าไปใต้ท้องเรือจนจมน้ำเสียชีวิตได้ หรือเรืออาจพลิกคว่ำมาทับตัวเราได้

  1. ลอยตัวในน้ำ ในกรณีที่ไม่ได้สวมเสื้อชูชีพ/เสื้อพยุงตัว

การว่ายน้ำเป็นสกิลอย่างหนึ่งที่ควรมีติดตัว ไม่ว่าจะว่ายน้ำเป็นหรือไม่ก็ตาม มีวิธีลอยตัวอยู่หลายแบบให้ได้ทำกัน

  • ลอยตัวแบบนอนหงาย ขาแขนเหยียดตรงเหมือนนอนอยู่บนที่นอน เงยหน้ายกคางเพื่อใช้ปากหายใจ
  • ลอยตัวด้วยท่าลูกหมาตกน้ำ แขนและขากวักน้ำเข้าหาตัวเองโดยสลับขาซ้ายขวา และย่อเหยียดเข่าซ้ายขวาสลับกับทิศทางของแขนและมือ เหมือนท่าที่หมาใช้ว่ายน้ำ
  • กางแขนกางขาเป็นรูปปลาดาว หากมองเห็นผิวน้ำ พยายามบังคับตัวเองให้ยืดแขนขากางออกโดยให้ใบหน้าหงายขนานไปกับผิวน้ำ อยู่นิ่งๆ ตัวจะลอยขึ้นผิวน้ำได้
  • ถ้ามองไม่เห็นอะไรเลย พยายามใช้แขนทั้งสองข้างกวาดน้ำรอบๆ ตัว ยืดขาตรงตีขา ถึงจะมองอะไรไม่เห็นแต่พยายามลืมตาไว้ก่อน ถ้ารู้สึกว่าตัวกำลังลอยในน้ำ หยุดขยับร่างกายแล้วทำท่าปลาดาวนอนหงาย เพื่อให้ร่างกายลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ
  1. ลอยตัวในน้ำ ในกรณีที่สวมเสื้อชูชีพ/เสื้อพยุงตัว

เสื้อชูชีพ/เสื้อพยุงตัว จะช่วยให้ร่างกายของเราลอยเหนือผิวน้ำได้ง่ายกว่าปกติ ขอเพียงอยู่นิ่งๆ แขนและมือเกาะเสื้อเอาไว้แน่นๆ อีกไม่นานร่างกายจะลอยขึ้นมาอยู่เหนือผิวน้ำได้แน่นอน

  1. ประคองตัว หลบหลีกสิ่งกีดขวาง

การลอยไปตามกระแสน้ำจะทำให้ร่างกายไม่เหนื่อยล้าจนเกินไป และมีโอกาสรอดได้มากกว่าการพยายามว่ายทวนกระแสน้ำ เมื่อมั่นใจว่าลอยตัวหรือลอยคอเหนือผิวน้ำเพื่อหายใจได้แล้ว ใช้แขนกวาดน้ำข้างตัวเพื่อประคองตัวให้ลอยน้ำอยู่ตลอด เหยียดขาตรงเพื่อคอบถีบสิ่งกีดขวาง พยายามไม่ลอยเข้าไปในกอพืชอย่าง กลุ่มผักตบชวา เพราะมีโอกาสที่รากและกิ่งของพืชจะพันขาเราได้ เมื่อเจอทางที่โล่งให้นอนหงาย ว่ายท่ากรรเชียง (เหยียดแขนตรง ยกแขนแนบหูเหนือไหล่ ลากแขนจากด้านหลังไปด้านข้าง กวาดน้ำจากด้านล่างขึ้นด้านบน สลับตีขารัวๆ) มุ่งหน้าไปในทิศทางที่คาดว่าใกล้ฝั่งมากที่สุด ถ้ามองไม่เห็นฝั่ง ให้ไปในที่โล่ง สลับกับการนอนหงายเหยียดแขนขาท่าปลาดาวหากเมื่อยหรือเหนื่อยล้าเกินไป แต่ระมัดระวังตัวด้วยการมองไปรอบๆ ตัวอยู่ตลอดเวลา แล้วคาดการณ์ดูว่าอยู่ในส่วนกลางน้ำ หรือใกล้ฝั่งมากแค่ไหน มีสิ่งกีดขวาดที่กำลังจะลอยไปชนหรือไม่

  1. มองหาความช่วยเหลือ

เมื่อลอยตัวในน้ำด้วยสติสัมปชัญญะครบถ้วนแล้ว ให้มองหาสิ่งที่จะช่วยเหลือเราได้ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ลอยเหนือที่เราสามารถเกาะได้ (ที่ไม่ใช่ผักตบชวาหรือพืชอื่นๆ ที่ลอยอยู่เหนือน้ำ) มองหาคน มองหาเรือลำอื่นๆ และตะโกนขอความช่วยเหลือเมื่อเห็นความน่าจะเป็นว่ามีเรืออยู่ใกล้ๆ หากมีนกหวีดที่เสื้อชูชีพ ควรเป่านกหวีดให้ส่งเสียงดังออกมา โดยเป่าให้เสียงผิดปกติไปจากเดิม คนจะได้สนใจ

  1. รอขอความช่วยเหลือ

หากพยายามมองหาสิ่งมีชีวิต มองหาเรือ มองหาทุกๆ อย่างแล้วไม่มีอะไรที่สามารถให้ความช่วยเหลือเราได้เลย ขอให้พยายามลอยตัวเหนือน้ำ ไหลตามน้ำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอสัญญาณที่ดี เช่น เห็นเรือ คน หรือเริ่มมองเห็นฝั่ง ค่อยพยายามตีขา ใช้แขนว่ายน้ำหรือตีกรรเชียงเข้าฝั่ง หรือไปในทิศทางที่คาดว่าจะเจอเรือหรือคนบนเรือได้มากที่สุด (หากเข้าใกล้เรือแล้ว ควรตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนบนเรือมากกว่าจะพยายามไหว้เข้าไปหาเรือด้วยตัวเอง)

ผู้ที่พบเห็นคนกำลังจะจมน้ำ ไม่ควรกระโดดลงไปช่วยด้วยตัวเอง เพราะผู้ที่จมน้ำจะมีอาการตกใจ กอดรัด และทำให้จมน้ำไปด้วยกันทั้งคู่ นอกจากนี้จะต้องประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของน้ำด้วย โดยเฉพาะในทะเลที่มีคลื่นลมแรง แต่ควรมองหาเสื้อชูชีพ ห่วงยาง หรืออุปกรณ์ใดๆ ที่ให้เขาเกาะเพื่อลอยตัวในน้ำได้ดียิ่งขึ้น มองหาเชือกหรือกิ่งไม้ยื่นให้คนนั้นเกาะแล้วดึงเข้ามาหาฝั่งหรือดึงเข้ามาใกล้เรือ แล้วตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ บนเรือเพิ่มเติม หรือหาอยู่คนเดียว มองหาจังหวะที่ผู้ที่อยู่ในน้ำเข้าใกล้ตัวเราเองมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วค่อยดึงตัวขึ้นเรือหรือลากตัวขึ้นฝั่ง

อย่างไรก็ตาม ก่อนขึ้นเรือ ควรเลือกสวมเสื้อผ้าน้ำหนักเบา มีสีสันสดใสหรือสว่างตาเพื่อมองหาได้ง่ายเมื่อตกน้ำ เรียนรู้วิธีว่ายน้ำ หรือลอยตัวในน้ำ รวมถึงสวมเสื้อชูชีพหรือเสื้อพยุงตัวทุกครั้งที่ลงเรือ ไม่ประมาท และมีสติอยู่ตลอดเวลา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook