6 อาหารเพิ่มการขับถ่าย สำหรับคนไม่ชอบกินผัก-ผลไม้

6 อาหารเพิ่มการขับถ่าย สำหรับคนไม่ชอบกินผัก-ผลไม้

6 อาหารเพิ่มการขับถ่าย สำหรับคนไม่ชอบกินผัก-ผลไม้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายคนอาจเคยประสบปัญหาอึดอัดท้องเพราะท้องผูก ไม่ยอมถ่าย และพยายามหาวิธี หรืออาหารใดๆ ที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยรับประทานผักและผลไม้ ซึ่งทำให้ร่างกายได้รับกากใยอาหารไม่มากเพียงพอ จึงอาจประสบปัญหาท้องผูกได้บ่อยๆ 

พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือ หมอผิง ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท จากเพจ Pleasehealth Books แนะนำอาหารที่ช่วยระบายท้อง อีกทั้งยังช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ สำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบรับประทานผักผลไม้มาฝาก

6 อาหารเพิ่มการขับถ่าย สำหรับคนไม่ชอบกินผัก-ผลไม้

  1. ถั่วพิสตาชิโอ

ถั่วพิสตาชิโอมีทั้งโปรตีนดี ไขมันดี และเส้นใยอาหารที่ดีต่อระบบขับถ่าย โดยถั่วพิสตาชิโอ 1 ถ้วย ให้กากใยอาหารราว 13 กรัม

  1. ควินัว

สามารถนำควินัวมาหุงผสมกับข้าวเพื่อช่วยเพิ่มกากใยอาหารให้กับร่างกายได้ โดยควินัว 1 ถ้วย จะให้กากใยอาหารราว 5 กรัม

  1. บาร์เลย์

สามารถผสมบาร์เลย์ลงไปหุงพร้อมกันกับข้าวได้ เพิ่มความหนึบหนับ และยังช่วยเพิ่มกากใยอาหารให้กับร่างกายได้ 6 กรัม ต่อบาร์เลย์ 1 ถ้วยอีกด้วย

  1. ถั่วแระญี่ปุ่น

ของว่างประเภทถั่วชนิดนี้เป็นที่โปรดปรานของใครหลายคน สามารถกินเล่นเป็นอาหารว่างระหว่างวันได้ตามที่ต้องการ ถั่วแระญี่ปุ่น 1 ถ้วย ให้กากใยอาหาร 8 กรัมเลยทีเดียว แนะนำให้ต้มสุกพร้อมเปลือกด้วยนะ

  1. เมล็ดเจีย

อีกหนึ่งธัญพืชที่ขึ้นชื่อว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ด เพราะนอกจากประโยชน์จากคุณค่าทางสารอาหารแล้ว ยังสามารถเพิ่มกากใยอาหารให้กับร่างกายได้ถึง 5 กรัมต่อเมล็ดเจีย 1 ถ้วย สามารถนำไปผสมกับเครื่องดื่ม นม หรือโยเกิร์ตเพื่อเพิ่มความอร่อยได้ด้วย

  1. อะโวคาโด

ผลไม้ชนิดนี้คนที่ไม่ชอบผักและผลไม้หลายคนสามารถกินได้เพราะรสชาติหอมมันคล้ายเนยแบบไม่หวานไม่เค็ม สามารถนำมาบดทาบนขนมปังแทนเนยได้เลย โดยอะโวคาโด ½ ลูก ให้กากใยอาหาร 5 กรัม

 

สำหรับคนที่ไม่มีปัญหาในการรับประทานผักและผลไม้ ยังคงแนะนำให้รับประทานผักและผลไม้ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวันอยู่ นอกจากนี้เรายังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นด้วยการดื่มน้ำเยอะๆ และออกกำลังกายเป็นประจำ

หากมีความผิดปกติในเรื่องของการขับถ่ายบ่อยๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook