แพทย์เตือน ภาวะ AVF เสียงดังในหู สู่โรคทางสมอง
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/he/0/ud/6/31073/ear.jpgแพทย์เตือน ภาวะ AVF เสียงดังในหู สู่โรคทางสมอง

    แพทย์เตือน ภาวะ AVF เสียงดังในหู สู่โรคทางสมอง

    2021-11-02T15:53:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา เผยเสียงฟู่ที่ได้ยินในหูเป็นอาการโรคทางสมองอย่างหนึ่งที่เกิดจากภาวะความผิดปกติของหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำ (Dural arteriovenous fistulas:DAVF) ควรได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

    ภาวะ AVF คืออะไร

    นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ภาวะAVF หรือภาวะความผิดปกติของหลอดเลือดแดงกับโพรงหลอดเลือดดำบริเวณเยื่อหุ้มสมอง อาจส่งผลต่อการระบายเลือดกลับของสมองจะขึ้นกับตำแหน่งและความผิดปกติของโพรงหลอดเลือดดำ 

    ภาวะนี้มีการแบ่งเป็น 2 ลักษณะตามการรบกวนการระบายเลือดกลับของสมอง ได้แก่ ชนิดไม่รุนแรงและชนิดรุนแรง ซึ่งชนิดรุนแรงจะเป็นชนิดที่รบกวนการระบายเลือดกลับของสมองโดยจะส่งผลก่อให้เกิดภาวะความดันในหลอดเลือดดำสมองสูงเนื่องจากไม่สามารถระบายเลือดออกได้ จึงทำให้เกิดภาวะสมองขาดเลือดและภาวะเลือดออกตามมาในที่สุด

    อาการของภาวะ AVF

    นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการแสดงของภาวะชนิดไม่รุนแรง จะเกิดขึ้นตามตำแหน่งของหลอดเลือดดำที่ถูกรบกวน เช่น 

    • ผู้ป่วยมีภาวะเสียงดังรบกวนในหูตามจังหวะชีพจร ซึ่งเกิดจากการรบกวนโพรงหลอดเลือดดำที่ฐานกะโหลกบริเวณหู 
    • อาการต่อมาที่พบได้บ่อยคือ เสียงฟู่ สัมผัสได้บริเวณต่างๆ รอบศีรษะ
    • พบภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง เป็นอีกหนึ่งภาวะที่สามารถพบได้ เกิดจากการดูดกลับของน้ำเลี้ยงสมองส่วนใหญ่ต้องผ่านโพรงหลอดเลือดดำ 

    ภาวะชนิดรุนแรง อาการส่วนใหญ่จะเกิดจากภาวะความดันในหลอดเลือดดำสมองสูง ได้แก่ 

    • ความจำเสื่อม 
    • พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง 
    • เคลื่อนไหวผิดปกติ
    • แขนขาอ่อนแรง 

    สาเหตุการเกิดภาวะ AVF

    สาเหตุการเกิดโรคมักเกิดตามหลังภาวะโพรงหลอดเลือดดำในสมองอุดตัน เป็นภาวะที่พบมากในผู้ป่วยเพศหญิง อาจเกิดตามหลังอุบัติเหตุทางศีรษะและความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด แต่บางครั้งก็ไม่สามารถหาสาเหตุได้ชัดเจน 

    การวินิจฉัยภาวะ AVF

    การวินิจฉัยผู้ป่วยทำได้โดยแพทย์ส่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบฉีดสี หรือหากต้องการข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้นแพทย์อาจพิจารณาผู้ป่วยส่งตรวจเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 

    ทั้งนี้ผู้ป่วยควรได้รับการดูแลเบื้องต้นจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทโดยตรง เนื่องจากความซับซ้อนของสาเหตุการเกิดโรค จึงทำให้การป้องกันเป็นไปได้ยาก 

    อย่างไรก็ตามการดูแลและตรวจสุขภาพเป็นประจำรวมถึงการรักษาโรคประจำตัว เช่น ความดันสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง และหลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถช่วยลดความเสี่ยงการเกิดภาวะโรคนี้ได้ ปัจจุบันสถาบันประสาทวิทยามีการพัฒนา การรักษาโดยวิธีการใช้รังสีร่วมรักษาและการรักษาผ่านทางสายสวนหลอดเลือด โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดสมองทำให้การดูแลผู้ป่วยมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น