
แพทย์แผนไทยแนะนำ ช่วงฤดูหนาว ควรกินสมุนไพรรสเปรี้ยว เผ็ดร้อน เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ มะกรูด มะนาว หอม กระเทียม เป็นต้น ช่วยต้านหวัด กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และปรับสมดุลในร่างกายได้
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวหลายพื้นที่ของประเทศไทย มีสภาพภูมิอากาศค่อนข้างเย็นลง ส่งผลกระทบต่อความสมดุลภายในร่างกาย ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคระบบทางเดินหายใจ
ตามหลักและทฤษฎีของศาสตร์การแพทย์แผนไทย มีการระบุความชุกของการเกิดโรคในช่วงฤดูหนาวว่าเมื่อสภาพภูมิอากาศลดต่ำลง มักจะส่งผลให้ธาตุน้ำในร่างกายเกิดความแปรปรวนหรือเสียสมดุลได้ง่าย ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือร่างกายไม่สามารถปรับตัวตามสภาพอากาศได้ทันจะป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับธาตุน้ำ เช่น หวัด น้ำมูกไหล ภูมิแพ้อากาศ หากติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำ จะทำให้อาการของโรครุนแรงมากยิ่งขึ้น และผลจากการแปรปรวนของธาตุน้ำ จะทำให้เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวก เกิดอาการไอ จาม คัดจมูก ท้องอืดท้องเฟ้อ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ส่งผลต่อธาตุไฟในร่างกายเสียสมดุลไปด้วย เกิดอาการไข้ เจ็บคอหรือเกิดอาการอักเสบตามมา
การสร้างเกราะป้องกันความเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นช่วงฤดูหนาว ควรเน้นการบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบของสมุนไพรรสเปรี้ยว รสขม และรสเผ็ดร้อน เนื่องจาก
ด้วยเหตุนี้เอง สมุนไพรรสเปรี้ยว รสขม และรสเผ็ดร้อน จึงช่วยเสริมเกราะป้องกันป่วยช่วงฤดูหนาวได้ เมนูอาหารที่แนะนำ ได้แก่ แกงส้ม ต้มยำ ยำผักสมุนไพร น้ำพริกผักลวก ไก่ผัดขิง ฯลฯ ส่วนน้ำสมุนไพร ได้แก่ น้ำขิง น้ำตะไคร้ น้ำกระเจี๊ยบ และน้ำอัญชันมะนาว
นอกจากการกินสมุนไพรเหล่านี้แล้ว ควรรักษาสุขภาพของตนเองให้ดี รักษาความอบอุ่นของร่างกาย ด้วยการสวมเสื้อหนาๆ หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่หนาวเย็น รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว นอนพักผ่อนวันละ 6-8 ชั่วโมง และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ