"อัมพฤกษ์ อัมพาต" ฟื้นฟูถูกวิธี ช่วยลดความพิการได้
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/he/0/ud/2/11105/wheelchair.jpg"อัมพฤกษ์ อัมพาต" ฟื้นฟูถูกวิธี ช่วยลดความพิการได้

    "อัมพฤกษ์ อัมพาต" ฟื้นฟูถูกวิธี ช่วยลดความพิการได้

    2018-05-23T18:30:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์เตือนให้ประชาชนตื่นตัวป้องกัน หากพบอาการแขน ขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่งสับสนพูดลำบากพูดไม่รู้เรื่องมองเห็นลดลงมีปัญหาการเดินมึนงงให้รีบไปพบแพทย์ด่วนที่สุดใน 3 ชั่วโมงครึ่ง เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคอัมพฤกษ์ - อัมพาต

    นายแพทย์สมศักดิ์  อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกกำหนดให้ วันที่ 24 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันอัมพฤกษ์ อัมพาตโลก หรือ “วันหลอดเลือดสมอง” เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวตระหนักถึงความสำคัญของโรคดังกล่าว หากประชาชนรู้จักวิธีดูแลตนเองและหมั่นสำรวจความผิดปกติของร่างกายอยู่เสมอจะสามารถป้องกันและลดความรุนแรงของโรคได้

     

    ปัจจัยเสี่ยง โรคหลอดเลือดสมอง

    • ความดันโลหิตสูง

    • เบาหวาน

    • ไขมันในเลือดสูง

    • มีญาติสายตรงป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

    • ขาดการออกกำลังกาย

    • น้ำหนักเกิน

    • สูบบุหรี่

     

    สัญญาณอันตราย อาการเริ่มแรกของโรคหลอดเลือดสมอง

    • แขน ขาอ่อนแรงซีกเดียวของร่างกาย

    • สับสน พูดลำบาก พูดไม่รู้เรื่อง

    • ตามองเห็นลดลง 1 หรือทั้ง 2 ข้าง

    • มีปัญหาการเดิน มึนงง

    อาการเหล่านี้มักเกิดฉับพลันให้รีบมาพบแพทย์ด่วนที่สุดภายใน 3 ชั่วโมงครึ่ง จะรักษาชีวิตและฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติหรือใกล้เคียงได้มากที่สุด

     

    วิธีลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง

    1. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

    2. หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม ไขมันสูง

    3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

    4. งดเครื่องดื่มมึนเมา เลี่ยงสูบบุหรี่

    5. ตรวจสุขภาพประจำปี

     

    แพทย์หญิงไพรัตน์  แสงดิษฐ  ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาที่สำคัญของผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาตคือการที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้จำเป็นต้องรักษาหรือฟื้นฟูด้วยวิธีต่างๆ เพื่อให้ร่างกายมีสภาพที่ดีขึ้นสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น

    สำหรับวิธีการฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตควรทำความเข้าใจร่วมกันระหว่างแพทย์ผู้ป่วยและผู้ดูแลเพื่อการดูแลได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เนื่องจากเป็นการฟื้นฟูผู้ป่วยที่เจ็บป่วยเรื้อรังหรือฉับพลันเพื่อลดความพิการหรือป้องกันความพิการให้ได้มากที่สุดสามารถใช้ชีวิตให้เป็นปกติและมีคุณภาพชีวิตที่ดี สำหรับการวินิจฉัยโรคว่าคนไข้อ่อนแรงจากอัมพฤกษ์ อัมพาตหรือไม่ หรือเป็นที่กล้ามเนื้อและกระดูก แพทย์จะซักประวัติและอาจเอกซเรย์สมองร่วมด้วย หากพบว่าเป็นโรคดังกล่าวจะส่งให้แพทย์ดูแลอาการให้สภาพคงที่จากนั้นส่งไปยังศูนย์ฟื้นฟูเพื่อกายภาพบำบัดตามลำดับ

    ดังนั้นประชาชนจึงควรมีความรู้เบื้อต้นในการป้องกันการเกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต และการทราบถึงอาการเบื้องต้นเพื่อการส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้ทันเวลา จะยิ่งมีโอกาสสูงมากในการเยียวยาอาการให้ดีขึ้น เช่น การให้ยาละลายลิ่มเลือดในภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ และการดูแลที่เหมาะสมในผู้ป่วยที่มีเส้นเลือดในสมองแตกจะช่วยลดอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อน ตลอดจนการลดอัตราการเสียชีวิตได้

    ขอขอบคุณ

    ข้อมูล :กรมการแพทย์

    ภาพ :iStock