12 ประโยชน์ดีๆ จาก “โสม” ราชาแห่งสมุนไพร ที่ไม่ได้เหมาะแค่กับคนชรา

12 ประโยชน์ดีๆ จาก “โสม” ราชาแห่งสมุนไพร ที่ไม่ได้เหมาะแค่กับคนชรา

12 ประโยชน์ดีๆ จาก “โสม” ราชาแห่งสมุนไพร ที่ไม่ได้เหมาะแค่กับคนชรา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โสมเกาหลี สมุนไพรบำรุงร่างกายชั้นดีที่ได้ขนานนามว่า “ราชาแห่งสมุนไพร” เพราะเพียงปลายรากเล็กๆ แต่กลับมากด้วยคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงสมอง บำรุงเลือด เพิ่มพลัง เพิ่มสมรรถภาพทางเพศสำหรับผู้ชาย และอีกมากมายตามที่เลื่องลือกันมา แต่ด้วยค่านิยมผิดๆ ที่คิดว่าโสมเอาไว้บำรุงคนแก่เท่านั้น ทำให้คนรุ่นใหม่มองข้ามประโยชน์ดีๆ จากสมุนไพรชนิดนี้ไป เราเลยจะมาไล่เรียงให้ดูว่า โสมมีดีอะไรบ้าง กับ 12 คุณประโยชน์ของโสม ที่บำรุงจากภายใน เห็นผลถึงภายนอก เหมาะกับทุกเพศทุกวัย

 

  1. โสมช่วยลดการปวดประจำเดือน

ประโยชน์ในเรื่องนี้เอาใจสาวๆ ไปได้เลย เพราะผู้หญิงที่ต้องเจอภาวะปวดประจำเดือนทุกเดือนนี้มันช่างทรมานจริงๆ โดยมีนักวิจัยคิดค้นและยืนยันมาแล้วว่า โสมมีฤทธิ์ช่วยปรับฮอร์โมนในผู้หญิงช่วยลดอาการปวดประจำเดือน และยังช่วยปรับฮอร์โมนสำหรับผู้หญิงที่กำลังเข้าวัยทองอีกด้วย

 

  1. ช่วยลดอาการผมร่วง ป้องกันภาวะผมบางและหัวล้าน

โสมมีส่วนช่วยบำรุงเลือด ทำให้ร่างการสร้างเซลล์ PAPILLA ได้มากขึ้น ซึ่งเซลล์ PAPILLA เป็นเซลล์ที่ช่วยให้อายุของเส้นผมอยู่ได้นานขึ้น ไม่หลุดร่วงง่าย และยังช่วยให้ผมที่ขึ้นใหม่แข็งแรง ป้องกันการเกิดภาวะผมบาง ศีรษะล้าน เสียบุคลิกภาพ

 

  1. ช่วยบำรุงผิว ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

เนื่องจากโสมมีสาร Phytonutrients และสาร Anti-Oxidants จึงช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระต่างๆ ที่จะมาทำลายผิวให้เกิดริ้วรอย อีกทั้งยังช่วยดูแลคอลลาเจนในผิวชั้นกลางทำให้ผิวหน้าดูกระชับเต่งตึง แถมยังช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออกไป พร้อมเผยผิวใหม่ที่สดใสกว่าเดิมออกมา

 

 

 

  1. ช่วยลดปัญหารอบดวงตา

สาวๆ คนไหนกำลังเจอปัญหานี้ ใช้อายเจลหมดไปหลายกระปุกก็ยังไม่ช่วย ต้องมาลองใช้โสมกันดู เพราะโสมมีสาร Saponin ที่ช่วยกระตุ้นเซลล์ใต้ผิวหนังรอบดวงตาให้แข็งแรงขึ้น จึงสามารถช่วยแก้ปัญหารอยดำหมองคล้ำใต้ดวงตา ลดอาการบวมของถุงใต้ตา ช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวรอบดวงตาให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าเดิม

 

  1. ยับยั้งเซลล์มะเร็งรังไข่, มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งปอด

Ginsenosides ในโสมมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งในรังไข่ เซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก และเซลล์มะเร็งปอด ได้เป็นอย่างดี จากการวิจัยของนักวิทยาสาสตร์ค้นพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งทั้ง 3 กลุ่มนี้ที่ได้รับประทานโสมอย่างต่อเนื่อง จะสามารถประคองอาการของโรค และมีชีวิตอยู่ได้ยาวนานกว่า กลุ่มผู้ป่วยที่ไม่ได้รับประทานโสม

 

  1. ช่วยรักษาและป้องกัน โรคเบาหวาน

โสมมีส่วนช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคาร์โบไฮเดรตได้ช้าลง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเซลล์ที่ทำหน้าที่นำน้ำตาลกลูโคสในร่างกายไปใช้งานได้มากขึ้น อีกทั้งไปกระตุ้นให้ตับอ่อนสามารถเพิ่มการหลั่งของอินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ช่วยรักษาโรคและป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี

 

  1. ช่วยในการลดน้ำหนัก

โสมเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักและไขมันได้ โดยการที่โสมช่วยปรับสภาพให้ร่างกายดูดซึมคาร์โบไฮเดรตได้ช้าลง และกระตุ้นให้ร่างกายนำน้ำตาลไปใช้งานได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยลดการสะสมไขมันได้เป็นอย่างดี  อีกทั้งยังเร่งกระบวนการเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย

 

  1. ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย

อย่างที่เราคุ้นหูกันดีว่าโสมเป็นยาโดปชั้นดีของเหล่าสุภาพบุรุษ เพราะโสมสามารถไปเพิ่มปริมาณไนตริกออกไซในร่างกาย ทำให้สามารถรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายได้เป็นอย่างดี

 

  1. ลดอาการความดันโลหิตสูงและต่ำ

โสมมีส่วนช่วยบำรุงเลือดและปรับสมดุลต่างๆ ในร่างกาย ร่วมถึงปรับการหมุนเวียนของเลือดในร่างกายด้วย เพียงมีข้อพึงระวังในการใช้โสมของผู้ป่วยความดันโลหิตอยู่นิดนึงว่า ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงควรรับประทานโสมขาว และผู้ป่วยความดันโลหิตต่ำควรรับประทานโสมแดง เพราะโสมทั้ง 2 ชนิดนี้ออกฤทธิ์แตกต่างกัน

 

  1. ลดความเครียด แก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับ

Ginsenosides ในโสมจะช่วยทำให้ระบบประสาทส่วนกลางตื่นตัวทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งช่วยคลายความปวดเมื่อย ซึ่งจะช่วยทำให้หลับสนิท และตื่นมาไม่งัวเงีย กระปรี้กระเปร่า อีกทั้งโสมจะช่วยต้านความเครียด เพราะมีสาร Adaptogens จะช่วยให้ร่างกายให้ผ่อนคลาย ปรับสภาวะจิตใจให้คงที่ ลดภาวะโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย

 

  1. ช่วยบำรุงสมองและระบบความจำ

ในส่วนข้อนี้เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องทำงานใช้ความคิดทั้งวัน หรือเด็กนักเรียน นักศึกษาที่กำลังเตรียมตัวสอบ เพราะโสมมี Ginsenosides ที่จะช่วยเสริมการทำงานของสารสื่อประสาท ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเซลล์ประสาทของระบบประสาทให้ทำงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ปรับกระบวนการคิดและวิเคราะห์ข้อมูลให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

 

  1. ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ลดอาการภูมิแพ้ต่างๆ

โสมช่วยปรับสภาพร่างกายให้อยู่ในภาวะสมดุล จึงทำให้สามารถป้องการการติดเชื้อต่างๆ ได้ดี ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ต่างๆ ร่างกายอ่อนแอ เป็นหวัดง่าย ไอจามบ่อยๆ  หากได้รับประทานโสมจะสามารถลดอาการเหล่านี้ลงได้อย่างดีเลยทีเดียว

 

เลือกทานโสมแบบไหนดี?

ปัจจุบัน โสมที่เรียกได้ว่าเป็นโสมที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก คือ โสมเกาหลี ซึ่งมีให้เลือกนำมารับประทาน 2 แบบ ได้แก่ โสมแดง และโสมขาว โสมทั้งสองชื่อนี้เป็นโสมชนิดเดียวกัน หากแต่แตกต่างกันเพียงวิธีนำมาถนอมอาหารให้เก็บรักษาไว้ทานกันได้นานๆ โสมแดงได้มาจากการนำโสมสดไปนึ่งด้วยไอน้ำเดือดราว 2-3 ชั่วโมง จนโสมแห้ง แข็ง และมีสีน้ำตาลเข้ม ส่วนโสมขาวได้มาจากการตากแห้ง จะมีลักษณะสีขาวซีด และตามปกติแล้วโสมขาวจะมีราคาถูกกว่าโสมแดง

โสมขาวมีฤทธิ์เย็น จะช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยบำรุงระบบการทำงานของสมอง ประสาท ระบบเลือด จึงทำให้เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่มีความดันโลหิตสูง แต่โสมแดงมีฤทธิ์ร้อน คนเกาหลีจึงนิยมทานเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย แต่สำหรับผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเรา โสมขาวจะเหมาะสมกว่า

 

โสมแดง โสมขาว คือโสมที่ผ่านกระบวนการถนอมอาหารเพื่อเก็บไว้ทานได้ในระยะเวลานานๆ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีส่วนผสมของโสมอีกมากมาย แต่ส่วนใหญ่มักทำโสมแห้งมาปรุงอาหารประเภทต้ม ตุ๋น เช่น ไก้ตุ๋นโสมของเกาหลี แต่สำหรับใครที่อยากลองทานโสมสด สามารถหาซื้อได้ในประเทศไทยไม่ต้องบินไกลถึงเกาหลี เพราะมีจำหน่ายอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตของห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ เรียบร้อยแล้ว สามารถนำมาต้มเป็นส่วนประกอบอย่างหนึ่งในอาหารได้เช่นกัน

 

ข้อควรระวังในการทานโสม

แม้ว่าโสมจะมีความปลอดภัยต่อร่างกายสูง แต่หากทานโสมแล้วเกิดอาการผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะ มีผื่นแดง หรืออาการอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที นอกจากนี้การเลือกชนิดของโสมก็มีความจำเป็น ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงไม่ควรทานโสมแดง เพราะจะยิ่งเพิ่มความร้อน และความดันโลหิตให้กับร่างกายได้ ควรเลือกทานเป็นโสมขาวที่มีฤทธิ์เย็น ช่วยลดความดันโลหิตจะดีกว่า และหญิงมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานโสมทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโสมชนิดใดก็ตาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook