คุณกำลังเสี่ยง “กระดูกพรุน” หรือไม่ ?

คุณกำลังเสี่ยง “กระดูกพรุน” หรือไม่ ?

คุณกำลังเสี่ยง “กระดูกพรุน” หรือไม่ ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนไทยป่วยโรคกระดูกพรุนกว่า 1 ล้านคน คุณเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ?


กระดูกพรุน คืออะไร ?

กระดูกพรุน คือ ภาวะที่ร่างกายมีกระดูกบางลง จนเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า อาจทำให้รู้สึกปวดหลัง โดยอาการจะรุนแรงมากขึ้นเมื่อกระดูกสันหลังยุบตัว ทำให้ผู้ป่วยหลังค่อม และเตี้ยลง

นอกจากกระดูกสันหลังแล้ว ภาวะกระดูกพรุนยังอาจเกิดขึ้นได้กับกระดูกส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย เช่น ข้อมือ สะโพก เป็นต้น


สาเหตุของภาวะกระดูกพรุน

ปกติร่างกายจะสะสมแคลเซียมเอาไว้ในกระดูก เพื่อให้มวลกระดูกหนาแน่นขึ้น 

กระดูกข้อเข่า จะมีมวลกระดูดหนาแน่นที่สุดช่วงอายุ 30 ปี และจะยังคงที่ไปจนถึงช่วงอายุราว 30-40 ปี หลังจากนั้นมวลกระดูกจะค่อย ๆ ลดลงทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน มวลกระดูกจะลดลงอย่างรวดเร็ว และเมื่ออายุย่างเข้าวัย 65 ปี มวลกระดูกจะลดต่ำลง จนถึงจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหัก


อาการของภาวะกระดุกพรุน

อ. นพ.ชวรัฐ  จรุงวิทยากร สาขาวิชาข้อสะโพกและข้อเข่า ภาควิชาออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลเอาไว้ในรายการ Three Minutes Talk ของ Rama Channel ว่า ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนส่วนใหญ่จะไม่มีอาการใด ๆ มีโอกาสเห็นอาการอื่น ๆ ยากมาก แต่ถ้าพบผู้ป่วยที่ล้มเบา ๆ กระแทกเบา ๆ แต่เกิดกระดูกหักได้ อาจสงสัยได้ว่าผู้ป่วยอยู่ในภาวะกระดูกพรุนหรือไม่

ผู้ป่วย หรือผู้ที่สงสัยว่าตัวเองมีภาวะกระดูกพรุนหรือไม่ สามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองได้ ด้วยการตรวจมวลกระดูก 2 ส่วน หรือ กระดูกสันหลัง และกระดูกสะโพก เพื่อตรวจหาความแข็งแรง และเปรียบเทียบความแข็งแรงของมวลกระดูกของเรา กับคนปกติทั่วไป ว่ามีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน 


ปัจจัยเสี่ยงภาวะกระดูกพรุน

  • ดื่มแอลกอฮอล์

  • สูบบุหรี่

  • ขาดการออกกำลังกาย

  • ขาดแคลเซียมที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

ถ้าคุณมีปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว คุณอาจกำลังเสี่ยงภาวะกระดูกพรุนได้ในอนาคต


วิธีป้องกันภาวะกระดูกพรุน

เราควรสะสมแคลเซียมเอาไว้ในกระดูกให้มากที่สุด ตั้งแต่ในวัยเด็ก และต่อเนื่องไปจนถึงวัย 30 ปี 

  1. ดื่มนม

  2. รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมมาก ได้แก่ ผักใบเขียว เช่น ผักคะน้า บร็อคโคลี่ ปลาตัวเล็ก ๆ ที่รับประทานได้พร้อมกระดูก กุ้งแห้ง เต้าหู้แข็ง งาดำ กะปิ เป็นต้น

  3. สามารถรับประทานแคลเซียม และวิตามินดีเสริมได้ หากได้รับจากอาหารไม่เพียงพอ เพื่อรักษาสภาพของกระดูกที่ดีเอาไว้ และลดความเสี่ยงต่อกระดูกหัก

  4. ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง จะช่วยลดการสลายของแคลเซียมจากกระดูกได้


การป้องกันภาวะกระดูกหัก

เราสามารถหลีกเลี่ยงภาวะกระดูกหัก ทั้งกับตัวเอง และคนในบ้านได้ ด้วยการงดปัจจัยเสี่ยง เช่น งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่วางของระเกะระกะภายในบ้าน เพื่อป้องกันการสะดุดหกล้ม และสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองภาวะกระดูกพรุนได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook