วิ่ง VS เดินเร็ว แบบไหนเผาผลาญพลังงานได้มากกว่ากัน?

วิ่ง VS เดินเร็ว แบบไหนเผาผลาญพลังงานได้มากกว่ากัน?

วิ่ง VS เดินเร็ว แบบไหนเผาผลาญพลังงานได้มากกว่ากัน?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นเรื่องดีที่ตอนนี้กระแสวิ่งยังคงคึกคัก และยังไม่มีวี่แววว่าจะลดกระแสลง ส่งผลให้ประชากรไทยมากมายที่มีรูปร่างกระชับส่วน และมาพร้อมๆ กับสุขภาพที่แข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีประชากรอีกกลุ่มหนึ่ง (ที่จำนวนไม่น้อยไปกว่ากลุ่มแรก) ที่ไม่ชอบออกกำลังกายด้วยการวิ่ง (เผลอๆ จะไม่ชอบออกกำลังกายเลยด้วยซ้ำ) แทนที่จะวิ่ง เลยเลือกที่จะเดิน หรือเดินเร็วๆ แทน จริงๆ แล้ว 2 วิธีนี้ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันหรือไม่?

ข้อมูลจากเฟซบุค Chor Chonlawat เทรนเนอร์ประจำ Playground Fitness จังหวัดเชียงใหม่ ยกตัวอย่างง่ายๆ เอาไว้ว่า หากมีนายเอ นายบี นายซี น้ำหนักเท่ากันที่ 72 กิโลกรัม วิ่งและเดินในระยะทางเท่ากันที่ 1 ไมล์ หรือ1.6 กิโลเมตร พลังงานที่ทุกคนเผาผลาญได้ มีดังนี้

นายเอ วิ่งด้วย Pace 3.4 (ความเร็วในการวิ่ง 3.4 นาทีต่อกิโลเมตร) เข้าเส้นชัยในเวลา 18 นาที เผาผลาญพลังงานได้ 409 Kcal

นายบี วิ่งด้วยความเร็ว Pace 6 ซึ่งวิ่งด้วยความเร็วที่ช้ากว่านายเอ เข้าเส้นชัยในเวลา 30 นาที เผาผลาญพลังงานได้ 378 KCal

นายซี วิ่งด้วยความเร็ว Pace 8 (หรืออาจจะเรียกว่าเดินเร็ว) เข้าเส้นชัยในเวลา 40 นาที เผาผลาญพลังงานได้ 319 Kcal

 

แม้ว่านายเอจะใช้เวลาวิ่งน้อยกว่านายซีมาก เพราะนายเอวิ่งเร็วกว่านายซีถึง 2 เท่า แต่ผลปรากฏว่านายเอเผาผลาญพลังงานมากกว่านายซีแค่ 90 Kcal เท่านั้น

 

ปัจจัยที่ทำให้การออกกำลังกายเผาผลาญพลังงานมาก

หลายคนอาจคิดว่าการวิ่งเร็วๆ จะช่วยเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นได้มากๆ จริงๆ การวิ่งเร็วจะทำให้เราใช้เวลาน้อยกว่าเดิม เราจะมีเวลาในการเผาผลาญพลังงานมากขึ้นมากกว่า แต่จริงๆ แล้วปัจจัยสำคัญที่ช่วยเผาผลาญพลังงานมากขึ้น อยู่ที่ปัจจัยอื่นมากกว่า นั่นคือ

- ระยะทาง ยิ่งวิ่ง/เดินเยอะ ยิ่งเผาผลาญพลังงานได้มาก

- น้ำหนักตัว ยิ่งน้ำหนักตัวมาก ก็ยิ่งเผาผลาญพลังงานได้มาก

ส่วนปัจจัยที่มีผลในการเผาผลาญพลังงานน้อยกว่าเพื่อน คือ เวลา และความเหนื่อยที่ใช้ในการวิ่ง หรือเดินมากกว่า

 

ดังนั้น จึงได้ข้อสรุปที่ว่า หากอยากออกกำลังกายเพื่อการเผาผลาญพลังงานจริงๆ สามารถเดินเร็ว (เร็วขนาดที่เหนื่อยหอบเบาๆ พูดเป็นประโยคสั้นๆ ได้เท่านั้น) แทนการวิ่งเร็วๆ ได้ อาจจะใช้เวลามากกว่าเพื่อให้ได้ระยะทางเท่ากัน แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครที่ไม่ชอบวิ่ง หรือน้ำหนักมากเกินกว่าที่จะวิ่งไหว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook