สาวๆ พึงรู้! นี่แหละ อันตรายจากการไม่ใช้ครีมกันแดด

สาวๆ พึงรู้! นี่แหละ อันตรายจากการไม่ใช้ครีมกันแดด

สาวๆ พึงรู้! นี่แหละ อันตรายจากการไม่ใช้ครีมกันแดด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แสงแดดมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เป็นแหล่งของวิตามินดี ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น โดยแคลเซียมจะทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ตามปกติและเสริมสร้างกระดูกเพื่อการเจริญเติบโต อย่างไรก็ตามแม้แสงแดดจะมีประโยชน์ต่อคนเรา แต่ในแสงแดดประกอบด้วยรังสีที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ได้แก่ รังสียูวี หรือรังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพผิว หากได้รับแสงแดดมากเกินไป ก็อาจจะก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ดังนั้นเพื่อป้องกันผิวหนังสัมผัสแสงแดด เราจึงควรใช้ครีมกันแดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่กำลังอาบแดด และหากเราละเลยครีมกันแดด เราจะต้องเจอกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้

ผิวสีแทน

ผิวหนังของคนเราชั้นที่ตื้นที่สุดคือ ชั้นหนังกำพร้าทำหน้าที่ปกป้องเราจากแสงแดด เมื่อสัมผัสกับรังสียูสี เซลล์ส่วนล่างของหนังกำพร้าจะดันขึ้นข้างบน เพื่อทำให้ผิวหนาขึ้นและแข็งกระด้าง เซลล์บางส่วนในชั้นหนังกำพร้า (เมลาโนไซต์) จะผลิตสีเข้มและทำให้ผิวเป็นสีแทน

มีไฝใหม่เกิดขึ้น

โดยปกติคนเราจะมีไฝขึ้นประมาณ 20-40 จุด แต่หากหลังจากอาบแดดหรือโดนแสงแดดเป็นเวลานาน มีไฝเกิดขึ้นมาใหม่หรือเกิดการเปลี่ยนแปลง ควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนังอย่างเร็วที่สุด เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงอันตรายที่กำลังเกิดขึ้นกับผิว

ผิวไหม้

สัญญาณแรกของผิวที่เกิดความเสียหายจากแสงแดดก็คือ ผิวกลายเป็นสีน้ำตาล ต่อมาผิวจะไหม้ มีอาการคัน แดง และแสบร้อน โดยความรุนแรงของอาการจะขึ้นอยู่กับการเผาไหม้ ซึ่งการถูกแดดซ้ำๆ จะเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังและเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร

ดูแก่กว่าปกติ

แสงแดดเป็นตัวการที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ซึ่งประมาณร้อยละ 90 ของผิวที่มีริ้วรอยเกิดจากแสงแดด พบว่าผู้ที่ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 เป็นอย่างน้อย จะมีริ้วรอยแห่งวัยน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ทาครีมกันแดดประมาณร้อยละ 24

เพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง

การได้รับแสงแดดปริมาณมาก ทั้งยูวีเอ ยูวีบี และยูวีซี จะทำให้เกิดการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนังที่ผิดปกติ โดยหากได้รับเป็นระยะเวลานานเพียง 15 นาที ก็สามารถทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง ซึ่งในประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนังได้มากกว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม ผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด และผู้ป่วยมะเร็งลำไส้รวมกัน

ดังนั้น เพื่อไม่ให้ผิวต้องเจออันตรายจากแสงแดด ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 หรือมากกว่า โดยทาบริเวณผิวหน้าและบริเวณที่ต้องสัมผัสกับแสงแดดมาก โดยเฉพาะ 3 จุดสำคัญคือ ริมฝีปาก (ทาลิปบาล์มที่มีสารป้องกันแสงแดด), ผิวกาย และผิวมือ ซึ่งการใช้ครีมกันแดดให้มีประสิทธิภาพสำหรับผิวหน้า จะต้องใช้ปริมาณเท่ากับเหรียญบาทต่อครั้ง ผิวกายบริเวณประมาณ 1 อุ้งมือ และควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 20 นาที และทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook